ป๋าเหนาะขวางเฉลิมเป็นนายกฯ ซัดมีอดีตล้างไม่ออก เตือนเพื่อไทยประเทศมีวิกฤตยังเอาน้ำมันราด


"ป๋าเหนาะ" ไม่เห็นด้วย "เฉลิม" นั่งนายกฯ แจงเหตุผลเก่งเกินไป มีอดีตที่ล้างไม่ออก เตือนบ้านเมืองมีวิกฤตยังเอาน้ำมันราด เพื่อไทยแก้เกี้ยวใส่เชื่อให้เป็นเกียรติ ปลัดกห.ปัดข่าวคนชั้นสูงเรียกปชป.-ผบ.ทบ.คุยตั้งรบ.แห่งชาติ ชี้เป็นแค่ข่าวลือ

ปลัดกลาโหมเชื่อรัฐบาลแห่งชาติเป็นแค่ข่าวลือ

พล.อ.อภิชาต เพ็ญกิตติ ปลัดกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการลับ ลวง พราง ทางสถานีวิทยุเอฟเอ็ม 100.5 เมกะเฮิร์ตซ์ เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ถึงกระแสข่าวบุคคลชั้นสูงเรียกแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ไปพูดคุยเรื่องการจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติ ว่า คิดว่าไม่ใช่เรื่องจริง คงเป็นข่าวลือมากกว่า โดยในงานเลี้ยงรับรองรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมอาเซียน ก็ได้พบกับ พล.อ.อนุพงษ์ แต่ พล.อ.อนุพงษ์ไม่ได้คุยอะไรในเรื่องนี้

ผู้สื่อข่าวถามว่า หนักใจแทนหรือไม่ เพราะ ผบ.ทบ.มักถูกโจมตีตลอด พล.อ.อภิชาตกล่าวว่า พล.อ.อนุพงษ์สบายอยู่แล้ว และมีความหนักแน่น รวมถึงเข้าใจสภาพปัญหาที่จะต้องรุมเร้าเข้ามา จึงเชื่อว่า พล.อ.อนุพงษ์คงไม่มีปัญหาอะไรในความหนักแน่นในแนวทางที่วางตัวอยู่ในขณะนี้ เชื่อว่าน่าจะดีที่สุดแล้ว และคงไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการเมือง

"เราไม่เคยเป็นห่วงท่านเลย จากประสบการณ์ชีวิตที่ผ่านมา รวมถึงทุกคนที่ผ่านร้อนหนาวมาเยอะในศึกสงคราม จนถึงขณะนี้เรามีประสบการณ์มาพอสมควร จึงไม่ถือเป็นเรื่องที่น่าห่วงใยเท่าไร และเชื่อว่าเราทุกคนจะผ่านไปได้ด้วยดี"พล.อ.อภิชาตกล่าว

ประชาธิปัตย์จี้เพื่อไทยเปิดชื่อคนชั้นสูง

นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงประเด็นการตั้งรัฐบาลแห่งชาติ ว่า เป็นการพูดซ้ำๆ เพื่อทำให้สังคมไขว้เขวอย่างต่อเนื่อง พรรคประชาธิปัตย์ห่วงว่าการพูดดังกล่าวมีการพาดพิงและใช้ถ้อยคำที่กำกวม ทำให้กระทบสถาบันที่อยู่นอกการเมือง จึงขอให้นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญากุล ส.ส.แพร่ พรรคเพื่อไทย ออกมาระบุให้ชัดเจน และอยากให้ ร.ต.ท.เชาวริน ลัทธศักดิ์ศิริ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ที่พูดถึงคนชั้นสูง ขอท้าให้ออกมาพูดให้ชัดถึงสาระความจริง และตัวบุคคลที่ร่วมหารือกับ ร.ต.ท.เชาวริน เพราะพรรคประชาธิปัตย์ไม่มีแนวคิดตั้งรัฐบาลแห่งชาติตามที่พรรคเพื่อไทยปล่อยข่าว และไม่มีแนวทางการสนับสนุนการปกครองใดๆ ที่ไม่เป็นไปตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

"อยากย้อนถามกลับไปว่า ที่ระบุถึงรัฐบาลแห่งชาติเป็นไปตามแนวทางการปกครองระบอบประชาธิปไตย มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มีนายกรัฐมนตรีที่มาจากการเลือกตั้งในระบบรัฐสภาหรือไม่ หรือเพียงต้องการเคลื่อนไหวแก้รัฐธรรมนูญเพื่อตอบสนองความต้องการของคนบางกลุ่มหรือไม่" โฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าว

