ปชป.แฉรบ.ขายข้าวให้บริษัทผี

ภาพจาก คมชัดลึกภาพจาก คมชัดลึก


ปชป.รุมสับนโยบายรับจำนำข้าว 'เกียรติ' ชี้ตัวเลขส่งออกขัดข้อมูลศุลกากร 'วรงค์' แฉรบ.ไทยขายข้าว 'จีทูจี' ให้บริษัทผี เปิดชื่อ 'เสี่ยโจ -เสี่ยเปี๋ยง' ตัวละครสำคัญ

 


26พ.ย.2555 ในช่วงบ่ายของการประชุมสภาผู้แทนราษฎรนัดพิเศษ เพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล วันที่สองส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ได้สลับขึ้นอภิปราย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ ต่อประเด็นการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าวทุกเมล็ดของรัฐบาล โดยนายเกียรติ สิทธีอมร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายว่า จากการตรวจสอบตัวเลขของกรมศุลกากรระบุว่า การส่งออกข้าวทั้งระบบของประเทศได้เพียง 4.7 ล้านตันเท่านั้น ไม่ใช่ 5 ล้านกว่าตัน ตามที่รัฐบาลกล่าวอ้าง อยากตั้งข้อสังเกตว่าเป็นไปได้หรือไม่ ที่จะมีการเวียนเทียนข้าวในโครงการ เพราะในปีที่ผ่านเกษตรกรประสบภัยพิบัติน้ำท่วมและข้าวเปลือกเสียหายกว่า 8 ล้านตัน

             

 นายเกียรติอภิปรายอีกว่า นอกจากจะมีการเวียนเทียนนำสต็อกเก่า รวมถึงข้าวในประเทศเพื่อนบ้านมาจำนำ แล้วการที่รัฐบาลบอกว่าได้ทำสัญญาขายข้าว 7.3 ล้านตันแล้วนั้น ถือเป็นการส่งออกที่จะเสร็จสิ้นในปี 2556 และกว่าจะได้เงินต้องบวกไปอีกกว่า 2 ปี และจะยิ่งขาดทุน เพราะเท่าที่ทราบรัฐบาลขายข้าวได้ต่ำกว่าราคากลางของตลาดที่กำหนดไว้ 600 ดอลลาร์ หรือ 1.8 หมื่นบาทต่อตัน แต่ความจริงขายได้เพียง 400 ดอลลาร์ต่อตันเท่านั้น โดยอ้างว่าเป็นราคามิตรภาพ ไม่ทราบว่าใครให้สิทธินายกรัฐมนตรีไปขายข้าวในราคามิตรภาพ

              

“วันนี้ในวงการข้าวเขาทราบกันดีว่า ถ้าโรงสีใดอยากได้ข้าวต้องติดต่อ เจ๊ ด. คนเดียว และที่ผ่านมามีบริษัท ส. ได้สิทธิกระจายข้าวจากโครงการรับจำนำ มีการจัดเป็นระบบในการส่งมอบ จัดหาข้าว และแบ่งกำไรให้โรงสีกิโลกรัมละ 1 บาท ที่ผ่านมามีผู้เตือนรัฐบาลเกี่ยวกับโครงการนี้ผ่านการเขียนบทความกว่า 3,500 บทความในประเทศ และบทความต่างประเทศถึง 356 บทความ แต่รัฐบาลไม่เคยรับฟัง” นายเกียรติ อภิปราย

              

นายเกียรติ กล่าวต่อว่า หากเทียบงบประมาณที่รัฐบาลใช้กับโครงการรับจำนำพบว่าขาดทุนมหาศาล เพราะมติคณะรัฐมนตรีอนุมัติเงิน 4.05 แสนล้านบาท ต้องรับจำนำข้าวได้ 26 ล้านตันครอบคลุมเกษตรกร 4 ล้านครัวเรือน แต่รัฐบาลกลับใช้เงิน 4.05 แสนล้าน รับจำนำข้าวได้เพียง 18 ล้านตัน และครอบคลุมเกษตรกรเพียง 1.7 ล้านครัวเรือนเท่านั้น เท่ากับเงินหายไปถึง 1.2 แสนล้านบาท นอกจากนี้ตัวเลขจากสภาพัฒน์ยังระบุว่า รัฐบาลใช้เงินโครงการรับจำนำข้าวนาปีและนาปรังในปี 2554/55 รวมถึงข้าวนาปรังรวมเป็นงบที่ไม่ใช่เพียงเบิกออกมา แต่ใช้ไปแล้วถึง 5.17 แสนล้านบาท หากเทียบกับสูตร 4.05 แสนล้านบาท ต้องได้ 26 ล้านตันแล้ว เท่ากับว่าเงินหายไปจากงบประมาณ 5.17 แสนล้านบาท ถึง 1.8 แสนล้านบาท แต่ผลประโยชน์ที่ได้กลับพบว่าไม่ถึงมือชาวนา มีแต่โรงสีเท่านั้นที่ได้รายได้อย่างมหาศาล

              

นายเกียรติกล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบโรงสีข้าวของ ส.ส.พรรคเพื่อไทยหลายแห่ง พบว่ามีรายได้เพิ่มขึ้นมหาศาล โรงสีในประเทศมีทั้งหมด 3.8 หมื่นราย มีโรงสีขนาดใหญ่ 3,000 โรง แต่มีโรงสีที่เข้าโครงการรับจำนำเพียง 652 โรงเท่านั้น พบว่าโรงสีในภาคกลางแห่งหนึ่งมีรายได้ในปี 2553 เพียง 19 ล้านบาท แต่กลับเพิ่มขึ้นในปี 2554 ถึง 44 ล้านบาท โรงสีแห่งหนึ่งที่ติดกับ กทม.ปี 2553 มีเพียง 3 หมื่นบาท แต่เพิ่มขึ้นสูงถึง 114 ล้านบาทในปี 2554 และยังพบว่า โรงสีอีกแห่งในภาคอีสานมีรายได้สูงขึ้นถึง 730 ล้านบาท ทั้งนี้ไม่ต้องการเปิดเผยชื่อเจ้าของโรงสี เพราะวันนี้ตั้งใจมาอภิปรายนายกรัฐมนตรี

              

“โครงการนี้ผมมองว่า ไม่ใช่โครงการทุจริตเชิงนโยบาย เรียกว่าเป็นการทุจริตด้วยนโยบาย เพราะนโยบายทำให้เกิดทุจริตทั้งระบบ ชาวนาไม่ได้อะไร และนโยบายจะทำให้ประเทศล้มละลาย โครงการนี้ทุจริตทุกเม็ด มีคนโกยแล้วโกยอีก อยากถามว่า ต่อมสำนึกนายกฯ อยู่ที่ไหน” นายเกียรติ อภิปราย
เปิดคลิปแฉทุจริตรับจำนำข้าว

              

จากนั้น นายยุพราช บัวอินทร์ ส.ส.เพชรบูรณ์ พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายว่า ในโครงการรับจำนำข้าวทุกเมล็ดในพื้นที่ จ.เพชรบูรณ์ พบว่ามีการโกงชาวนาเกิดขึ้น โดยโรงสี ทั้งในขั้นตอนการตรวจวัดความชื้น นอกจากนั้นยังพบด้วยว่า โรงสีซึ่งไม่ได้เข้าโครงการรับจำนำดำเนินการรับจำนำข้าวของเกษตรกร และนำไปขายให้ อ.ต.ก. ทั้งนี้โรงสีที่รับซื้อข้าวดังกล่าวถูกตำรวจจับดำเนินคดี ทำให้ประเด็นนี้สงสัยว่า อ.ต.ก.มีความผิดในข้อหารับของโจรหรือไม่ นอกจากนั้นยังพบว่า มีกระบวนการทำทุจริตโครงการรับจำนำข้าวในพื้นที่ โดยมีเจ้าหน้าที่รัฐเป็นผู้ที่ดำเนินการ

              

ในช่วงท้ายของการอภิปราย นายยุพราชได้เปิดคลิปวิดีโอภาพการสนทนาระหว่างกลุ่มบุคคล โดยมีชายรูปร่างอ้วน สวมเสื้อโปโลสีน้ำเงิน ที่ถูกคาดหน้าด้วยแถบสีดำ ระบุว่า “การจ่ายเงิน ต้องทำต่อหน้าผู้ว่าฯ เท่านั้น เพราะกฎหมายกำหนด ไม่เช่นนั้นจะเป็นการยักยอกทรัพย์ เพราะผมได้เอาทรัพย์ของพวกท่านมาแล้ว”

              

ทั้งนี้ มีชายคนหนึ่งสอบถามขึ้นว่า “หากจะให้ออกใบประทวน หรือจ่ายเงินสดก็บริการได้ใช่ไหม” ซึ่งชายสวมเสื้อสีน้ำเงินตอบว่า “ได้เลย แต่การจ่ายเงินสด ต้องจ่ายผ่านผู้ว่าราชการจังหวัด เนื่องจากเป็นกฎหมาย ไม่สามารถจ่ายเงินสดได้ด้วยตัวผมเอง เพราะผิดเงื่อนไขจำนำ”

              

จากนั้นนายยุพราชอภิปรายต่อว่า คลิปวิดีโอดังกล่าวเป็นตัวอย่างความล้มเหลวของโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล ที่มี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ เป็นประธานคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ ซึ่งไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ที่ จ.เพชรบูรณ์ ขึ้นอีก


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์