ปชป.ยอมสละ วิฑูรย์ รักษาชีวิต บุญจง-สุเทพ

คำแก้ตัวของ "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" นายกรัฐมนตรี หลัง "วิฑูรย์ นามบุตร" รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ถูก "ปลากระป๋อง" หล่นทับ จนต้องลาออกจากตำแหน่ง

กรณีไม่ปรับ "บุญจง วงศ์ไตรรัตน์" รมช.มหาดไทย ออกจากตำแหน่ง ทั้งที่ถูกสังคมกดดันหนักจากกรณีแจกเงินหลวงพ่วงนามบัตร

ว่าทั้ง 2 กรณีแตกต่างกัน เพราะกรณี "วิฑูรย์" ประชาชนได้รับความเสียหาย ขณะที่กรณี "บุญจง" ประชาชนยังไม่เกิดความเสียหาย เพียงแต่ทำให้เข้าใจผิดว่าเป็นเงินของตัวรัฐมนตรีและได้ตักเตือนไปแล้วนั้น

นอกจากจะ "ฟังไม่ขึ้น" แบบสุดสุดแล้ว ยังน่าลองไปจับชายเสื้อของทั่นนายกฯเลิกขึ้นดูสีข้างว่ามีเลือดไหลซิบๆ ออกมาหรือไม่

เพราะจริงๆ แล้ว การซิกแซ็กแจกเงินหลวงพ่วงนามบัตรของ "บุญจง" น่าจะมีความผิด และมีกลิ่น "เน่าเหม็น" มากกว่ากลิ่นปลาซาร์ดีนในกระป๋องที่ "วิฑูรย์" ใส่ถุงยังชีพไปแจกชาวบ้านที่ จ.พัทลุง เสียอีก เพราะใครจะไปรู้ว่า ของที่ให้ "ข้าราชการ" เอาไปแจก หวังเป็นซานตาคลอสจะเป็น "พิษ" ย้อนกลับมาทิ่มแทงผู้แจกเอง

ขณะที่การกระทำของ "บุญจง" ชัดเจนว่า เกิดจากการ "ชิงความได้เปรียบทางการเมือง" ในลักษณะ "อหังการ์" และตั้งใจทำในสิ่งที่ "ท้าทายกฎหมาย"

แม้ถ้อยแถลงเปื้อนน้ำตาของ "วิฑูรย์" จะระบุว่าการลาออก มาจากการตัดสินใจของเจ้าตัวเอง แต่เบื้องหลัง รู้กันดีว่า "รมต.ปลากระป๋องเน่า" ถูก "บิ๊กประชาธิปัตย์" บีบจน "หน้าเขียว" พร้อมปล่อย "ลอยแพ" เป็นเวลากว่า 2 อาทิตย์ กระทั่งเจ้าตัวบ่นน้อยใจกับคนสนิทว่า "บางคนไม่ช่วยแต่กลับมาเหยียบย่ำซ้ำเติม"

การจัดการปัญหากรณี "วิฑูรย์" เป็นอีกครั้งที่ ปชป. เลิกวิธีถนัด "ทิ้งเพื่อน" เพื่อเอาตัวรอด

เหมือนที่เคยปล่อยให้ "สุเทพ" ถูกฝ่ายค้านยำกลางสภา กรณี ส.ป.ก.4-01 อยู่คนเดียว จนสุดท้ายต้องลาออกจากตำแหน่งมาแล้ว

เพราะ ปชป.อาจประเมินแล้วว่า หากฝ่ายค้านหยิบกรณีเอาปลากระป๋องเน่าไปแจกคนที่เดือดร้อนอยู่แล้ว ซึ่งเป็นเรื่อง "เซ็นซิทีฟ" ไปอภิปรายไม่ไว้วางใจ "วิฑูรย์" ในสภา จะมีคนเดือดร้อนมากกว่านี้

เป็น "ความจริง" ทางการเมืองที่นายกฯใช้กล่อม "วิฑูรย์" จนเจ้าตัวยอมสละเก้าอี้ ทั้งที่เพิ่งนั่งมาได้แค่ 42 วันเท่านั้น

