ปูบินพบเหวินเจียเป่า 17 เม.ย. กล่อม14เอกชนชั้นนำจีนลงทุนในไทย

ปูบินพบเหวินเจียเป่า 17 เม.ย. กล่อม14เอกชนชั้นนำจีนลงทุนในไทย

ม.ร.ว.พงษ์สวัสดิ์ สวัสดิวัตน์ รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 17-20 เม.ย.2555

คณะผู้บริหารของกระทรวงอุตสาหกรรม สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) จะเดินทางไปจัดกิจกรรมสร้างความเชื่อมั่นและกระตุ้นการลงทุน ณ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน

ทั้งนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะนำคณะผู้บริหารหน่วยงานต่างๆ ของไทย เข้าร่วมหารือข้อราชการกับนายเหวินเจียเป่า นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีน

และวันที่ 18 เม.ย.2555 จะมีกิจกรรมการจัดสัมมนา "โอกาสการลงทุนในไทย" และการประชุมธุรกิจไทย-จีน โดยนายกฯ จะร่วมบรรยายพิเศษในหัวข้อ "การสร้างอนาคตของประเทศไทย" ซึ่งจะเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการชั้นนำของจีนที่สนใจเข้าร่วมรับฟังทิศทางและนโยบายของการส่งเสริมการลงทุน โอกาสและศักยภาพของการลงทุนในประเทศไทย

นอกจากนี้ นายกฯ จะพบปะกับผู้บริหารของบริษัทชั้นนำของจีน 14 บริษัท เพื่อหารือถึงแผนการลงทุนในไทย
 
นโยบายและมาตรการส่งเสริมการลงทุน รวมทั้งการอำนวยความสะดวกและการให้ความช่วยเหลือในการเข้ามาลงทุนในประเทศไทย เช่น โครงการรถไฟความเร็วสูง อุตสาหกรรมเครื่องจักรอุตสาหกรรม พลังงานทดแทน ยานยนต์ เป็นต้น ตลอดจนนโยบายด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยวระหว่างไทย-จีน

"การเยือนจีนครั้งนี้จะมุ่งเน้นการสร้างความเชื่อมั่นต่อนโยบายส่งเสริมการลงทุนที่ชัดเจนและต่อเนื่องของไทย รวมถึงการจูงใจให้กลุ่มผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมของจีนทั้งที่เข้ามาลงทุนในประเทศไทยแล้ว และอยู่ระหว่างการตัดสินใจเลือกที่จะเข้ามาลงทุนหรือขยายการลงทุนเพิ่มเติมจากเดิม เพื่อรองรับการขยายตัวของตลาดในภูมิภาคภายหลังการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(เออีซี)ในปี 2558 รวมถึงพิจารณาการเข้ามาร่วมลงทุนในโครงการต่างๆ ที่เป็นโครงการขนาดใหญ่ซึ่งรัฐบาลกำลังเร่งดำเนินการเพื่อพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ ซึ่งจะเป็นโอกาสของไทยในการกระตุ้นให้เกิดความสัมพันธ์และการลงทุนจากจีนเพิ่มมากขึ้น" ม.ร.ว.พงษ์สวัสดิ์กล่าว

ด้านนางอรรชกา สีบุญเรือง เลขาธิการบีโอไอ กล่าวว่า จีนเป็นเป้าหมายสำคัญในการจัดกิจกรรมกระตุ้นการลงทุนทั้ง 2 ทางระหว่างจีนและไทยเพิ่มขึ้น

โดยมีกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย เช่น ยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องจักรและอุปกรณ์ พลังงานทดแทน เป็นต้น ขณะเดียวกันมุ่งส่งเสริมให้นักลงทุนไทยไปลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมที่ไทยมีศักยภาพ เช่น อุตสาหกรรมบริการ เกษตรแปรรูปและอาหาร เป็นต้น สำหรับภาพรวมการลงทุน 2 ฝ่ายมีแนวโน้มดีขึ้นต่อเนื่อง โดยในปี 2554 มีการยื่นขอรับส่งเสริมลงทุนของจีนในไทยอยู่ที่ 36 โครงการ มูลค่าเงินลงทุน 28,495 ล้านบาท สูงเป็นอันดับ 2 รองจากประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น ในขณะที่ช่วง 3 เดือนแรกปีนี้ยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนแล้ว 7 โครงการ มูลค่า 1,945 ล้านบาท (ที่มา:ข่าวสดรายวัน 16เม.ย.2555)

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์