ป๋า ไม่โกรธ

นายกฯ นำครม.ให้กำลังใจป๋าเปรม ถึงบ้านพัก พร้อมขอโทษ


ใช้มาตรการดูแลไม่ดีพอ  "บิ๊กแอ้ด" ชี้กลุ่มเสียผลประโยชน์ทางการเมืองคอยใส่ร้ายป๋า มีเจตนาทำลายสถาบันเบื้องสูง เผย "ป๋า" ไม่โกรธ-ไม่เครียด รู้ดีเป็นเหตุการณ์ไม่คาดคิด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 14.00 น. ภายหลังการประชุมครม.พล.อ. สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรีได้นำคณะรัฐมนตรี เดินทางโดยรถบัสคันใหญ่ เพื่อไปยังบ้านพักสี่เสาเทเวศร์ของพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เพื่อให้กำลังใจที่ถูกกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ (นปก.) บุกไปประท้วงและขับไล่ออกจากตำแหน่งในช่วงค่ำของวันที่ 22 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวก่อนเดินทางออกจากทำเนียบฯ ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ว่า การเข้าพบพล.อ.เปรมครั้งนี้ไม่มีโอกาสอะไรเป็นพิเศษ เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าเป็นการให้กำลังใจพล.อ.เปรมหรือไม่ นายกรัฐมนตรีปฎิเสธตอบคำถามแต่ได้พยักหน้ายอมรับ  
 
ซึ่งในการเข้าเข้าพยในครั้งนี้ได้เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนเข้าไปทำข่าวด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทั้งนี้การเข้าพบ พล.อ.เปรม ของนายกรัฐมนตรี และครม.ในครั้งนี้ ได้เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนเข้าไปทำข่าวและถ่ายภาพถึงภายในสนามหญ้าหน้าบ้านพัก โดยทันทีที่ ครม.เดินทางไปถึง พล.ร.ท. พระจุณ ตามประทีป  หัวหน้าสำนักงานประธานองคมนตรี ได้มาคอยต้อนรับด้วยตัวเอง พร้อมนำเข้าบ้านพักเพื่อพบกับพล.อ.เปรม อย่างไรก็ตามในระหว่างการหารือไม่ได้เปิดโอกาสให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปทำข่าวแต่อย่างใด โดยการหารือใช้เวลาทั้งสิ้นประมาณ 30 นาที

การกระทำดังกล่าวส่งผลให้ภาพลักษณ์สถาบันเบื้องสูงดูเสื่อมเสีย


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกรัฐมนตรี ได้เป็นตัวแทน ครม.กล่าวกับ พล.อ.เปรม ว่า ในห้วงเวลาที่ผ่านมาได้มีกลุ่มบุคคลบางกลุ่มที่มีความขัดแย้งทางการเมือง และสูญเสียผลประโยชน์ได้ออกมาเคลื่อนไหวชุมนุมเรียกร้อง กล่าวหา กล่าวพาดพิงโจมตี ใส่ร้ายป้ายสี พล.อ.เปรมอย่างต่อเนื่อง กลุ่มดังกล่าวมีเจตนาที่จะทำลายสถาบันเบื้องสูงที่อยู่คู่ประเทศไทย และเป็นที่พึ่งของประชาชนเพียงเพื่อหวังผลทางการเมือง 
 
หลังจากนั้นนายกรัฐมนตรีได้กล่าวต่อสื่อมวลชน

“คณะรัฐมนตรีภายใต้การนำของกระผมเห็นว่าการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขของชาติไทยตั้งแต่ปี 2475 เป็นต้นมา โดยเฉพาะรัฐธรรมนูญปี 2540 และรัฐธรรมนูญปี 2550 ฉบับที่กำลังจะลงมติกันในเร็ว ๆ นี้ได้มีบทบัญญัติชัดเจนว่าพระมหากษัตริย์ทรงเลือกและทรงแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิเป็นประธานองคมนตรีและองคมนตรีอื่นอีกไม่เกิน 18 คน ประกอบเป็นคณะองคมนตรีซึ่งมีหน้าที่ถวายความเห็นต่อพระมหากษัตริย์ในพระราชกรณียกิจทั้งปวงที่ทรงปรึกษา คณะองคมนตรีจึงถือเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของสถาบันเบื้องสูง ดังนั้นตามที่ ฯพณฯ ได้รับสนองพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งประธานองคมนตรี จึงถือว่าเป็นบุคคลที่มีความรู้ ความสามารถเป็นคนดี มีคุณธรรมและจริยธรรม เป็นบุคลากรที่หาได้ยากยิ่งในแผ่นดิน ที่ได้ทำงานเสียสละเพื่อชาติบ้านเมืองมาตลอด” นายกรัฐมนตรี กล่าว 

