ประชุมสภายังวุ่น ประธานสั่งพักครั้งที่ 5-ปชป.ฮือประชิดบัลลังก์ประธาน

ภาพจาก ข่าวสด

 เวลา 19.40 น. วันที่ 20 ส.ค. ในการประชุมร่วมรัฐสภาพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ สิทธิอภิปรายตามที่ได้สงวนการแปรญัตติเอาไว้ ก็ยังไม่คงไม่เข้าเนื้อหาตามที่สงวนคำแปรญัตติ ทำให้ นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา กล่าวเตือนว่าขอให้เข้าเนื้อหาที่เตรียมไว้ มิเช่นนั้นจะถือว่าไม่ยอมใช้สิทธิ แล้วจะผ่านไปคนที่ต่อไป

 ทำให้ ส.ส.ประชาธิปัตย์หลายคนลุกขึ้นยืนประท้วง นายวัชระ เพชรทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ ลุกขึ้นประท้วงว่า พร้อมจะอภิปราย แต่ที่ประชุมขณะนี้กำลังวุ่นวาย และนายเทพไท ก็ยังอภิปรายไม่เสร็จ ขณะเดียวกับที่ นายธนา ชิรวินิจ ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ ก็ลุกขึ้นยืนตะโกนด้านโหวกเหวกอยู่ด้านข้าง ส่วนนายอรรถพร พลบุตร ส.ส.เพชรบุรี พรรคประชาธิปัตย์ ก็มาใช้ไมโครโฟนตัวเดียวกับ นายวัชระ เพื่อจะประท้วง ด้าน นายสมศักดิ์จึงกล่าวว่าหากไม่มีใครติดใจจะอภิปรายก็ขอให้มาตรา 1 ผ่าน

 ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ไม่พอใจอีก ลุกขึ้นยืนตะโกนคำว่า “ขี้ข้า” ส่วนนายเทพไท ลุกขึ้นประท้วงว่า ตนยังไม่ได้อภิปราย ประธานฯจะทำแบบนี้ไม่ได้ตนไม่ยอม ถ้าประธานจะเป็นขี้ข้าทักษิณก็เป็นไปคนเดียวตนไม่ยอม วันนี้เป็นไงเป็นกัน

 จากนั้น ส.ส.ประชาธิปัตย์ นำโดย นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ เดินกรูไปหน้าบัลลังก์ และชี้หน้าต่อว่าประธานฯ ทำให้ตำรวจสภานับสิบนายต้องเข้ามาล้อมบังลังก์ เพื่อรักษาความปลอดภัยให้ นายสมศักดิ์ ขณะเดียวกัน นายบุญยอด สุขถิ่นไทย ก็ลุกขึ้นตะโกนซ้ำๆว่า ยิ่งลักษณ์ อยู่ไหนๆ ด้าน นายสาทิตย์ จึงกล่าวว่า หากเป็นแบบนี้ขอให้ประธานสภาปิดการประชุมไปเลย เมื่อบรรยากาศเริ่มตึงเครียด นายสมศักดิ์ สั่งพักการประชุม 10 นาที เมื่อเวลา 20.00 น. ซึ่งนับเป็นครั้งที่ 5 สำหรับการประชุมในวันนี้

 ต่อมา เวลา 20.15 การประชุมเริ่มต้นอีกครั้งหนึ่ง โดย นายนิคม ไวยรัชพาณิช ประธานสมาชิกวุฒิสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม ได้ขอให้ที่ประชุมลงมติมาตรา 1 ทั้งๆ ที่ นายสมศักดิ์ประกาศให้ผ่านไปแล้ว โดยไม่มีใครติดใจ ทำให้ ส.ส.กลุ่มประชาธิปัตย์หลายคนกรูเข้าไปทยืนตะโกนว่า “ขี้ข้า” ซ้ำๆ โยนเอกสาร

 เจ้าหน้าที่ตำรวจสภาหลายสิบนายจึงต้องเข้ามาล้อมบัลลังก์อีกครั้ง และแน่นหนากว่าครั้งก่อน เพื่อรักษาความปลอดภัยให้นายนิคม ซึ่งนายนิคม ก็ได้ขอให้ที่ประชุมได้ลงคะแนน โดยมีมติเห็นด้วย 330 เสียง ต่อ 6 เสียง งดออกเสียง 9 จากนั้น นายนิคมขอให้สู่การพิจารณามาตรา 2  

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด