ปีนี้นายกฯสั่งลุยรถไฟฟ้า3สาย ลงนามกู้เจบิกก้อนแรก31มีค.

วานนี้ (12 มี.ค.) นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายสหัส บัณฑิตกุล รองนายกรัฐมนตรี นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และผู้บริหารกระทรวงคมนาคม และกระทรวงการคลัง
 
แถลงภายหลังการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐ (เมกกะโปรเจกต์) นัดแรก โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ในปีนี้ รัฐบาลจะเดินหน้าการทำโครงการรถไฟฟ้าทันที
3 สาย เริ่มจากสายสีเขียว  ขณะนี้รัฐบาลได้เจรจาซื้อหนี้คืนจากเจ้าหนี้ต่างประเทศ ของบริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)  หรือ บีทีเอส  ร้อยละ 89 และจะจ่ายคืนเงินลงทุนให้แก่กรุงเทพมหานคร (กทม.) ในส่วนการลงทุนส่วนต่อขยาย ซึ่งจะทำให้รัฐบาลเป็นเจ้าของสัมปทานแทน กทม. และจะมอบให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบโครงการ
  

นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า การก่อสร้างส่วนต่อขยายในส่วนสายสีเขียว จะดำเนินการทำใน
3 ทิศทางที่ได้เริ่มดำเนินการส่วนต่อขยายไว้

คือ จากสถานีปลายทางที่สะพานตากสิน จะดำเนินการก่อสร้างไปบางหว้า เพชรเกษม ส่วนปลายทางที่หมอชิต จะขยายไปถึงคลอง
4 ลำลูกกา และจุดสิ้นสุดโครงการที่อ่อนนุชก็จะขยายไปถึงบางปู สำหรับรถไฟฟ้าสายสีแดง หรือรถไฟชานเมือง ที่ได้มีการเปิดประมูลไปแล้วบางส่วน ก็จะก่อสร้างเส้นทางไปตามแผนที่มีอยู่ คือ เชื่อมกับจังหวัดรอบนอก 3 ทิศทาง คือ ทิศเหนือ ไป จ.พระนครศรีอยุธยา ตะวันออก ไปฉะเชิงเทรา และทิศใต้ จ.นครปฐม  ตามด้วยรถไฟฟ้าสายสีม่วงบางใหญ่-บางซื่อ  จากนั้นจะดำเนินการรถไฟฟ้าในเส้นทางอื่นๆ ในเฟสที่ 2 รวมมูลค่าโครงการ 9 เส้นทาง กว่า 700,000 ล้านบาท  รัฐบาลจะเป็นผู้ลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน และจัดหาเอกชนเข้ามาบริหารการเดินรถ
 

ด้านนายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) กล่าวว่า


สำหรับการจัดหาวงเงินลงทุนในโครงการรถไฟฟ้า
9 เส้นทางนี้ จะใช้วงเงินลงทุนรวม 770,000 ล้านบาท แบ่งเป็นการลงทุนในเฟสที่ 1 วงเงิน 259,000 ล้านบาท และเฟสที่ 2 อีก 510,000 ล้านบาท โดยส่วนหนึ่งจะเป็นการใช้เงินกู้จากธนาคารเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (เจบิก) ที่จะมีการลงนามเงินกู้ก้อนแรก ในวันที่ 31 มี.ค.นี้ ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น และในส่วนของการระดมในประเทศ  กระทรวงการคลังมีแผนจะออกพันธบัตระยะยาวอายุ 30 ปี ล็อตแรกในเดือนเม.ย.นี้ วงเงินเบื้องต้นประมาณ 5,000 ล้านบาท โดยจะมีอัตราผลตอบแทนร้อยละ 5.1-5.2

เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์