ซึ่งการกระทำดังกล่าวถือเป็นเรื่องที่ไม่ควรอย่างยิ่ง
 
พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวอีกว่า การกระทำของกลุ่มบุคคลที่ไม่หวังดีต่อชาติบ้านเมืองได้กระทำการอันจาบจ้วงทั้งที่สนามหลวง และเดินมากล่าวให้ร้ายป้ายสีที่บริเวณหน้าบ้านพักของ พล.อ.เปรม จนเกิดการจลาจลขึ้นเมื่อวันที่ 22 ก.ค.ที่ผ่านมา จึงเป็นการมิบังควรอย่างยิ่ง ทั้งนี้รัฐบาลได้ประชุมหารือกับหน่วยความมั่นคงแล้ว จะต้องใช้มาตรการที่เด็ดขาดทางด้านกฎหมายดำเนินการต่อกลุ่มบุคคลดังกล่าว และตนก็กราบขออภัยต่อพล.อ.เปรมที่มาตรการในการดูแลยังย่อหย่อนไม่รัดกุม และจะป้องกันมิให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก ซึ่งรัฐบาลยืนยันว่าจะดำเนินการทุกวิถีทางที่จะนำความผาสุกปรองดองให้กลับคืนมาสู่ประชาชนคนไทยให้เร็วที่สุด 
 

ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น "ป๋าเปรม" ไม่โกรธ และเข้าใจดี


ต่อมาภายหลังการเข้าพบ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ว่า พล.อ.เปรมได้บอกว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้โกรธและไม่ได้เครียดกับผู้ที่กระทำ เพราะถือว่าเป็นเหตุการณ์ซึ่งไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดขึ้น ซึ่งตนและครม.เดินทางมาในวันนี้ก็เพื่อให้กำลังใจ ซึ่งพล.อ.เปรมก็บอกว่าท่านมีกำลังใจ นั่นก็เป็นสิ่งที่ดี อย่างไรก็ตามท่านก็ไม่ได้ให้คำแนะนำหรือฝากแนวทางในการเจรจากับกลุ่ม นปก.แต่อย่างใด แต่ท่านขอให้ ครม.ทำหน้าที่ในการที่จะนำพาชาติบ้านเมืองกลับไปสู่ระบอบประชาธิปไตยที่มาจากการเลือกตั้งให้ได้ตามที่มุ่งหวังไว้ 
 
ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้ต้องมีการร่วมมือกันมากขึ้นไปอีก

เมื่อถามว่ารัฐบาลได้ให้ความเชื่อมั่นถึงแนวทางในการแก้ปัญหาความวุ่นวายกับพล.อ. เปรมหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ก็ต้องเป็นความร่วมมือซึ่งกันและกัน เมื่อถามว่าพล.อ.เปรมเป็นห่วงหรือไม่ว่าความรุนแรงเมื่อวันที่ 22 ก.ค.จะบานปลายออกไปอีกในอนาคต พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า เราก็พยายามที่จะแก้ไข รัฐบาลยังคงยึดมั่นที่จะแก้ไขปัญหาด้วยการเจรจาโดยสันติวิธี รัฐบาลต้องการให้ประเทศชาติกลับไปสู่ระบอบประชาธิปไตยที่มาจากการเลือกตั้งตามที่เรามุ่งหวังไว้ 
 
ส่วนข่าวเกี่ยวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ในสื่อต่างประเทศ

ผู้สื่อข่าวถามว่ามีความเห็นอย่างไรกรณีที่ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างประเทศโดยอ้างว่าสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชสยามมกุฎราชกุมารเสด็จไปเยี่ยมที่ประเทศอังกฤษ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่ทราบ

เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์