ปชป.ปูดทักษิณถือพาสปอร์ตเขมร มาร์คเชื่อทั่วโลกต้านแม้ว-จักรภพ จาบจ้วงเบื้องสูง-ยุยงใช้อาวุธ

"มาร์ค"ออกรายการ"เชื่อมั่นประเทศไทยฯ" ตอกย้ำ"ทักษิณ"มุ่งเอาชนะจนทำชาติเสียหาย เชื่อนานาชาติเริ่มต่อต้าน"แม้ว-จักรภพ" จาบจ้างเบื้องสูง หลบหนีหมายศาล ยุยุงการใช้อาวุธ ไม่ต่างจากพวกก่อการร้าย ปชป.ปูดอดีตนายกฯ ถือพาสปอร์ตเขมรบินได้ไม่กี่ปท.

 
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ "เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯอภิสิทธิ์" ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (สทท.11) เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 26 เมษายน ถึงการติดตามตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และนายจักรภพ เพ็ญแข แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ที่หลบหนีหมายจับของศาลว่า ทั้ง 2 คน อยู่ต่างประเทศ และเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ สื่อต่างประเทศเริ่มมีความเข้าใจในพฤติกรรมในช่วงที่ผ่านมาของ พ.ต.ท.ทักษิณ และนายจักรภพ ทั้งเรื่องจาบจ้วงสถาบันเบื้องสูงและการยุยงให้มีการใช้อาวุธ เชื่อว่านานาชาติเริ่มต่อต้านการกระทำดังกล่าว ซึ่งแทบจะไม่ต่างจากการก่อการร้ายที่ส่งเสริมความรุนแรงทั้งหลาย ทำให้ต่างประเทศมองเห็น เชื่อว่าความร่วมมือและความเข้าใจจากต่างประเทศน่าจะดีขึ้น

ผู้ดำเนินรายการถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณยังสามารถโฟนอินมายังกลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดงได้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงเมื่อวันที่ 25 เมษายนที่ผ่านมา ไม่มีการโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่ถ้าพูดจาในลักษณะที่ผิดกฎหมายอีก ก็เพิ่มข้อหากระทำการผิดกฎหมายมากขึ้นไปอีก ไม่ทราบว่าจะทำไปทำไม ถ้าทำเพราะคิดว่าจะเอาชนะทางการเมือง จะชนะหรือแพ้ ไม่ทราบ แต่ประเทศชาติเสียหาย วันนี้ไม่ขอโอกาสให้ตัวเอง แต่ขอโอกาสให้คนไทยและประเทศไทยในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ และช่วยกันกอบกู้ภาพลักษณ์ของประเทศจะดีกว่า

ต่อมา นายอภิสิทธิ์ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่คนใกล้ชิด พ.ต.ท.ทักษิณอ้างว่าประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ไม่ได้สั่งห้าม พ.ต.ท.ทักษิณเข้าประเทศ และพร้อมส่งตัวกลับมาให้ทางการไทยดำเนินคดีตามคำกล่าวอ้างของนายอลงกรณ์ พลบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ที่ไปเมืองดูไบ ยูเออีว่า ทางกระทรวงการต่างประเทศเป็นผู้ประสานงาน ซึ่งได้เปิดเผยเป็นข่าวไปแล้ว ขณะนี้กำลังตรวจสอบอยู่ว่าความจริงแล้ว พ.ต.ท.ทักษิณอยู่ในที่ที่อ้างว่าอยู่หรือไม่

