ปลดหนี้ทั้งระบบ มาร์คประกาศ 4นโยบายแก้จน



โฆษก ปชป.เผย นายกรัฐมนตรี เตรียมประกาศแผนแก้ปัญหาหนี้ทั้งระบบ พรุ่งนี้ ชงใช้ 4 นโยบายแก้จน โว คลังจับมือ พม.ดันหนี้นอกระบบเข้าสู่ระบบกันสร้างหนี้เพิ่ม...

วันที่ 14 ส.ค. 2553 นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษณ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์เตรียมประกาศชุดนโยบายเพื่อแก้ไข ปัญหาหนี้สินทุกระบบอย่างครบวงจร โดยจะเป็นส่วนหนึ่งของชุดนโยบายวาระประชาชน เพื่อแก้ไขปัญหาความยากจน โดยดำเนินการผ่าน 4 แนวทาง คือ
 
1. มาตรการลดค่าครองชีพ ค่าสาธารณูปโภค ค่าเดินทาง
2. มาตรการประกันรายได้ และ เพิ่มค่าแรงขั้นต่ำ ทั้งของเกษตรกร และผู้ใช้แรงงาน
3. นโยบายการจัดสรรที่ทำกิน ผ่านที่ดินของรัฐ ที่ดินราชพัสดุ และการออกโฉนดชุมชน และ 4. การแก้ไขปัญหาหนี้สิน โดยจะขับเคลื่อนผ่าน
 4 กระทรวง ได้แก่ กระทรวงการคลัง กระทรวงแรงงาน กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) และ กระทรวงศึกษาธิการ โดยการดำเนินการในส่วนการแก้ไขปัญหาหนี้ จะมุ่งดำเนินการทุกกลุ่มสาขาอาชีพ และจะดำเนินการควบคู่กันระหว่างหนี้ในระบบ และหนี้นอกระบบ

โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ในส่วนหนี้นอกระบบ ที่ขณะนี้มีผู้มาลงทะเบียน 1.2 ล้านคน โดยรัฐบาลได้ดำเนินการไปแล้ว กว่า 4 แสนคน ตามที่ได้ประกาศไว้เมื่อต้นปี โดยรูปแบบของการดำเนินการนั้นก็จะใช้สถาบันการเงินระดับฐานรากได้แก่ สถาบันการเงินที่มีการรวมกลุ่มเป็นสวัสดิการออมทรัพย์ สวัสดิการชุมชน และจะสนับสนุนการดำเนินการร่วมกัน ระหว่างกระทรวงการคลัง และสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชนของกระทรวงพัฒนาสังคมฯ เพื่อทำหน้าที่ ในการสร้างสวัสดิการพื้นฐานร่วมกันกับกองทุนการออมเพื่อการชราภาพ ควบ คู่กันกับการเข้ามารองรับปัญหาหนี้นอกระบบ อย่างครบวงจร ในส่วนของสถาบันการเงินของรัฐ จะมีการดำเนินการทั้งผ่านธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ เพื่อแก้ไขปัญหานี้  

นพ.บุรณัชย์ กล่าวต่อว่า ในส่วนหนี้นอกระบบนั้นก็จะมีระบบป้องกันการกลับเข้าสู่หนี้นอกระบบ โดยการออกบัตรลดหนี้ให้ โดยหากผู้เข้าร่วมโครงการได้มีการ ชำระผ่อนดอกเบี้ย ต่อสถาบันการเงิน ของรัฐครบ 12 ปี ก็จะมีสิทธิได้รับเงินต้นคืน 50 % ของยอดที่มีการ ผ่อนคืน ในช่วง 12 เดือนแรก โดยบัตรนี้จะสามารถ เข้าไปกด เพื่อได้เงินคืน และป้องกันการกลับ เข้าสู่หนี้นอกระบบได้ ส่วนกลุ่มหลักที่มีการหาผู้ค้ำ ที่ดำเนินการสำเร็จ 4 แสนคนนั้น ก็จะให้ธนาคารออมสิน ดำเนินปลดหนี้นอกระบบ โดยการโอนหนี้เข้าสู่หนี้ในระบบ และจะ ให้กับผู้ที่เข้าโครงการอบรมเป็นเวลา 3 วัน โดยขยายความครอบคุมไปถึงผู้ที่ลงทะเบียนอีกประมาณ 7 แสนกว่าคน แต่ยังไม่สามารถหาผู้ค้ำประกัน หรือไม่มีอาชีพที่มีรายได้ ตามปกติเพียงพอ ที่จะเข้าสู่โครงการนั้น ก็จะมีการดำเนินการร่วมกัน ผ่านสถาบันการเงินของรัฐคือ บสย. เพื่อที่จะปล่อยสินเชื่อ ให้สามารถที่จะประกอบอาชีพได้ และร่วมกับกระทรวงแรงงาน ในการจัดหางานให้ทำ และฝึกอบรมฝีมือแรงงาน เพื่อสามารถมีรายได้เพียงพอ ที่จะได้รับการค้ำประกัน โดย บสย. และเข้าสู่โครงการเพิ่มเติมจนครบยอด 1.2 ล้าน คน

โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวอีกว่า ในส่วนหนี้ในเกษตรกร ซึ่ง ส่วนใหญ่เป็นหนี้กองทุนฟื้นฟูกว่า 1 ล้านคน ก็จะมีโครงการในการที่จะให้ผ่อนชำระใน 15 ปี โดยลด เงินต้น 50 % และเวลาการผ่อน ปลอดดอกเบี้ย ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาหนี้สินของเกษตรกรที่เป็น หนี้กองทุนฟื้นฟูได้ นอกจาก นี้สำหรับปัญหาหนี้สินครู ซึ่งขณะนี้จากจำนวนครู 7 แสนกว่าคน เป็นหนี้เกือบ 4 แสน รัฐบาลมีกลไปที่จะแก้ปัญหาโดยดำเนินการผ่าน 3 กลไก ได้แก่ 1.กองทุนแก้ไขหนี้สินครู ซึ่งมีผู้เข้าร่วมโครงการ 5 หมื่น คน 2.ดำเนินการผ่านธนาคารออมสิน มี ผู้เข้าร่วมโครงการ 1.5- 2 แสนคน และ 3. สหกรณ์ออมทัพย์ครู ซึ่งมีสมาชิก เข้าร่วม 3 แสนคน เพื่อ จะปลดเปลื้องหนี้สินของผู้ประกอบวิชาชีพ ด้านครูให้สามารถ เป็นแม่พิมพ์ของชาติได้อย่างเต็มที่ ซึ่งส่วนนี้เป็นการดำเนินการร่วมกันระหว่างกระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงการคลัง

นพ.บุรณัชย์ กล่าวต่อว่า ส่วนอาชีพผู้ประกอบอาชีพอิสระ จะดำเนินการขับเคลื่อนผ่านองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยได้นำร่องในกรุงเทพมหานคร ซึ่ง ม.ร.ว. สุขุมพันธุ์ บริพัตร ได้ดำเนินการภายใต้โครงการยิ้มสู้กู้สร้างอาชีพ เพื่อแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ โดยการจัดหาแหล่งเงินกู้ ให้ กับกลุ่มผู้ประกอบอาชีพจักรยายนต์รับจ้าง ข้าราชการ กลุ่ม อาชีพหาบเร่ แผงลอย โดยจะเป็นรูปแบบการดำเนินการร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นส่วนอื่นๆ ด้วย

นพ.บุรณัชย์ กล่าวว่า จากนโยบายดังกล่าวพรรคมีความมั่นใจว่าจะสามารถช่วยให้ ประชาชนมีศักยภาพเพียงพอ ที่จะประกอบอาชีพ และใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพ โดยการที่จะปลดหนี้สินนั้น จะทำให้ภาระครอบครัวนั้นลดน้องลง ซึ่งจะดำเนินการควบคู่กันกับการสร้างสังคมสวัสดิการ พื้นฐานที่จำเป็นที่ได้ประกาศไปแล้วภายใต้ โครงการ หลักประกัน 8 ประการ ที่ดูแลทุกช่วงชีวิต โดยพรรคจะใช้การ พิจารณางบประมาณ ที่จะถึงในสัปดาห์หน้านี้ เป็นการวางรากฐาน ที่สำคัญ เพื่อที่จะเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับสังคม และความยั่งยืนให้กับเศรษฐกิจตามวาระประชาชนที่ได้ประกาศไว้ อย่างไรก็ตามแผนแม่บทในการแก้ไขปัญหาหนี้สินอย่างครบวงจรดังกล่าว จะมีการประกาศอย่างเป็นทางการโดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ ใน วันจันทร์ ที่ 16 สิงหาคมนี้ เวลา 15.00 น.


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์