ปณิธานยันเอกสารลับกต.ของจริง ตั้งธานีหาคนเผยแพร่ ชี้ไทยตั้งใจทำเพื่อฟื้นความสัมพันธ์เขมร

"ปณิธาน"ยันเอกสารลับ"กต."ของจริง ตั้ง"ธานี"หาคนเผยแพร่ ชี้ไทยตั้งใจทำเพื่อฟื้นความสัมพันธ์"เขมร"

"ปณิธาน"ยันเอกสารลับ"บัวแก้ว"ของจริง เผยตั้ง"ธานี"หาคนเผยแพร่ รับอาจไม่ได้ตัว ยันไทยไม่เคยคิดปองร้ายเพื่อนบ้าน ตั้งใจทำเพื่อฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างกัน ชี้ไม่รู้เอกสารที่เขมรรับไปเป็นของจริงหรือไม่

นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เชื่อว่า เอกสารลับของกระทรวงการต่างประเทศที่ทำถึงนายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับมาตรการที่จะดำเนินการกับกัมพูชา ที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย นำมาเปิดเผย นั้นเป็นเอกสารจริง เพราะกระทรวงต่างประเทศไปแจ้งความดำเนินคดีกับ นายจตุพรฐานหมิ่นประมาท กรณีบิดเบือนเอกสารลับกระทรวงต่างประเทศ โดยให้สัมภาษณ์ เมื่อวันที่ 26 ธันวาคมว่า เอกสารดังกล่าวเป็นเอกสารที่กระทรวงต่างประเทศทำถึงนายกรัฐมนตรีจริง แต่ต้องตรวจสอบว่าบิดเบือนข้อมูลในส่วนไหนอย่างไร พร้อมกันนี้กระทรวงต่างประเทศและทำเนียบรัฐบาลจะร่วมกันตรวจสอบว่าเอกสารหลุดรอดออกไปได้อย่างไร เพราะเป็นเอกสารที่นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ทำถึงนายกรัฐมนตรี โดยตรง ทำให้มีผู้เกี่ยวข้องไม่มาก ซึ่งต้องไปไล่ดูตั้งแต่ช่องทางรับ-ส่งเอกสาร ช่องทางที่เอกสารเดินไป โดยพล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์  รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง จะเป็นผู้ดูแล การหาตัวคนเผยแพร่เอกสารอาจไม่ง่ายเพราะอาจไม่ใช้วิธีคนนำสาร แต่ใช้วิธีส่งอีเมล์ หรือส่งทางโทรสาร


ส่วนกรณีที่นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ระบุไทยสามารถฟ้ององค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) กรณีที่สมเด็จฯ ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา กล่าวหาว่าไทยมีแผนรัฐประหารรัฐบาลกัมพูชานั้น นายปณิธาน กล่าวยืนยันว่า ไทยไม่เคยคิดปองร้ายประเทศเพื่อนบ้าน เอกสารที่ออกมา เป็นไปเพื่อฟื้นฟูความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา แต่ทั้งนี้เอกสารที่กัมพูชาได้รับยังไม่รู้เป็นของจริงหรือไม่ และผู้เชี่ยวชาญของกัมพูชามีโอกาสตรวจสอบเนื้อหาในเอกสารอย่างละเอียดหรือยัง เพราะขณะนี้มีปัญหาเรื่องการตีความและความไม่เข้าใจ


"ขณะนี้ยังไม่มีอะไรยกระดับเข้าไปสู่กรอบพหุภาคี เพราะกระบวนการทางการทูตของแต่ละประเทศมีมาตรฐานสากลอยู่แล้ว แต่ถ้าภาคประชาชนจะส่งเรื่องร้องเรียนพฤติกรรมของประเทศสมาชิกไปยูเอ็น ก็สามารถทำได้ ซึ่งยูเอ็นจะดูความสมัครใจของประเทศคู่พิพาทว่า จะตกลงกันเองได้หรือไม่ เว้นแต่มีอะไรกระทบความมั่นคงของภูมิภาค ยูเอ็นจึงจะเข้ามา แต่ขณะนี้ยืนยันว่าการดำเนินการทุกอย่างอยู่ภายใต้กรอบทวิภาคี" นายปณิธาน กล่าว


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์