ป๋าเหนาะ ออกโรงจวก คมช. มีอำนาจในมือทำอะไรไม่ได้

นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช กล่าววานนี้ (13 เม.ย.) ถึงปัญหาที่เกิดขึ้นกับรัฐบาลและคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ในขณะนี้ ว่า

เสนาะ เทียนทอง



เหตุผลทั้ง 4 ข้อของการปฏิวัติยังไม่เกิดความชัดเจน ยังปล่อยให้มีการออกมาชุมนุมเคลื่อนไหว มันผิดหลักและเชื่อว่า ในที่สุดก็จะเกิดปัญหา ขณะที่การทำงานของรัฐบาลกลับไม่มีคนคอยคุมนโยบาย พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี กลับปล่อยให้รัฐมนตรีทำตามใจชอบ ทั้งที่นายกฯต้องกำหนดนโยบายให้เป็นไปในทิศทางที่วางไว้



เมื่อถามถึงการเมืองในอีก 6 เดือนข้างหน้า หัวหน้าพรรคประชาราช กล่าวว่า

เสนาะ เทียนทอง


ยังมองไม่ออกว่าจะเป็นอย่างไร เพราะ คมช.เองก็เปรียบเหมือนคนที่เยี่ยวไม่สุด เนื่องจากมีอำนาจอยู่ในมือ และทำปฏิวัติเพื่อกล่าวหารัฐบาลชุดที่แล้วไว้ถึง 4 ข้อ

แต่ก็ยังไม่ได้ทำอะไรให้เป็นรูปธรรมซักที รัฐบาลในฐานะที่มีอำนาจบริหารประเทศแทน คมช. ต้องรับผิดชอบในการทำให้เกิดเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะนายกฯที่ต้องรับผิดชอบทุกด้าน


เสนาะ เทียนทอง


แม้ว่า พล.อ.สุรยุทธ์ จะออกมากำหนดวันเลือกตั้งแล้วก็ตาม แต่หากยังไม่มีการวางหลักเกณฑ์ กติกาที่เป็นอนาคตของประเทศให้ดี การเลือกตั้งก็ไม่ใช่ ทางแก้ปัญหา

แต่จะยิ่งเกิดปัญหาหนัก หากเรามีการเลือกตั้งภายใต้กรอบที่ไม่ถูกต้อง เพราะถ้าวางกรอบไม่ดีแล้วได้โจรกลับมาปกครองบ้านเมือง แล้วใครจะรับผิดชอบ นายเสนาะกล่าว


เมื่อถามถึงกระแสข่าว พล.อ.สุรยุทธ์ลาออก นายเสนาะ กล่าวว่า

เสนาะ เทียนทอง


การลาออกไม่ใช่การแก้ปัญหา การเลือกตั้งก็ไม่ใช่ทางแก้ปัญหา และไม่ควรน้อยใจเพราะคนติฉินจนต้องลาออก เพราะตำแหน่งนี้ไม่ใช่เข้ามาเพื่อลาออก

แต่ทางแก้ปัญหาคือนายกฯควรปรึกษากับบุคคลอื่นๆให้กว้างออกไป ทั้งตัวแทนจากพรรคการเมือง ไม่ใช่แค่เชิญกินข้าวเพื่อสร้างภาพ แต่ต้องดูที่มาของแต่ละพรรคว่าตั้งขึ้นเพื่ออะไร สื่อมวลชนระดับอาวุโส และผู้ที่เคยบริหารประเทศเพื่อมาปรึกษาให้รอบด้าน

ขอขอบคุณ หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ประวัติ เสนาะ เทียนทอง


เสนาะ เทียนทอง เกิดเมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2477 จบการศึกษาขั้นสูงสุด ปริญญาตรี นิติศาสตร์บัณฑิต ได้รับพระราชทาน เครื่องราชย์อิสริยาภรณ์ ม.ป.ช.


หลังจากการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เมื่อ พ.ศ. 2548 เขาได้รับตำแหน่งเป็น สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคไทยรักไทย


เสนาะ เทียนทองมีบุตรชายด้วยกันกับนางอุไรวรรณ 1 คนคือ นายจตุฤทธ์ เทียนทอง


เสนาะ เริ่มงานการเมืองครั้งแรกกับพรรคชาติไทย เมื่อปี พ.ศ. 2518 และลงสมัคร ส.ส.ครั้งแรก เมื่อปี พ.ศ. 2519 ได้รับเลือกเป็น ส.ส.ปราจีนบุรี และสระแก้ว (เมื่อ สระแก้ว แยกออกมาเป็นจังหวัดใหม่) ต่อมาเริ่มมีบทบาทมากขึ้นในพรรค จนดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรคชาติไทย ในขณะที่นายบรรหาร ศิลปอาชาเป็นหัวหน้าพรรค และได้เป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อ พ.ศ. 2538

นายเสนาะ ลาออกจากพรรคชาติไทย เมื่อ พ.ศ. 2539 หลังจากนายบรรหาร ศิลปอาชา ประกาศยุบสภา เข้าร่วมพรรคความหวังใหม่ ดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรค ส่งให้พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ เป็นนายกรัฐมนตรี และนายเสนาะได้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย

ในการเลือกตั้งครั้งต่อมา นายเสนาะ ได้ย้ายมาสังกัดพรรคไทยรักไทย และสนับสนุนให้พตท. ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี โดยรับตำแหน่งประธานที่ปรึกษาพรรคไทยรักไทย และไม่รับตำแหน่งทางการเมือง โดยให้นางอุไรวรรณ เทียนทอง ภรรยา รับตำแหน่งรัฐมนตรีในรัฐบาลในโควตากลุ่มวังน้ำเย็น

ในระยะหลัง นายเสนาะถูกลดบทบาทความสำคัญในพรรค สร้างความไม่พอใจ จนกระทั่งในการประชุมรัฐสภาเพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ประเด็นการสรรหา ป.ป.ช. เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2548 นายเสนาะได้อภิปรายวิพากษ์วิจารณ์นายทักษิณ ชินวัตร อย่างรุนแรง

นายเสนาะลาออกจากพรรคไทยรักไทยเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2549 หลังจากที่นายทักษิณ ชินวัตร ประกาศยุบสภา และได้ขึ้นเวทีในการขับไล่ ทักษิณ ชินวัตร ให้ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหลายครั้ง

จากนั้นนายเสนาะได้ก่อตั้งพรรคการเมืองขึ้นมาใหม่ ชื่อว่า พรรคประชาราช โดยในช่วงแรกของการตั้งพรรคนั้น นายเสนาะจะเป็นหัวหน้าพรรค โดยนโยบายหลักของพรรคที่ประกาศคือ "เพื่อปฏิรูปการเมือง และล้มล้างระบบทักษิณ"

ภูมิหลังที่ถูกกล่าวขวัญมาก คือ การนำที่ดินที่นางเนื่อมบริจาคให้วัดไปสร้างสนามกอล์ฟอัลไฟน์ แล้วขายต่อให้ พตท.ทักษิณ ชินวัตร


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์