แหล่งข่าวจากพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งใกล้ชิดกับนายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า มีข้อมูลยืนยันว่า ขณะนี้ พ.ต.ท.ทักษิณเดินทางไปตามประเทศต่างๆ โดยถือหนังสือเดินทางของกัมพูชา แม้ก่อนหน้านี้ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เคยบินไปสอบถามสมเด็จฯฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ถึงบ้านพักที่กรุงพนมเปญ ภายหลังมีข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณเข้าพำนักในบ้านหลังดังกล่าว โดยสมเด็จฯฮุน เซน ไม่ยอมรับ แต่ก็ไม่ปฏิเสธเรื่องการออกหนังสือเดินทางให้ พ.ต.ท.ทักษิณ การถือหนังสือเดินทางดังกล่าวเป็นสาเหตุที่ทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณเดินทางเข้าออกได้แค่บางประเทศ เฉพาะเขตเศรษฐกิจพิเศษ อย่าง ดูไบ ฮ่องกง รวมถึงประเทศต่างๆ ในทวีปแอฟริกา ที่กฎระเบียบการเข้าประเทศไม่เคร่งครัดมากนัก ประกอบกับกัมพูชามีความสัมพันธ์ทางทูตกับประเทศต่างๆ น้อยกว่าไทย จากการตรวจสอบไทยตั้งสถานทูตและกงสุลทั่วโลก 75 ประเทศ ส่วนกัมพูชามีเพียง 25 ประเทศเท่านั้น ส่วนใหญ่เป็นประเทศในอาเซียน จีน อินเดีย ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น และบางประเทศในทวีปยุโรป

ด้าน นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณมอบหมายให้นายนพดล ปัทมะ อดีตที่ปรึกษากฎหมาย ชี้แจงกรณีที่รัฐบาลระบุว่ารัฐบาลยูเออี ให้ความร่วมมือกับรัฐบาลไทยในการจับกุมพ.ต.ท.ทักษิณ ว่า ประเทศไทยเป็นประเทศเดียวที่ส่งนายอลงกรณ์ไปเจรจาติดตามผู้ถูกกล่าวหา ซึ่งต่อไป รัฐบาลนายอภิสิทธิ์คงจะส่ง พล.อ.ประวิตรไปขายข้าวอย่างแน่นอน ทั้งนี้ ทราบว่า ทางยูเออียืนยันว่าประเทศของเขาเป็นอิสระ และ พ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้ทำผิดกฎหมายอะไรในยูเออี ดังนั้น พ.ต.ท.ทักษิณสามารถเดินทางเข้าออกยูเออีได้ตามปกติ ทั้งนี้ ทราบว่าขณะนี้ พ.ต.ท.ทักษิณพำนักอยู่ที่ทวีปแอฟริกา โดยผู้นำประเทศต่างๆ ในทวีปแอฟริกา ได้ติดต่อขอให้ พ.ต.ท.ทักษิณไปเป็นพลเมืองกิตติมศักดิ์อีกด้วย ดังนั้น สิ่งที่รัฐบาลพยายามให้ข่าวไปตอนแรกนั้น ถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่มีมูลความจริงโดยสิ้นเชิง เป็นหน้าที่ของทีมทนายความของ พ.ต.ท.ทักษิณที่จะดำเนินการต่อไป

รายงานข่าวแจ้งว่า ในวันที่ 27 เมษายน พล.ต.ท.ธีระเดช รอดโพธิ์ทอง ผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล (ผบช.ส.) จะประชุมคณะกรรมการชุดใหญ่ ในการตรวจสอบคำสัมภาษณ์ พ.ต.ท.ทักษิณ กรณีกล่าวพาดพิงสถาบัน เพื่อประมวลพยานหลักฐานต่างๆ ให้ชัดเจน หลังคณะทำงานชุดเล็กตรวจสอบแล้วเห็นว่า คำสัมภาษณ์ของ พ.ต.ท.ทักษิณกับสื่อต่างประเทศ เป็นเรื่องมิบังควร

 
ทั้งนี้ เอกสารรวมทั้งบทคำสัมภาษณ์ ผู้แปล ผู้สัมภาษณ์ ผู้เผยแพร่ ต้องลงนามรับรองว่ามีการให้สัมภาษณ์จริง แต่ปัญหาติดที่ว่าสื่อนั้นๆ จะยินยอมลงนามรับรองหรือไม่ เนื่องจากสื่อต่างประเทศส่วนมากอาจมองว่าการสัมภาษณ์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นเพียงการแสดงความคิดเห็น ขณะที่สังคมไทยมองว่า เป็นเรื่องที่มิบังควร ขณะเดียวกัน จะมีการหยิบยกหารือกรณีที่นายจักรภพกล่าวพาดพิงสถาบันด้วย

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์