ด้านนายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย กล่าวว่า เรื่องการตั้งรัฐบาลแห่งชาติไม่มีทางเป็นไปได้และเป็นการเสนอแนวคิดแบบสะเปะสะปะ

"ชุมพล"ชี้ตั้งประธานบอร์ดการท่องเที่ยวไม่ผิด

นายชุมพล ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวถึงกรณีที่นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้สอบสวนกรณีที่แต่งตั้งนายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ ที่เพิกถอนสิทธิทางการเมือง เป็นประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) การท่องเที่ยวแห่งประทเศไทย (ททท.) ว่า ก่อนจะแต่งตั้งได้ศึกษาข้อกฎหมายอย่างรอบคอบ โดยดูจาก พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง 2550 ไม่มีข้อไหนที่ระบุว่า ห้ามผู้ที่ถูกเพิกถอนสิทธิทางการเมืองดำรงตำแหน่งนี้ เพราะไม่ใช่ตำแหน่งทางการเมือง แต่การทำงานในระบบราชการ อีกทั้งนายวีระศักดิ์เป็นผู้ที่มีความรู้ดี มีผลงานเป็นที่ยอมรับ และการดำรงตำแหน่งนี้ก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเมือง

"การแต่งตั้งนายวีระศักดิ์ครั้งนี้ไม่น่าจะขัดกฎหมายใด เพราะถ้าอ้างว่าการแต่งตั้งบุคคลตามมาตรา 18 พ.ร.บ.การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย 2522 ก็เท่ากับว่าการแต่งตั้งอธิบดีหรือแต่งตั้งบอร์ดการกีฬาก็เป็นตำแหน่งทางการเมืองทั้งสิ้น ความจริงกฎหมายไม่ได้หมายความอย่างนั้น ถือเป็นเรื่องที่นายสุรพงษ์เข้าใจผิด  หากเห็นว่าเรื่องนี้ทำให้เกิดความสงสัยก็สามารถยื่นเรื่องได้ ไม่ว่ากัน จะยื่นไปยัง กกต.หรือศาลรัฐธรรมนูญให้ตีความก็ได้ ไม่มีปัญหา" นายชุมพลกล่าว

"วีระศักดิ์"ประกาศพร้อมถูกตรวจสอบ

ด้านนายวีระศักดิ์กล่าวว่า ถือว่าเป็นเรื่องดีที่มีการตรวจสอบ เพราะการที่มาดำรงตำแหน่งสาธารณะก็สมควรที่จะถูกตรวจสอบ ทั้งนี้มองว่าผู้ยื่นตรวจสอบไม่ได้มีเจตนาทำลายล้าง แต่มองว่าเป็นการสร้างบรรทัดฐานว่าผู้ถูกตัดสิทธิทางการเมืองสามารถทำอะไรได้บ้าง ส่วนตัวอยากให้เป็นบรรทัดฐาน แต่ชั้นนี้ก็ยังทำงานต่อ เพราะยังไม่มีอะไรกระทบ และก่อนเข้ารับตำแหน่งนี้ตนได้ศึกษาข้อกฎหมายดีแล้วก็เห็นว่าไม่ได้ขัดต่อกฎหมายใด แต่อาจจะเป็นเพียงการตีความกฎหมายเพียงคนเดียว หากไปถึงบุคคลที่มีอำนาจในการชี้ขอบเขตของการดำรงตำแหน่งอาจจะได้คำตอบอีกอย่างก็ได้

"ตำแหน่งนี้เป็นแค่ตำแหน่งที่เราไม่ได้ตั้งใจที่ทำภายหลังการถูกตัดสิทธิ แต่ตั้งใจจะไปสอนหนังสือ เมื่อเข้ารับตำแหน่งแล้วก็ต้องทำและได้รับค่าตอบแทนเพียงเดือนละ 9,500 บาทเท่านั้นเอง" นายวีระศักดิ์กล่าว

