ปปช.ฟันสลายชุมนุม 3บิ๊กตร.ผิด ตั้งอนุกก.สอบทันที

ผ่านไป 8 วัน สำหรับเหตุการณ์สลายการชุมนุมที่หน้ารัฐสภา ที่มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ซึ่งเจ้าหน้าที่ ตำรวจได้ตกเป็นจำเลยสังคมในเหตุการณ์ดังกล่าว โดยถูกต่อต้านและถูกโจมตีอย่างหนัก รวมทั้งมีกระแสกดดันรอบด้าน ขณะที่รัฐบาลได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนข้อเท็จจริงในเหตุการณ์ “7 ตุลาเลือด” แล้ว 
 

เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 14 ต.ค.  พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผบช.น. กล่าวถึงกรณีสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรฯ เมื่อวันที่ 7 ต.ค.ว่า
 
ตำรวจต้องปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา และป้องกันไม่ให้ 2 ฝ่ายที่มีความขัดแย้งด้านความคิดเผชิญหน้าจนเกิดการปะทะ ที่ผ่านมามีบทเรียนกรณีกลุ่ม นปก.ปะทะกับพันธมิตรฯจนมีผู้เสียชีวิต เมื่อวันที่ 2 ก.ย. ขณะนี้ได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนติดตามความเคลื่อนไหวของผู้ชุมนุมทั้ง 2 กลุ่ม ชั้นนี้ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง เพราะผู้มาร่วมชุมนุมทั้ง 2 กลุ่มน้อยลงทุกวัน ส่วนการรับผิดชอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยอมรับว่าเป็น 1 ในผู้ปฏิบัติ ปฏิเสธไม่ได้ที่จะรับผิดชอบในการกระทำ ขณะนี้มีการตั้งคณะกรรมการมาพิจารณาว่าใครเป็นคนผิด และคณะกรรมการเยียวยาผู้เสียหาย คงต้องรอคณะกรรมการพิจารณาอีกครั้ง เราพร้อมรับคำตัดสินของคณะกรรมการอย่างไม่มีเงื่อนไข เรื่องแก๊สน้ำตาเราเป็นผู้ปฏิบัติ ของที่นำมาใช้เราไม่ได้เป็นคนซื้อ มีฝ่ายจัดซื้อจัดหามาให้เราใช้ควบคุมสถานการณ์ ทั้งหมดต้องรอผลสืบสวนสอบสวนของคณะกรรมการอีกครั้ง
 


ผบช.น.มีสปิริตพร้อมรับคำตัดสิน 

พล.ต.ท.สุชาติกล่าวด้วยว่า
 
พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตรองนายกรัฐมนตรี มาที่ บช.น.ในคืนวันที่ 6 ต.ค. ตนมีภารกิจไม่ได้เข้าร่วมประชุม ไม่สามารถพูดได้ว่าท่านสั่งการหรือไม่ เพราะเป็นรายละเอียดในที่ประชุม ส่วนตอนเช้ายอมรับว่าเป็นผู้บังคับบัญชาเหตุการณ์นำแผนกรกฎ 48 มาใช้ เพราะตนเป็น ผบช.น. ต้องเป็น ผบ. เหตุการณ์โดยตำแหน่งอยู่แล้ว แต่คนที่เข้าไปปฏิบัติการต่างๆ เข้าไปควบคุมการปฏิบัติในพื้นที่ มีทั้งผู้บัญชาการ และรองผู้บัญชาการต่างๆอยู่ในเหตุการณ์ด้วย ตลอดเหตุการณ์มีการประชุมหารือตลอดว่า ภารกิจที่มอบหมายต้องปฏิบัติการอย่างไร ตั้งแต่จะต้องทำหรือไม่ ทำไมจะต้องทำ ต้องทำอย่างไร และทำอย่างไรที่จะสูญเสียน้อยที่สุด นี่คือหลักตามแผนกรกฎ 48 ผู้สื่อข่าวถามถึงความจำเป็นในการยิงแก๊สน้ำตาจำนวนมาก พล.ต.ท.สุชาติกล่าวว่า เป็นความจำเป็นที่จะต้องยับยั้งฝูงชน แต่ไม่ใช่การสลายหรือขับไล่ เราต้องป้องกันสถานที่สำคัญของราชการ ทั้งหมดตนขอรับผิดชอบ มันชัดเจนในตัวมันอยู่แล้วที่ตนต้องเป็นผู้รับผิดชอบ ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ตลอดทั้งวันที่ 14 ต.ค. มีประชาชนจากชุมชนต่างๆนำกระเช้าดอกไม้ อาหาร และเครื่องดื่ม มามอบให้ตำรวจที่ บช.น. เพื่อเป็นกำลังใจทั้งวัน

