ปรับใหญ่ ครม.ขี้เหร่ โอกาส สมัคร-เติ้ง แต่งหน้าทาปาก

หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวการเมือง ปรับใหญ่ ครม.ขี้เหร่ โอกาส สมัคร-เติ้ง แต่งหน้าทาปาก

คงเป็นอย่างที่ 'สมัคร สุนทรเวช' บอกว่าหากจะปรับครม.นั้นไม่ใช่เพราะทำตามแรงกดดันจากพรรคร่วม แต่ไม่ใช่ว่าจะไม่มีการปรับครม.เกิดขึ้นในห้วงนี้ คาดว่าการปรับครั้งนี้จะไม่ใช่ 'ปรับเล็ก' แต่จะกลายเป็นโอกาสที่จะได้ 'แต่งหน้าทาปาก' ครม.ขี้เหร่ให้ดูดีขึ้น

คงเป็นอย่างที่ "สมัคร สุนทรเวช" นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ที่บอกว่าหากจะปรับ ครม.นั้นไม่ใช่เพราะทำตามแรงกดดันจากพรรคร่วมรัฐบาลเด็ดขาด

เพราะหากพิจารณากันถึงองค์ประกอบต่างๆ พรรคร่วมรัฐบาล ก็จะเหมือน "ปลาคาร์ป" ที่สระน้ำทางเข้าอาคารรัฐสภา 1 คือ ว่ายวนเวียนอยู่แต่ในสระ เหมือนที่ "จตุพร พรหมพันธุ์" พูดให้เห็นภาพ เพราะอาวุธสำคัญอย่างการ "ยุบสภา" ยังอยู่ในมือ "สมัคร สุนทรเวช"

ซึ่งหากมีการ "ยุบสภา" ในช่วงที่เพิ่งเป็นรัฐบาลมาได้ 4-5 เดือน เท่ากับว่า พรรคร่วมรัฐบาลทั้ง 5 จะไม่พร้อมกับสถานการณ์ที่จะต้องลือกตั้งใหม่ แม้กระทั่ง "ประชาธิปัตย์" ยังกลัว

ภาพที่ออกมาในช่วงหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจแบบลงมติ แม้จะมีการกดดันจากพรรคร่วมรัฐบาล ไปที่ "มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์" รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ และ "นพดล ปัทมะ" รมว.ต่างประเทศ 2 รัฐมนตรีโควต้า "นายใหญ่"

แต่ก็ยังทำได้เพียง "เขย่าให้เกิดปฏิกิริยา"

จึงเป็นไปได้ยากยิ่งหาก "สมัคร" จะปรับ ครม. ตามแรงกดดันภายในพรรคร่วมรัฐบาลเพียงอย่างเดียว

เพราะกรณี "มิ่งขวัญ" นั้นได้มีการแอบเคลียร์ใจกับ "ผู้ใหญ่ในรัฐบาล" และบิ๊ก พปช.แล้ว ทำให้โอกาสที่จะถูกขยับน้อยลง

แต่สำหรับ "นพดล ปัทมะ" นั้น ตัวแปรในโอกาสปรับย้ายที่ทำงาน หรือ ปรับออกจาก ครม. จากปม "เขาพระวิหาร" นั้นยังเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึง

แต่ไม่ใช่ว่าจะไม่มีการ "ปรับ ครม." เกิดขึ้นเลยในห้วงนี้

เพราะวันนี้เหตุปัจจัยทางการเมืองต่างๆ เริ่มสุกงอม พอที่จะทำให้เกิดการ "ปรับ ครม." ได้ตลอดเวลา

ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าญัตติ "ซักฟอก" ฝ่ายค้าน เป็นส่วนประกอบหนึ่ง แต่ก็ไม่ใช่ส่วนสำคัญจนทำให้ "สมัคร" จะตัดสินใจ "แต่งหน้าทาปาก ครม.ขี้เหร่"

"สมัคร" ยังต้องการที่จะรอความชัดเจน "ไชยา สะสมทรัพย์" รมว.สาธารณสุข และ "วิรุฬ เตชะไพบูลย์" รมช.พาณิชย์ "2 ทุนใหญ่" แห่ง พปช. จะต้องถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคุณสมบัติ

