ปูพรมค้นนราธิวาส ยึดยุทโธปกรณ์อื้อ

ปูพรมค้นนราธิวาส ยึดยุทโธปกรณ์อื้อ ชาวบ้านถูกเคอร์ฟิว พอใจเหตุร้ายลดลง


ป่วนรายวัน : เจ้าหน้าที่หน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด จ.นราธิวาส เข้าเก็บกู้วัตถุต้องสงสัยที่คนร้ายลอบวางไว้ใต้ต้นไม้หลังตัดโค่นขวางถนนในพื้นที่ อ.รือเสาะ เพื่อขัดขวางการบุกเข้าตรวจยึดยุทโธปกรณ์สุมไฟใต้ โดยภายหลังเก็บกู้สำเร็จพบว่า เป็นเพียงก้อนอิฐอยู่ภายในกล่องเท่านั้น

เมื่อเวลา 05.00 น.วันที่ 25 มีนาคม


พ.ต.อ.บรรลือ ชูเวชย์ ผกก.สภ.อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส พร้อมกำลังตำรวจในพื้นที่ใกล้เคียง 3อำเภอ คือ อ.ศรีสาคร บาเจาะและอ.ยี่งอ รวมทั้งทหารและฝ่ายปกครอง กว่า 400นาย เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายเป็นครั้งที่2 ที่บ้านกาโดะ ม.4 ต.รือเสาะออก อ.รือเสาะ พบกระท่อมไม่มีเลขที่ซุกซ่อนอุปกรณ์เครื่องมือต่างๆจำนวนมาก อาทิ

กระสุนปืนลูกซองเบอร์12
กระสุนปืนขนาด.357
ชุดสนาม 10ชุด
มีดสปาต้า
สายไฟฟ้า
ป้ายทะเบียนรถยนต์
ตะปู และเวชภัณฑ์
รวมทั้งชุดลายพรางอีกสิบหลายชุด

ขณะเดียวกัน ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า


บนถนนสายรือเสาะ-นราธิวาส มีต้นไม้ใหญ่ขวางถนนหลายจุดและยังมีวัตถุต้องสงสัยวางอยู่กลางถนน ทำให้รถยนต์ไม่สามารถสัญจรได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงประสานไปยังหน่วยปฎิบัติการพิเศษ(นปพ.)จ.นราธิวาส เข้าตรวจสอบ

โดยจุดแรก ที่บริเวณบ้านยะบะ ม.2 ต.รือเสาะ อ.รือเสาะ มีกล่องต้องสงสัยวางอยู่ริมถนน จึงยิงทำลายตรวจสอบภายในเป็นก้อนอิฐ และห่างไป 2กิโลเมตร มีกล่องต้องสงสัยวางอยู่กลางถนน 2กล่อง ตรวจสอบเป็นก้อนอิฐเช่นเดียวกัน

ส่วนพื้นที่บ้านสะโลว์บูกิ๊ตยือแร ม.9 ต.รือเสาะ มีต้นไม้ใหญ่ถูกตัดโค่นขวางถนน แต่ไม่พบวัตถุอันตราย เจ้าหน้าที่ช่วยกันนำต้นไม้ออกและเปิดการจราจรได้ตามปกติ เช่นเดียวกับที่บริเวณบ้านลาเมาะ ม.3 ต.รือเสาะ มีการตัดต้นไม้ขวางถนนและวางวัตถุต้องสงสัย ภายในเป็นกระสอบปุ๋ย

นอกจากนี้ ที่บนถนนหมู่บ้านลาโล๊ะ ม.7 ต.ลาโล๊ะ อ.รือเสาะ มีต้นไม้ขวางทาง และวางวัตถุต้องสงสัย แต่ภายในไม่มีสิ่งใดเป็นอันตราย

ส่วนที่ห้องเครื่องยนต์เครื่องสูบน้ำที่บ้านท่าเรือ ม.1 ต.รือเสาะ อ.รือเสาะ เจ้าหน้าที่ตรวจพบระเบิดแสวงเครื่องนัก 10กิโลกรัม บรรจุในถังดับเพลิง ซึ่งเป็นลูกที่2 ที่ยังไม่ทำงาน ส่วนลูกแรกระเบิดไปก่อนหน้านี้เมื่อกลางดึกวันที่ 25 มีนามคมที่ผ่านมา

ปูพรมค้นนราธิวาส ชาวบ้านถูกเคอร์ฟิว พอใจเหตุร้ายลดลง





ด้าน นายมะรุสะดี ดิสสาเอะ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลตาเนะปูเต๊ะ อ.บันนังสตา จ.ยะลา เปิดเผยว่า


หลังประกาศให้กฎเคอร์ฟิวในช่วง 10วันที่ผ่านมานั้น ยอมรับว่าปัญหาความรุนแรงในพื้นที่ลดลงอย่างมาก และภาวนาว่าปัญหาต่างๆ จะแก้ได้ทั้ง 100เปอร์เซ็นต์ในอนาคตอันใกล้นี้ แม้ชาวบ้านจะได้รับผลกระทบในการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตบ้างเล็กน้อยก็ตาม ส่วนนี้ต้องชื่นชมเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนที่ร่วมกันแก้ปัญหาอย่างจริงจัง

ขณะที่ นายมะสาแม(สงวนนามสกุล)ชาวบ้านพื้นที่ อ.ยะหา กล่าวว่า


หลังประกาศเคอร์ฟิวตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคมจนขณะนี้ล่วงเลยมา 10 วันพบว่า เหตุรุนแรงต่างๆลดลงอย่างเห็นได้ชัด ทั้งนี้ ถือเป็นการกดดันการเคลื่อนไหวของฝ่ายตรงข้ามได้เป็นอย่างดี ส่วนการประกาศเคอร์ฟิวยอมรับว่าส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตของชาวบ้านเพียงเล็กน้อย

สำหรับเหตุร้ายรายวัน เกิดขึ้นเมื่อ เวลา 20.10น.วันที่ 25มีนาคมที่ผ่านมา


ขณะที่ นายอาแซ หะยีสาและ อายุ 44ปี ตำแห่งคอเต็บ ประจำมัสยิดบ้านต้นแซะ ม.6 ต.เมาะมาวี อ.ยะรัง จ.ปัตตานี เดินกลับจากมัสยิดเพื่อเข้าบ้าน คนร้ายได้ซุ่มยิงด้วยปืนอาก้าหลายนัดทำให้เสียชีวิตทันที จากนั้นญาติๆและชาวบ้าน รีบทำการฝังศพ หลังได้รับยืนยันจากภรรยาและแม่ผู้ตายว่า ไม่ต้องอาบน้ำศพและไม่ต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าที่เปื้อนเลือดตามคำสั่งเสียของผู้ตาย

ซึ่งการกระทำลักษณะนี้คือสัญลักษณ์ความโกรธแค้นระหว่างประชาชนกับราชการ

ชาวบ้านบางส่วนจึงอยากให้ภาครัฐรีบเข้าไปเยียวยาและสร้างความเข้าใจอย่างเร่งด่วน ก่อนจะเกิดการเข้าใจผิดและสายเกินแก้ เพราะผู้ตายเป็นคนดี จนคนในหมู่บ้านเรียกว่า "บาบอ" (โต๊ะครู)


ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์แนวหน้า

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์