ปูย้ำไม่แบ่งสัดส่วนเก้าอี้รมต.

"ยิ่งลักษณ์" ยันไม่แบ่งสัดส่วนเก้าอี้รมต. ระบุตัวเลข 299 สวยแล้ว ยอมรับครม.หน้าตาอาจไม่โดนใจ วอนให้ดูที่ผลงาน

เมื่อวันนี้ 5 ก.ค. เวลา 09.30 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 1 พรรคเพื่อไทย ว่าที่นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของไทย ได้เดินทางมายังที่ทำการพรรคเพื่อไทย ถนนเพชรบุรี เพื่อร่วมประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ของพรรค

ทั้งนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ให้สัมภาษณ์ถึงโผครม.ที่ปรากฏออกมาทางสื่อมวลชน ว่า เรื่องนี้ยังไม่มีการพิจารณาตามที่มีข่าวออกมา และยังไม่ได้มีการพูดคุยกัน เพราะอยากให้ผ่านขั้นตอนของการประกาศรับรองส.ส.ไปก่อน ส่วนจะมีความกังวลเรื่องมีการต่อรองตำแหน่งกันเองหรือไม่นั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า เชื่อว่าสุดท้ายแล้วคงคุยกันได้ ส่วนตัวอยากเห็นครม.ชุดนี้ช่วยกันทำงาน และไม่มีการแบ่งเป็นอัตราส่วน 10 ต่อ 1 ตามที่เป็นข่าวแต่อย่างไร

น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวด้วยว่า คุณลักษณะของรัฐมนตรีและครม.จะเป็นผู้มีความรู้ความสามารถเกี่ยวข้องกับงาน
 
โดยจะไม่ปิดกั้นทั้งคนในและคนนอกและขอเวลาในการดำเนินการก่อน ส่วนภาพของครม.ที่ออกมาประชาชนจะยอมรับได้หรือไม่ นั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า จะทำอย่างดีที่สุดแต่บางครั้งมีข้อจำกัดหลายอย่าง เพราะบางครั้งหน้าตาอาจจะไม่ดี แต่ต้องมาดูที่ผลงาน เพราะถือว่ามีความสำคัญมากกว่า ขณะที่เวลานี้ตัวเลข 299 ยังสวยอยู่

เมื่อถามว่าก่อนหน้านี้ เคยให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างประเทศว่าหากจะนำ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ กลับประเทศจะต้องมีการรื้อคดีก่อนนั้น
 
น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ขอยืนยันว่าไม่ได้ให้สัมภาษณ์เช่นนั้น และการจะนำพ.ต.ท.ทักษิณกลับบ้านยังไม่ใช่ประเด็นเพราะเราไม่มีนโยบายทำเพื่อคนๆ เดียว แต่เรื่องนี้จะเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและดำเนินการเกี่ยวกับการปรองดอง ที่จะนำเรื่องดังกล่าวมาพิจารณา อย่างไรก็ตามถ้ารื้อคดีเพียงอย่างเดียว ทุกอย่างคงยังไม่จบ เพราะโจทย์จริง ๆของพรรคไม่ต้องการมารื้อคดีหรือแก้แค้นใคร รวมทั้งไม่ต้องการล้างสิ่งที่ผิดให้เป็นสิ่งที่ถูก แต่มีโจทย์ว่าจะทำอย่างไรให้ประเทศมีความสามัคคีและปรองดองนี่คือหน้าที่หลักของพรรคเพื่อไทย

ส่วนที่สื่อต่างประเทศนำเสนอข่าวว่าหากพรรคเพื่อไทยทำเรื่องการนิรโทษกรรมและครม.ไม่เป็นที่ยอมรับ อาจทำให้รัฐบาลอยู่ไม่ถึง 3 เดือน น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า อยากให้รอดูตอนประกาศก่อนจะดีกว่าจะได้มีความชัดเจน ประกอบกับตอนนี้ยังไม่ถึงเวลามาคุยเรื่องนิรโทษกรรมและเราจะไม่ทำเพื่อคน ๆ เดียว แต่จะทำเพื่อส่วนรวม โดยหลังจากมีครม.ออกมาแล้ว ก็พร้อมทำงานตามนโยบายที่ให้ไว้กับประชาชน.