รวมทั้งรอคำพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง คดีใบแดงของ "ยงยุทธ ติยะไพรัช" อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร วันที่ 8 กรกฎาคม

แม้เจ้าตัวจะไม่ได้ตั้งความหวังอะไร แต่แกนนำภาคเหนือ พปช.ต้องการจะให้ "ยงยุทธ" กลับมาเป็นรัฐมนตรีอีกครั้ง

โดยแกนนำพรรคหลายคนแนะให้ "สมัคร" ถือโอกาสเอา เก้าอี้ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ว่างลงหลังการลาออกของ "จักรภพ เพ็ญแข" เป็นจุดเริ่มการขยับขยาย หลังจากที่ "สมัคร" มีปัญหากับ "กลุ่มเพื่อนเนวิน" มาร่วม 2 เดือน เรื่องผู้เหมาะสมและการจัดสรรโควต้า รมต.ตัวนี้ยังไม่ลงตัว

เนื่องจาก "นายกนอมินี" อยากให้คนที่เข้ามาแทน "จักรภพ" ช่วยให้ "ครม.ขี้เหร่" ได้ดูดีขึ้น แต่กลุ่มใหญ่ในพรรคไม่ยอม

จึงทำให้การปรับ ครม.ครั้งนี้จะไม่ใช่ "ปรับเล็ก" เพียง 1-2 ตำแหน่งเพื่อทดแทนตำแหน่งที่หายไป แต่จะกลายเป็นโอกาสที่ "สมัคร" จะได้ "แต่งหน้าทาปาก" "ครม.ขี้เหร่" ให้ดูดีขึ้นในสายตาของสังคม

เพราะนอกจาก "นพดล ปัทมะ" ที่อยู่ระหว่างวัดกระแสความอยู่รอด เพราะ "เขาพระวิหาร" ซึ่งเป็นตำแหน่งเดียวที่ได้รับผลกระทบจาก "แรงกดดัน" จากภายในรัฐบาลแล้ว ยังมีบางคนที่ครบวาระและจะต้องแตะสลับให้เพื่อนมาเชยชม "เก้าอี้รัฐมนตรี" ตามสัญญาใจที่เคยมีให้กันไว้ คนละ "6 เดือน" ทั้งพลังประชาชนและพรรคร่วมรัฐบาล

ซึ่งจะทำให้การปรับ ครม. ไม่ได้มีในส่วนของพรรคพลังประชาชนเพียงพรรคเดียว ตามที่หลายฝ่ายคาดการณ์

และถ้าการ "เขย่า" ครั้งนี้ก่อให้เกิด "ปฏิกิริยา" ของการปรับ ครม.

"พรรคชาติไทย" ที่เสมือนเป็นตัวเร่งอยู่ก็จะถือเป็นโอกาสที่จะติดขบวนไปด้วย โดยการ "เสนอปรับ" ในส่วนของรัฐมนตรีที่ยังไม่มีผลงานให้เป็นที่ชื่นใจ "บิ๊กเติ้ง" บรรหาร ศิลปอาชา

ขณะนี้มีข่าวลือหนาหูว่า "สมพัฒน์ แก้วพิจิตร" รมช.เกษตรฯ และ "อนุรักษ์ จุรีมาศ" รมช.คมนาคม มีโอกาสสูงที่ใครคนหนึ่งจะถูกเด้ง

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันที่ 11 กรกฎาคมนี้ "ลูกท็อป" "วราวุธ ศิลปอาชา" จะมีอายุครบ 35 ปี พอที่จะเป็น "รัฐมนตรี" ได้ หากมีการปรับ ครม. จึงเป็นไปได้ที่ "ชาติไทย" ก็อยากจะปรับเอาคนที่ทำผลงานไม่เข้าเป้าหมายของ "หัวหน้าพรรค" ผลัดเปลี่ยนเอาคนใน "ตระกูลศิลปอาชา" เข้ามาเป็นรัฐมนตรีด้วย ก็เป็นได้