นักวิชาการให้ กกต.สร้างบรรทัดฐาน

นายนันทวัฒน์ บรมนันท์ อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ความจริง ททท.ถือเป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ที่ผู้จะเข้าไปทำหน้าที่ไม่ถือว่าเป็นตำแหน่งทางการเมือง แต่เหตุที่เรื่องนี้เป็นปัญหาข้อสงสัยต่อกฎหมายนั้น ก็เกิดขึ้นจากภายหลังตุลาการรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ยุบพรรคไทยรักไทย ไม่ได้ระบุขอบเขตว่า การถูกเพิกถอนสิทธินั้นมีขอบเขตการห้ามดำรงตำแหน่งทางการเมืองมากน้อยแค่ไหน ประกอบกับคณะมนตรีความมั่นแห่งชาติ (คมช.) ที่เป็นผู้ทำการปฏิวัติก็ไม่ได้ออกกฎหมายอะไรที่เป็นการกำหนดกรอบชัดเจน

นายนันทวัฒน์กล่าวว่า ที่ผ่านมามีผู้สงสัยในการเข้าไปดำรงตำแหน่งของอดีตกรรมการบริหารพรรคที่ถูกตัดสิทธิ ไปเป็นที่ปรึกษานักการเมืองจำนวนมาก และ กกต.ก็ไม่ได้กำหนดขอบเขตให้ชัดเจน อีกทั้งไม่มีมาตรฐาน อาทิ ตัดสินว่าการที่ ส.ส.นำรูป พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ประกบเพื่อเป็นป้ายหาเสียงไม่สามารถทำได้ แต่กรณีที่นายเนวิน ชิดชอบ อดีตกรรมการบริหารพรรคมีบทบาทการจัดตั้งรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ไม่ถือเป็นความผิด ดังนั้น กกต.ควรสร้างบรรทัดฐานให้ชัดว่า สิ่งใดทำได้ สิ่งใดทำไม่ได้

"เสนาะ"ขวางใส่ชื่อ"เฉลิม"นายกฯ

นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยจะเสนอชื่อ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย เป็นนายกรัฐมนตรี ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ว่าที่ผ่านมายังไม่ได้มีการหารือในเรื่องนี้ ซึ่งไม่ได้คัดค้าน แต่อยากเตือนพรรคเพื่อไทยว่า อย่าทำในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ รู้ว่าไม่ได้อยู่แล้ว แล้วจะทำทำไม เห็นอยู่ว่าบ้านเมืองมีวิกฤตยังจะเอาน้ำมันไปราด ทำแล้วไม่มีเหตุผลอายเขาเปล่าๆ เพราะการแก้ปัญหาคือ เอาสิ่งที่ดีไปหักล้างกับสิ่งที่ไม่ดี ไม่ใช่เอาสิ่งไม่ดีมาหักล้างกัน อย่างตนที่เสนอ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ว่าที่ หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน เป็นนายกฯ ไม่ใช่เพราะ พล.ต.อ.ประชาเก่งกว่า แต่เพราะต้องทำให้ประเทศชาติเกิดความสงบเรียบร้อย และไม่ใช่ว่า ร.ต.อ.เฉลิมไม่เก่ง แต่ว่าเก่งเกินไป อีกทั้งร.ต.อ.เฉลิมยังมีอดีตที่ล้างไม่ออก คนที่จะปกครองบ้านเมืองต้องไม่มีอดีต ที่พูดแบบนี้ ไม่ได้รู้สึกเกลียดชัง ร.ต.อ.เฉลิม แต่ไม่ต้องการเห็นความขัดแย้งเกิดขึ้น

"เรื่องแบบนี้ไม่ใช่เรื่องที่จะมาเอาชนะกัน เพราะทำแบบนี้ก็จะมีแต่ความแตกแยกไม่จบสิ้น ตอนที่เป็นรัฐบาลขั้วเดิม ก็มีอีกขั้วหนึ่งออกมาต่อต้าน ทำลายบ้านเมืองจนเละเทะไปหมด และก็มีรัฐบาลชุดนี้ขึ้นมาท่ามกลางความขัดแย้งอย่างรุนแรง แล้วยังมาเสนอของเก่าที่มีแต่ความแตกแยกแล้วจะจบอย่างไร ผู้ใหญ่ในพรรคเพื่อไทย โทร.มาหาผมหลายคน บอกว่าเห็นด้วยกับแนวคิดของผม และรับไม่ได้ที่จะใส่ชื่อ ร.ต.อ.เฉลิมเป็นนายกฯ" นายเสนาะกล่าว

