ประสงค์ตอกกลับพปช.ต้องปรับตัวรับรธน.ใหม่

(13กย.) น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญทั้ง 3 ฉบับ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กล่าวว่า ขณะนี้กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญเสร็จแล้ว 2 ฉบับคือ ร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยกกต. และ ร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และได้มาซึ่ง ส.ว. แต่ยังมีเรื่องที่ต้องพูดกันมากคือการสรรหา ส.ว. โดยเฉพาะที่มีองค์กรสรรหาว่าควรเป็นอย่างไร อย่างไรก็ตามเชื่อว่าจะเสร็จทันตามเวลาที่กำหนดแน่นอน โดยอย่างช้าที่สุดจะเป็นวันที่ 18 ก.ย. เพราะและจะหารือกันเพื่อดูความเรียบร้อยในวันที่ 20 ก.ย.ก่อนที่จะส่งให้สนช.พิจารณา ส่วนที่มีกรรมาธิการบางคนเสนอให้นำกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญฉบับที่พิจารณาเสร็จแล้วนำเข้าสู่ที่ประชุมสนช.ไปก่อนนั้น น.ต.ประสงค์ กล่าวว่า ต้องให้เสร็จพร้อมกัน เพราะกฎหมายทั้ง 3 ฉบับมีความเชื่อมโยงกัน คงจะส่งฉบับใดฉบับหนึ่งไปก่อนไม่ได้

ถ้ามองด้วยความเป็นธรรม หลักการสำคัญคือเราต้องการปฎิรูปการเมืองเพื่อให้ดีขึ้น ซึ่งสิ่งที่ไม่ดีเหล่านั้นได้นำมาบรรจุไว้ในกฎหมายลูก เพราะถ้าปล่อยให้เป็นไปตามแบบเดิม หรือตามความต้องการของคนที่เคยชินเรื่องเก่า ๆกับการแสวงหาโอกาสก็ทำให้การเมืองไม่ดี แล้วจะเสียเวลาทำรัฐธรรมนูญใหม่ทำไม ซึ่งหากจะปรับตัวให้เข้ากับกฎหมายก็ไม่ใช่สิ่งยุ่งยาก เมื่อถามว่ากรรมาธิการบางคนมีอคติต่อพรรคพลังประชาชน น.ต.ประสงค์ กล่าวว่า ตนมีอคติต่อคนที่ประพฤติปฎิบัติไม่เป็นไปตามกฎหมาย และทำให้บ้านเมืองเสียหาย แต่ไม่ได้มีอคติต่อคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ซึ่งแต่ละกลุ่มที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่ขณะนี้มีสิทธิดำเนินกิจกรรมทางการเมืองได้ แต่ต้องอ่านกฎหมายรัฐธรรมนูญและกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญให้ดี เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาด และจะทำให้ลงเลือกตั้งไม่ได้

ผู้สื่อข่าวถามว่าพล.อ.สนธิ บุญยรัตนกลิน ผบ.ทบ.สนใจที่จะลงการเมือง น.ต.ประสงค์ กล่าวว่า

เคยพูดไปแล้วยังยึดถือในคำพูดว่ามีข้อดี ข้อเสียอย่างไร ไม่พูดอะไรอีกแล้ว เมื่อถามว่าควรจะเป็นที่ปรึกษาพรรคไปก่อนหรือไม่ น.ต.ประสงค์ กล่าวว่า คงไปบอกไม่ได้ แล้วแต่บุคคล แต่อย่างไรก็ตามสิ่งที่พูดไปแล้วเชื่อว่าเป็นผลดีต่อตัวบุคคลและส่วนรวมด้วย ดังนั้นขอให้ไปคิดตามที่ตนเคยพูดไว้ อย่างไรก็ตามในวันที่ 17 ก.ย.ตนจะวิเคราะห์ให้ฟังว่าครบรอบ 1 ปีรัฐประหารว่าบ้านเมืองได้อะไร มีการปฎิรูปอะไรชัดเจนไปแล้วบ้าง