ประจินเคาะยกเครื่องรถไฟ-เมล์-บขส. ขายฝันเปลี่ยนใช้ไฟฟ้าทั้งหมด

ประจินเคาะยกเครื่องรถไฟ-เมล์-บขส. ขายฝันเปลี่ยนใช้ไฟฟ้าทั้งหมด

พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ให้นโยบายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับระบบขนส่งมวลชนสาธารณะ

 ได้แก่ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพฯ (ขสมก.) และบริษัทขนส่ง จำกัด (บขส.) ไปจัดทำแผนการนำรถพลังงานไฟฟ้ามาใช้แทนรถดีเซล เพื่อลดการใช้พลังงานที่เป็นมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม และช่วยประหยัดพลังงานน้ำมัน และก๊าซธรรมชาติที่มีราคาสูงขึ้น และผันผวนไม่แน่นอน

"นโยบายที่ผมตั้งใจทำถัดจากนี้ คือ ต้องการให้ประชาชนเดินทางอย่างปลอดภัย รวมถึงเกิดการเปลี่ยนแปลงเรื่องการใช้พลังงาน เช่น เปลี่ยนจากรถเมล์เอ็นจีวีเป็นรถไฟฟ้า ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญในเรื่องนี้ เพราะระยะยาวการใช้รถเมล์ไฟฟ้าประหยัดกว่า"

ขณะเดียวกันตั้งใจด้วยว่า อนาคตรถไฟไทยจะต้องเปลี่ยนมาใช้ระบบรถไฟฟ้าทั้งหมดภายในปี 2575
โดยจะไม่เหลือรถไฟดีเซลอีกแล้ว พร้อมกับให้ รฟท.ไปปรับวิธีการจัดหาหัวรถจักรใหม่ โดยใช้วิธีเช่าแทนการซื้อขาด เพื่อให้ปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีรถไฟให้ทันสมัยได้ตลอดเวลา

มั่นใจว่าหากเปลี่ยนรถโดยสารสาธารณะมาใช้พลังงานไฟฟ้าทั้งหมดจะไม่กระทบต่อการใช้ไฟฟ้าในประเทศแน่นอน

โดยในส่วนของรถไฟประเมินว่าจะใช้ไฟฟ้าเพิ่ม 1-2% หรือ 500 เมกะวัตต์ จากการใช้พลังงานไฟฟ้าทั่วประเทศ 26,000 เมกะวัตต์ ซึ่งหลังจากนี้รัฐบาลมีแผนสร้างแหล่งผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสง พลังงานลมในภาคอีสานเพิ่มเติม สำหรับโครงการนำร่องจะเริ่มใช้รถไฟพลังงานไฟฟ้าเส้นทางหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์เชื่อมกับมาเลเซีย ในปี 2560 ขณะที่รถไฟทางคู่ไทย-จีน ขนาดราง 1.435 เมตรจะใช้พลังไฟฟ้าซึ่งนำเข้าจาก สปป.ลาว

พล.อ.อ.ประจินกล่าวอีกว่า การจัดหารถเมล์ ขสมก.รอบแรก 489 คัน ยังคงเป็นรถเมล์เอ็นจีวีอยู่ ซึ่งจะรับมอบและให้บริการได้ในเดือนก.ค.นี้

 แต่การจัดหาระยะต่อไปอีก 2 พันกว่าคัน จะเปลี่ยนเป็นรถเมล์พลังไฟฟ้าทั้งหมด ซึ่งขณะนี้ได้รับรายงานผลศึกษาเบื้องต้นแล้ว หากใช้รถเมล์ไฟฟ้าแม้ต้นทุนการซื้อรถจะแพงกว่ารถเมล์ธรรมดา 3 เท่า แต่ในระยะยาวการใช้พลังงานจะคุ้มค่าและประหยัดค่าบำรุงรักษากว่า จะเสนอให้ครม.รับทราบในเดือนพ.ค.นี้

ขณะที่รถโดยสาร บขส. ให้ศึกษาเช่นกัน แต่เบื้องต้นในส่วนของรถ บขส.หากใช้รถพลังไฟฟ้าจริง จะวิ่งได้เฉพาะในเส้นทางระยะใกล้
เช่น กรุงเทพฯ ไปปริมณฑล หรือรถวิ่งระหว่างอำเภอในต่างจังหวัด ซึ่งใช้เวลาเดินทางไม่เกิน 5 ช.ม. เพราะปัจจุบันรถพลังไฟฟ้ายังใช้ได้จำกัด และต้องชาร์จใหม่ทุก 5 ช.ม. ดังนั้นหากวิ่งทางไกลจะไม่สะดวกในการชาร์จไฟ

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์