ซัดรัฐบาลบริหารประเทศผิดพลาด

นายเสนาะกล่าวว่า ก่อนหน้านี้ที่เคยมีการพูดถึงเรื่องรัฐบาลเพื่อชาติ ทุกคนก็เห็นด้วย แต่พอจะเอาเข้าจริงก็กลัวจะเสียผลประโยชน์ของตัวเอง ไม่สนใจผลประโยชน์ของบ้านเมือง ไม่มีโอกาสให้บ้านเมืองได้หายใจ ยังจะเอาบ้านเมืองไปเป็นเครื่องมือในการต่อสู่ โดยไม่คำนึงถึงอนาคตของประชาชนว่าจะอยู่อย่างไร เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องสนุก ในขณะที่บ้านเมืองยังมีการรบราฆ่าฟันกัน ก็คงไม่มีทางเจริญ ยุบสภา เท่ากับว่าประเทศก็แค่เจ๊ง ปฏิวัติก็เหมือนคนล้มละลาย แต่ถ้าปล่อยให้บ้านเมืองเป็นแบบนี้ต่อไป ก็จะไม่มีอะไรเหลือ

นายเสนาะกล่าวว่า รัฐบาลบริหารประเทศผิดพลาด เอาเงินประเทศไปหว่าน พอเงินหมดก็ไปก็ขึ้นภาษีเอากับประชาชนทำให้ได้รับความเดือดร้อน คนที่ได้รับการแจกเงินจากรัฐบาล ได้มาก็ไม่คุ้ม เพราะข้าวของก็แพง น้ำมันก็ขึ้นราคา ส่วนคนที่ไม่ได้เงินก็ยิ่งแย่ไปกันใหญ่ ยังจะต้องมาเสียภาษีเพิ่ม รัฐบาลเดิมที่ประชานิยมเขาหาเงินเป็น ไม่ใช่กู้เอาเงินไปหว่านให้ประชาชนมารักตัวเอง ตราบใดที่เอาคนไม่ถูกต้องมาแก้ปัญหามันก็ไม่ถูกต้อง รัฐบาลนี้ไม่เคยพูดถึงเรื่องการหาเงินเลยว่าจะหามาจากตรงไหน รู้แต่จะใช้อย่างเดียว ไม่รู้ว่านายกฯคิดได้แค่นี้เองหรือ นายอภิสิทธิ์เป็นตัวของตัวเองหรือไม่ หรือต้องคอยแต่จะเอาใจพรรคร่วมรัฐบาล จนคิดอะไรเองไม่เป็น ประเทศอื่นเขามีนายกฯเพื่อให้มาดูแลบ้านเมือง ไม่ใช่มาทำลายบ้านเมือง

"เพื่อไทย"แจงแค่ให้เกียรติ"เฉลิม"

นายวิทยา บูรณศิริ ส.ส.พระนครศรีอยุธยา พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่นายเสนาะไม่เห็นด้วยที่พรรคเพื่อไทยที่จะเสนอชื่อ ร.ต.อ.เฉลิม เป็นนายกรัฐมนตรี ว่าเมื่อมีการอภิปรายจะต้องใส่ชื่อนายกฯคนต่อไป ดังนั้น ทางพรรคเพื่อไทยจึงเห็นว่า ร.ต.อ.เฉลิมเป็นแกนนำหลักในการอภิปราย เป็นหัวหมู่ทะลวงฟัน จึงให้เกียรติโดยการใส่ชื่อ ร.ต.อ.เฉลิมเท่านั้น ขณะนี้พรรคเพื่อไทยจะทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาล ไม่ได้คาดหวังว่าจะล้มรัฐบาลได้ เพราะต้องการให้รัฐบาลดำเนินการแก้ไขปรับปรุงในส่วนที่ถูกอภิปราย และเชื่อว่าเมื่อมีการอภิปรายไปแล้ว จะต้องเกิดการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างในพรรคประชาธิปัตย์แน่นอน

นายวิทยากล่าวว่า การที่หลายฝ่ายวิตก เรื่องตัวนายกฯคนต่อไปนั้น เป็นสิ่งที่พรรคเพื่อไทยจะสะท้อนให้เห็นว่า เราก็ต้องการให้เกิดความสามัคคี ยุติความรุนแรง และเสนอคนกลางมาเป็นรัฐมนตรี โดยสนับสนุนรัฐบาลแห่งชาติ ดังนั้น ในการทำเพื่อชาติตามที่นายเสนาะได้เสนอนั้น พรรคเพื่อไทยก็จะไม่เสนอชื่อคนเป็นนายกฯที่มาจากคนในพรรค และเชื่อว่าเรื่องนี้จะมีการดำเนินการในอนาคตอันไกล และขอให้จับตาการหารือของหัวหน้าพรรคต่างๆ ในวันที่ 2 มีนาคมนี้ให้ดี

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์