ยืนยันตำรวจทำสมควรแก่เหตุ


พล.ต.อ.วิสุทธิ์กล่าวต่อว่า

ตำรวจใช้ความอดทนอดกลั้นอย่างมาก ไม่มีแตกแถว การตัดสินใจใช้แก๊สน้ำตา เพราะต้องการให้กลุ่มผู้ชุมนุมเปิดทาง ไม่ให้เข้ามาประชิดตัวเพราะอาจได้รับอันตราย เป็นสิ่งที่ทำไปตามสมควรแล้ว สำหรับการตั้งคณะกรรมการสอบสวนทั้งของรัฐบาลหรือตำรวจ เป็นเพียงการหาข้อเท็จจริงเท่านั้น ไม่ได้แก้ปัญหาที่เกิดขึ้น หลังตั้งคณะกรรมการฯได้ ข้อเท็จจริงออกมาแล้ว เชื่อว่าจะมีประชาชนให้กำลังใจตำรวจมากขึ้น จะได้มีอะไรชัดเจนมากขึ้น แต่สิ่งที่ต้องจำไว้เป็นบทเรียนคือ เรื่องแก๊สน้ำตา เพราะเป็นของประเทศจีน จะเห็นว่าเวลาที่ประเทศจีนใช้สลายผู้ชุมนุมจะเกิดความรุนแรง เป็นอาวุธที่รุนแรง แต่ของอเมริกาจะคำนึงถึงประชาชนในประเทศมากกว่า ตรงนี้ถือว่าเป็นจิตวิทยาของแต่ละประเทศ 


ยอมรับเพิ่งใช้แก๊สน้ำตาครั้งแรก

 

พล.ต.ท.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ ผบช.สตม.กล่าวในฐานะรองหัวหน้าประชาสัมพันธ์ และเจรจาต่อรอง ว่า

ขอยืนยันตำรวจไม่ได้มีเจตนาทำให้มีผู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บ จากการใช้แก๊สน้ำตาควบคุมฝูงชน เพราะเหตุ ลักษณะนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ยอมรับว่าตั้งแต่มีการสั่งซื้อแก๊สน้ำตา ได้นำมาใช้เป็นครั้งแรกกับเหตุการณ์ จริงในการสลายผู้ชุมนุมครั้งนี้ โดยชุดปราบจลาจลที่ได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี ไม่มีใครคิดว่าจะมีเหตุการณ์ ความวุ่นวายของบ้านเมือง จนต้องใช้อุปกรณ์แก๊สน้ำตาเข้ามาคลี่คลายสถานการณ์

ซัด 3 บิ๊ก ตร.สั่งการสลายชุมนุม


นายกล้านรงค์กล่าวว่า ส่วนนายสมชายและ พล.ต.อ.จงรัก ในชั้นนี้ยังไม่ปรากฏข้อเท็จจริง และพยานหลักฐานเพียงพอที่จะฟังได้ว่า

