ปูพบปูติน ผลักดันความร่วมมือพลังงานและเทคโนโลยี-พร้อมหารือปัญหาชายแดนใต้กับผู้นำมาเลเซีย

ปูพบปูติน ผลักดันความร่วมมือพลังงานและเทคโนโลยี-พร้อมหารือปัญหาชายแดนใต้กับผู้นำมาเลเซีย

          ผู้สื่อข่าวรายงานภารกิจของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในช่วงเช้าของวันที่ 8 ก.ย. ก่อนเข้าร่วมการประชุมผู้นำเอเปค ครั้งที่ 20 ระหว่างวันที่ 7-9 กันยายน 2555 ว่า เมื่อเวลา 10.40 น. ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งเร็วกว่าประเทศไทย 4 ชั่วโมง นายกรัฐมนตรีได้พบและหารือทวิภาคีกับ 3 ผู้นำเขตเศรษฐกิจ ได้แก่ นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ประธานาธิบดีชิลี และ ประธานาธิบดีรัสเซีย ซึ่งเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม โดยภายหลังการหารือ นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนทางการถึงผลการกับนายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัคแห่งมาเลเซียว่า ในการหารือต่างยืนยันความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดของสองประเทศ โดยมีการหารือถึงแนวทางการพัฒนาความสัมพันธ์ทั้งด้านความมั่นคงและเศรษฐกิจตามแนวชายแดน


           ซึ่งในช่วงปลายเดือนตุลาคมนี้ มาเลเซียจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะกรรมาธิการร่วม หรือ Joint Commissionและจะได้มีการหยิบยกเรื่องความมั่นคง โดยเฉพาะตามแนวชายแดน ซึ่งจะนำเทคโนโลยีมาใช้ในการตรวจตราการข้ามแดนเพื่อให้เกิดความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยว และเพิ่มพูนการค้าการลงทุนระหว่างกันให้มากขึ้

            นอกจากนี้ จะมีการแก้ปัญหาบุคคลสองสัญชาติ ซึ่งต้องเร่งรัดแก้ไขปัญหาเหล่านี้ให้เร็วที่สุด รวมทั้งการพัฒนาเพื่อยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่ ในส่วนของปัญหาชายแดนได้ตกลงกันที่จะนำเอาเทคโนโลยีมาใช้ในการตรวจตราตามแนวชายแดนเพื่อให้เกิดความปลอดภัยและเพิ่มพูนการค้าการลงทุนระหว่างกันให้มากขึ้น ซึ่งมาเลเซียพอใจกับการดำเนินการดังกล่าวและพร้อมจะส่งคนมาช่วย


           น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า นอกจากนี้ยังได้หารือกันเกี่ยวกับประเด็นเรื่องบุคคลสองสัญชาติ ซึ่งสองประเทศเห็นตรงกันว่าต้องเร่งรัดแก้ไขปัญหาเหล่านี้ให้เร็วที่สุด โดยประเด็นต่างๆ ทั้งหมดนี้รวมถึงการพัฒนาความเป็นอยู่ การเพิ่มมาตรการที่จะช่วยเสริมความปลอดภัยให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยวตามแนวชายแดน และการเพิ่มพูนการค้าการลงทุนระหว่างกัน จะเป็นส่วนหนึ่งในการหารือระหว่างสองประเทศในการประชุมคณะกรรมาธิการร่วม(เจซี)ไทย-มาเลเซีย ที่มาเลเซียจะเป็นเจ้าภาพในเดือนตุลาคมนี้ ซึ่งรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องของทั้งสองฝ่ายจะเข้าร่วมหารือพร้อมกันทั้งหมด


            นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ฝ่ายไทยได้หารือเร่งรัดให้มีการแก้ไขปัญหาราคายางพารา ซึ่งเห็นว่าเรื่องดังกล่าวเป็นปัญหาร่วมกันของไทย มาเลเซีย และอินโดนีเซีย โดยไทยจะเร่งรัดให้มีการหารือให้เป็นรูปธรรมมากขึ้น เพราะเห็นว่าการรักษาราคายางให้มีเสถียรภาพถือเป็นเรื่องเร่งด่วนอย่างยิ่ง นอกจากนี้ยังเห็นว่าควรมีความร่วมมือในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับยางพาราเพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืนไปควบคู่กัน


             ผู้สื่อข่าวถามว่าได้มีการพูดคุยถึงกรณีที่กลุ่มก่อความไม่สงบนำธงมาเลเซียไปติดในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้เมื่อเร็วๆ นี้หรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวยืนยันว่าความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศเป็นไปด้วยดีแม้ว่าจะมีความพยายามสร้างสถานการณ์ก็ตาม นายกรัฐมนตรีมาเลเซียได้ให้ความมั่นใจพร้อมกับย้ำว่าสองประเทศจะทำงานควบคู่กันไป ทั้งนี้มาเลเซียเห็นด้วย พอใจ และสนับสนุนแนวทางของไทยในการแก้ไขปัญหาโดยสันติวิธีควบคู่ไปกับการพัฒนา ซึ่งไทยได้แจ้งให้มาเลเซียทราบถึงความคืบหน้าในการเพิ่มบุคลากรและงบประมาณทั้งด้านการศึกษาและการสร้างอาชีพในพื้นที่


             น.ส.ยิ่งลักษณ์ยังให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับผลการหารือทวิภาคีกับนายเซบัสเตียน ปิเญรา ประธานาธิบดีชิลีว่า ได้หารือกันเกี่ยวกับการเจรจาความตกลงเขตการค้าเสรี(เอฟทีเอ)ระหว่างสองประเทศซึ่งเบื้องต้นมีความก้าวหน้าในเรื่องดังกล่าวและน่าจะลงนามได้ในปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า ทั้งนี้ในส่วนของอุตสาหกรรมไทยที่น่าจะได้ประโยชน์จากความตกลงดังกล่าวประกอบด้วย ยานยนต์โดยเฉพาะรถปิกอัพ ยางและผลิตภัณฑ์จากยาง ปูนซีเมนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือน การบริการ การออกแบบและสถาปนิก รวมถึงการโรงแรม


              ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการหารือกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินแห่งรัสเซีย ผู้นำประเทศเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปคในครั้งนี้ นอกเหนือจากการหารือประเด็นที่เกี่ยวกับการประชุมแล้ว ยังได้มีการหารือแลกเปลี่ยนด้านความร่วมมือระหว่างกัน ในฐานะที่รัสเซียเป็นประเทศที่มีมูลค่าการค้ากับไทยสูงสุดในยุโรปตะวันออก ซึ่งไทยพร้อมที่จะผลักดันความร่วมมือในสาขาพลังงาน วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี รวมถึงแลกเปลี่ยนแนวทางเพิ่มพูนความสัมพันธ์อาเซียน – รัสเซียด้วย


              ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 15.00 น. นายกรัฐมนตรีจะเข้าร่วมการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ที่หอประชุมภายในมหาวิทยาลัย Far Eastern Federal University (FEFU) และเข้าร่วมหารือระหว่างผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคและผู้นำ APEC Business Advisory Council (ABAC) โดยนายกรัฐมนตรีอยู่ในกลุ่มที่ 1 ร่วมกับผู้นำฮ่องกง อินโดนีเซีย และสหรัฐอเมริกา


เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์