วันที่ 26 มิถุนายน นางสาวศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ได้เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
อาทิ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาปฐมศึกษานครราชสีมา เขต 1-7 สำนักงานเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน สำนักบริหารยุทธศาสตร์และบูรณาการการศึกษาที่ 8 และผู้บริหารโรงเรียนเอกชนในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ประชุมหารือเพื่อแก้ไขปัญหาโรงเรียนเอกชน และโรงเรียนกวดวิชาเถื่อน ภายหลังจากเกิดเหตุการณ์ไฟไหม้โรงเรียนกวดวิชาครูแจ๋ว จนนักเรียนจำนวน 22 คน ซึ่งติดอยู่บนดาดฟ้าเกือบถูกย่างสด เพราะไม่มีบันไดหนีไฟ โดยภประชุมเครียดเป็นเวลาเกือบ 2 ชั่วโมง
นางสาวศศิธารา เปิดเผยว่า ในที่ประชุมได้ข้อสรุปแนวทางแก้ไขปัญหา 4 ข้อ ได้แก่ 1.ภายในสัปดาห์นี้
ให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาปฐมศึกษานครราชสีมา เขต 1-7 ร่วมกับศูนย์เสมารักษ์ ทำการเอกซเรย์โรงเรียนเอกชนทั้งในระบบและนอกระบบ ที่มีนักเรียนตั้งแต่ 7 คนขึ้นไป ซึ่งรวมทั้งโรงเรียนสอบขับรถยนต์ด้วย เพื่อคัดแยกโรงเรียนที่ถูกกฎหมาย และผิดกฎหมายออกจากกัน หลังจากนั้นให้จัดระดับโรงเรียนที่ไม่ถูกกฎหมายไว้ 5 ระดับ ตั้งแต่ผิดกฎหมายเล็กน้อย ซึ่งต้องตักเตือนให้ไปดำเนินการให้ถูกต้อง จนถึงระดับผิดกฎหมายทุกข้อ ซึ่งต้องแจ้งความดำเนินคดีถึงที่สุด 2.ให้โรงเรียนเอกชนรวมกลุ่มกันเป็นองค์กรควบคุมกันเอง โดยให้มีการประชุมหาแนวทางแก้ไขปัญหาร่วมกัน ซึ่งทางกระทรวงศึกษาธิการ จะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด 3.ทั้งการเอกซเรย์และการรวมกลุ่มโรงเรียนเอกชนควบคุมกันเอง จะถือว่าเป็นนโยบายที่บังคับใช้เหมือนกันทั่วประเทศ และ 4.ให้ทางสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาปฐมศึกษานครราชสีมา เขต 1 รวบรวมเอกสารและหลักฐานไปแจ้งความดำเนินคดี กับโรงเรียนกวดวิชาครูแจ๋ว ตาม พ.ร.บ.โรงเรียนเอกชน พ.ศ.2550 มาตรา 147
นางสาวศศิธารา กล่าวว่า สำหรับนางพนัชกร สิงห์เจริญกิจ หรือครูแจ๋วนั้น
ถือว่าเป็นผู้มีความรู้ความสามารถ ในการสอนพิเศษเป็นอย่างดี จนมีผู้ปกครอง ให้ความไว้วางใจนำบุตรหลานมาเรียนในโรงเรียนกวดวิชาแห่งนี้เป็นจำนวนมาก หากครูแจ๋วยังต้องการเปิดโรงเรียนกวดวิชาอีกครั้งก็สามารถทำได้ แต่ต้องเคลียร์คดีเก่าให้หมดก่อน พร้อมทั้งขอใบอนุญาตให้ถูกกฎหมายทุกขั้นตอน ซึ่งขณะนี้ทางครูแจ๋วเองก็ยอมรับผิด และให้ความร่วมมือที่เป็นประโยชน์กับรูปคดีทุกข้อหา จึงไม่อยากให้สังคมซ้ำเติมครูแจ๋วอีก
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