มีส่วนร่วมในการสั่งการดังกล่าวด้วย ที่ประชุม ป.ป.ช.จึงมีมติตั้งอนุกรรมการไต่สวน พล.ต.อ.พัชรวาท พล.ต.ท.สุชาติ และ พล.ต.ต.อำนวย โดยมีนายวิชา มหาคุณ กรรมการ ป.ป.ช. เป็นประธานอนุกรรมการไต่สวน ทั้งนี้หากการไต่สวนข้อเท็จจริงของคณะอนุกรรมการไต่สวนปรากฏว่า มีบุคคลอื่นร่วมในการกระทำความผิดครั้งนี้ด้วย ก็ให้คณะอนุกรรมการไต่สวนรวมดำเนินการต่อไป ซึ่งการทำงานของ ป.ป.ช. นั้นยึดมั่นในการทำงานอย่างเคร่งครัดและเป็นไปตามขั้นตอนตามกฎหมายทุกประการ  


4 ส.ส.พปช.แจ้งความเอาผิด พธม. 


ที่ สน.ดุสิต เวลา 15.30 น. นายสุชาติ ลายน้ำเงิน ส.ส.ลพบุรี พรรคพลังประชาชน ในฐานะวิปรัฐบาล พร้อม 3 ส.ส.พรรคพลังประชาชน พล.ท.มะ โพธิ์งาม ส.ส.กาญจนบุรี นายธเนศ เครือรัตน์ นายวิวัฒน์ชัย โหตระไวศยะ ส.ส. ศรีสะเกษ ซึ่งได้รับมอบหมายจากวิปรัฐบาล เดินทางเข้าแจ้งความให้ดำเนินคดีกับกลุ่มพันธมิตรฯที่บุกปิดล้อมรัฐสภาและมีการใช้อาวุธปืนยิงเข้าในบริเวณรัฐสภา

นายสุชาติเผยว่า

ได้มีหลักฐานภาพรอยกระสุนปืนหลายแห่งที่มีการใช้อาวุธปืนยิงเข้ามา ในบริเวณประตูทางเข้ารัฐสภาชั้น 2 และผนังอาคารรัฐสภา โดยในวันที่ 7 ต.ค. ได้ยินแกนนำพันธมิตรฯประกาศชัดเจนว่า ให้มีการฆ่า ส.ส. และให้จับตัวเป็นเชลย พร้อมมีการยิงปืนเข้าในสภาด้วย โดยเฉพาะการนำยางรถยนต์มากั้น ราดน้ำมัน ถ้าตำรวจไม่สลายแล้วม็อบบุกเข้าสภา อะไรจะเกิดขึ้น ทั้งนี้ จะปล่อยให้ไม่มีสภาไม่ได้ พวกเรายึดมั่นในระบอบประชาธิปไตย ต้องทำหน้าที่ในสภา และจากที่ ส.ส.ลงพื้นที่พบประชาชน ต่างให้ยึดมั่นในระบบรัฐสภา พร้อมจะเข้ามาดูแล ส.ส.แทน ลองคิดแล้วกันถ้า ส.ส. 1 คน มีประชาชน 1,000 คน เข้ามาดูแล ภาพหน้าสภาจะเป็นอย่างไร 


 

ชี้ 3 บิ๊ก ตร.มีพฤติกรรมความผิดชัดเจน


นายวิชากล่าวว่า

เบื้องต้นเท่าที่ดู พล.ต.อ.พัชรวาท พล.ต.ท.สุชาติ และ พล.ต.ต.อำนวย นั้นมีพฤติกรรมความผิดที่ค่อนข้างชัดเจนเพราะมีการปรากฏตัวอยู่ในระหว่างที่ตำรวจกำลังสลายการชุมนุม ส่วนการสอบสวนจะสาวไปถึงนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี และ รมว. กลาโหม หรือไม่นั้น ต้องดูว่ามติ ครม.นัดพิเศษเมื่อวันที่ 6 ต.ค. นายสมชายได้มีการสั่งการอย่างไร รวมถึงต้องดูว่าพยานที่มาให้ปากคำนั้นมีใครให้การพาดพิงไปถึงนายสมชายหรือไม่ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าคณะอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริงคงใช้เวลาในการสอบสวนคดีนี้ไม่นานนัก 


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์