ปชป.อัดรัฐยึดหนังสือ แก้วสรร ละเมิดสิทธิ ปชช.ขั้นรุนแรง

ปชป.อัดรัฐยึดหนังสือ แก้วสรร ละเมิดสิทธิ ปชช.ขั้นรุนแรง

นายองอาจ คล้ามไพบูลย์

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 20 มีนาคม 2549 19:05 น.

ปชป.เตือนรัฐบาลหยุดละเมิดสิทธิประชาชน ชี้หนังสือ แก้วสรร ทำลายความมั่นคงของนายกฯ ไม่ใช่ของประเทศ ปชป.หอบหลักฐานโกงเลือกตั้งยื่น กกต. พร้อมร้องขอเปลี่ยนตัว ปธ.กก.สอบสวน อ้างไม่ไว้ใจหวั่นพยานหลักฐานถูกบิดเบือน

วันนี้ (20 มี.ค.) นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจยึดหนังสือ หยุดระบอบทักษิณ ช่วยกันกู้ชาติกู้ประชาธิปไตยของเราคืนมา ของนายแก้วสรร อติโพธิ ส.ว.กทม.ว่า แกนนำพรรคได้อ่านหนังสือนี้อย่างละเอียดแล้ว ยังไม่เห็นว่าจะทำลายความมั่นคงของประเทศตรงไหน แต่ทำลายความมั่นคงของนายกรัฐมนตรีมากกว่าในฐานะที่มีส่วนเสริมสร้างระบอบทักษิณในประเทศ ทั้งนี้ หนังสือดังกล่าวเป็นหนังสือที่ให้ความรู้กับประชาชนทั่วไป และยังมีการระบุชื่อของผู้รับผิดชอบในการจัดทำ ซึ่งสามารถตรวจสอบได้อยู่แล้ว และยังถือว่าเป็นการใช้สิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญ ดังนั้น ขอฝากไปยังรัฐบาลและผู้ที่เกี่ยวข้องว่าไม่ควรละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชนโดยการยึดหนังสือ และทำลายความน่าเชื่อถือของกลุ่มที่ออกมาแสดงความเห็นคัดค้านนายกฯ ทำให้ประชาชนเข้าใจผิดว่าเป็นการล้มล้างระบอบประชาธิปไตย

ส่วนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกฯ ระบุว่าอนาคตของประเทศจะมีปัญหาเพราะขณะนี้ต่างประเทศตกใจว่ารัฐบาลที่ประชาชนเลือกมา 377 เสียงกลับถูกคนกลุ่มหนึ่ง และมีส.ว.และฝ่ายค้านมาชุมนุมคัดค้านนั้น นายองอาจ กล่าวว่า เรื่องนี้ต่างประเทศไม่ได้ตกใจ เพราะผู้นำประเทศที่ได้รับการเลือกตั้งทั้งแบบประธานาธิบดี หรือผ่านการเลือกตั้งระบบรัฐสภาเป็นนายกฯ ในหลายประเทศก็ถูกประชาชนชุมนุมขับไล่เช่นกันซึ่งเป็นเรื่องปกติ แต่หากสังเกตให้ดีจะเห็นว่าผู้นำประเทศที่ถูกประชาชนเดินขบวนขับไล่ส่วนมากมักจะเป็นผู้นำประเทศประเภทเผด็จการในเสื้อคลุมประชาธิปไตย ใช้กลไกของประชาธิปไตยเข้ามาสู่อำนาจ แต่เมื่อได้อำนาจแล้วมักใช้วิธีเผด็จการครอบครองอำนาจอย่างเบ็ดเสร็จ และใช้อำนาจแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบตลอดเวลา

เมื่อผู้ปกครองไม่มีความเป็นธรรม และไม่ใช่วิธีการโดยชอบธรรมในการบริหารประเทศ ย่อมถูกประชาชนออกมาขับไล่ ซึ่งเป็นเรื่องปกติ ดังนั้น ต่างประเทศไม่ได้ตกใจ จึงขอความกรุณานายกฯ ทักษิณอย่าไปตกใจแทนชาวต่างประเทศ หรือว่าท่านอยากอพยพไปอยู่ประเทศต่างๆ เหล่านั้น จึงเริ่มฝึกฝนตัวเองให้ตกใจก่อนล่วงหน้า เพราะถ้าเข้าใจในเรื่องประชาธิปไตยก็จะเห็นเหล่านี้เป็นเรื่องปกติมาก โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว

นายองอาจ กล่าวว่า นายกฯมักจะพูดเสมอถ้าเว้นวรรคประชาธิปไตยความน่าเชื่อถือจะหายไปนั้น ตนคิดว่าในขณะนี้ไม่มีใครในประเทศไทยอยากให้ประชาธิปไตยเว้นวรรค แต่ประชาชนอยากให้นายกฯ เว้นวรรคมากกว่า ดังนั้น นายกฯ อย่าสำคัญตนผิดว่าตัวเองเป็นประชาธิปไตย เพราะท่านเป็น พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ใช่นายประชาธิปไตย นอกจากนี้ การที่มีความพยายามนำผู้สนับสนุนออกมาเคลื่อนไหวในขณะนี้นั้น จะเห็นว่าเป็นพฤติกรรมไม่ต่างจากผู้นำในหลายประเทศที่กำลังจะหมดอำนาจต้องวิธีการเหล่านี้ และก็หลงใหลว่าภาพลวงตาเป็นภาพจริง

โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ยังแถลงว่า พรรคได้รับหนังสือจาก กกต.ลงวันที่ 17 มี.ค. เชิญนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ไปสอบสวนปากคำที่ กกต.ในวันที่ 22 มี.ค. โดยลงชื่อนายไพบูลย์ ร่วมสุข ผู้อำนวยการสำนักกิจการพรรคการเมืองฯ ในฐานะประธานกรรมการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริง ซึ่งที่ประชุมแกนนำพรรคได้หารือกันถึงเรื่องดังกล่าว และได้ทำหนังสือด่วนจากนายสุเทพไปถึง กกต. ว่ายินดีให้ความร่วมมือและพร้อมจะเดินทางไปให้ปากคำด้วยตัวเอง แต่ไม่ประสงค์ให้ปากคำกับนายไพบูลย์ซึ่งเป็นผู้ทำหนังสือเชิญมา เพราะพรรคไม่ไว้วางใจนายไพบูลย์ โดยขอเรียกร้องให้เปลี่ยนตัวผู้รับผิดชอบในการสอบปากคำ และขอเลื่อนไปให้ปากคำในวันที่ 21 มี.ค. ส่วนจะเป็นเวลาไหนให้ กกต.เป็นผู้นัดหมายมา

ทั้งนี้ พรรคได้มอบหมายให้นายเทพไท เสนพงศ์ กรรมการบริหารพรรคเดินทางนำหนังสือดังกล่าวไปมอบให้ พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พร้อมกับนำหลักฐานเอกสารต่างๆ ที่แกนนำพรรคไทยรักไทยจ้างพรรคเล็กลงสมัครรับเลือกตั้ง ตลอดจนแผนผังขั้นตอน การสมัครและการจ่ายเงิน รวม 8 หน้า และบัญชีรายชื่อผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งที่ขาดคุณสมบัติ ไปมอบให้ พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ซึ่ง พล.ต.อ.วาสนามารับด้วยตัวเองเรียบร้อยแล้ว

เมื่อถามว่า เหตุใดพรรคจึงไม่ไว้วางใจให้ปากคำกับนายไพบูลย์ นายองอาจ กล่าวว่า เนื่องจากพรรคพบว่านายไพบูลย์มีพฤติกรรมที่ส่อว่าหากให้ปากคำไปแล้วอาจจะทำให้พยานหลักฐานต่างๆ เบี่ยงเบนไป แต่ยังไม่สามารถบอกได้ว่านายไพบูลย์มีส่วนเกี่ยวข้องกับการแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อมูลของพรรคเล็กที่ถูกจ้างให้ลงสมัครรับเลือกตั้งหรือไม่

ส่วนที่หัวหน้าพรรคพัฒนาชาติไทย แจ้งความดำเนินคดีกับนายสุเทพในข้อหาหมิ่นประมาท รวมทั้งระบุว่ามีการใช้เงินจ้างให้ล้มการเลือกตั้งนั้น นายองอาจ กล่าวว่า ไม่เป็นความจริง ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ยืนยันว่าไม่เคยติดต่อกับพรรคการเมืองไหนให้ล้มการเลือกตั้ง แต่นายสุเทพและคณะทำงานไปติดต่อพรรคการเมืองที่ได้รับแจ้งว่าเกี่ยวข้องกับการทุจริตเลือกตั้งเพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติมมาประกอบกรณีทุจริตการเลือกตั้ง แต่ไม่ใช่ติดต่อให้ล้มการเลือกตั้ง เพราะทราบดีอยู่แล้วว่าพรรคเหล่านี้คงไม่มีกำลังไปล้มการเลือกตั้ง และในความจริงทุกเวทีที่พรรคปราศรัยพรรคยังบอกให้ประชาชนไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ส่วนจะเลือกใครเป็นดุลพินิจของประชาชน

เรายังหวังว่า กกต.ช่วยกันปัดกวาดความสกปรกที่เกิดขึ้นภายใน กกต.เองร่วมกับพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อให้องค์กรอิสระเป็นองค์กรที่ได้รับความเชื่อถือและเชื่อมั่นจากประชาชน เพื่อให้กกต.สามารถทำให้การเลือกตั้งบริสุทธิ์และเที่ยงธรรมได้ ดังนั้น พรรคจึงพร้อมเดินทางไปให้ความร่วมมือกับ กกต.ในการค้นหาความจริง เพื่อทำให้ กกต.เป็นที่พึ่งของสังคมได้ต่อไป โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์