แม้ท้ายสุด "สุเทพ" จะกลับมายิ่งใหญ่ถึงขนาดเป็นผู้จัดตั้งรัฐบาลได้ แต่อนาคตของ "วิฑูรย์" ยังมีคำถาม

กลับตาลปัตรกับ รัฐมนตรีคนสำคัญ "กลุ่มเพื่อนเนวิน" ที่ บิ๊ก ปชป.ทั้ง "สุเทพ เทือกสุบรรณ" รองนายกรัฐมนตรี "ถาวร เสนเนียม" รมช.มหาดไทย กระทั่งตัว "อภิสิทธิ์" เอง ออกมาปกป้องราวไข่ในหิน

ขณะเดียวกับพรรคภูมิใจไทยก็ส่งสัญญาณบีบว่า "ห้ามปรับบุญจง" แต่ไก่โห่ ทำให้คำอ้างของนายกรัฐมนตรี เรื่องการปรับ ครม.ว่า "มาร์คเป็นตัวของตัวเอง" ฟังดูน่าหัวเราะมากกว่าเข้มขลัง

ทำให้ "กฎเหล็ก" ที่ตั้งไว้ ตอนประชุม ครม.ครั้งแรกโดยเฉพาะข้อเก้า ที่ว่ารัฐมนตรีทุกคนไม่มีสิทธิเหนือคนอื่นในการปฏิบัติตามกฎหมาย แต่ต้องมีความมาตรฐานทางการเมือง "สูงกว่า" มาตรฐานทางกฎหมาย กลายเป็น "กฎกระดาษ" ที่แกนนำรัฐบาลกล้าบังคับใช้ กับ "คนพรรคสะตอ" เท่านั้น

สาเหตุที่ บิ๊ก ปชป. ไม่กล้าแตะต้อง "บุญจง" นอกจาก "ความจริงทางการเมือง" บางอย่าง ที่ทำให้ ปชป.ต้องเกรงใจ "คุณพี่เนวิน ชิดชอบ" แล้ว

ส่วนหนึ่ง ยังมีการประเมินว่า ไม่มีความจำเป็นต้องลับมีดเชือด "บุญจง" เอง เพราะเชื่อกันว่าท้ายสุด เจ้าตัวจะถูกสอยจากการดื้อดึงฝ่าแรงต้านกระแสสังคมเอง หลังจากที่ กกต.ออกมาเปิดเผยมติ 48/2551 ที่ให้ดำเนินคดีอาญากับนายบุญจง กรณีใส่ร้ายป้ายสีผู้สมัครคู่แข่งในการเลือกตั้งทั่วไป เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2550 อีกกรณี

แต่ด้านหนึ่ง ปชป.เองก็กลัวว่า "เพื่อนเนวิน" จะย้อนศร "แผล" ที่ "สุเทพ เทือกสุบรรณ" รองนายกรัฐมนตรี ผู้จัดการรัฐบาล อาจถูกดำเนินคดีอาญา กรณีที่ไป "แจกผ้าห่ม-แจกทุน" ที่ จ.สุราษฎร์ธานี ระหว่างที่น้องชายตัวเองลงเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด เป็นที่มาของการนั่งจับเข่าคุยกันระหว่าง "สุเทพ" แกนนำเพื่อนเนวินว่า ชะตากรรม "บุญจง" ปล่อยให้องค์กรอิสระเป็นผู้ตัดสิน

หลังจากทำงานมาได้แค่เดือนกว่า "รัฐบาลมาร์ค 1" กลับ "เปิดคาง" ให้ฝ่ายค้านได้ชกหลายครั้งจนมีคนลุกจากเก้าอี้ไปหนึ่งรายแล้ว หลังจากที่ "ทักษิณ ชินวัตร" ประกาศทวงคืนอำนาจเต็มสูบ โดยระบุว่า พร้อมกลับมาเป็นนายกฯอีกครั้ง รัฐบาลจะทนไปได้อีกสักกี่น้ำ!??

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์