ปชป.ท้าฝ่ายค้านโชว์หลักฐาน เขียวจับมือกากีป่วนเมือง

โฆษก ปชป.ตอกโฆษก พท.กล่าวเท็จ  โวเสียงโหวตหนุนพอไม่ต้องใช้เสียง รมต. ท้า พท. โชว์หลักฐาน “เขียวจับมือกากี” สร้างสถานการณ์

เมื่อวันที่ 14 ส.ค. นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายพร้อมพงษ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย พาดพิงพรรคประชาธิปัตย์ว่า รัฐบาลต้องการเลื่อนการพิจารณางบประมาณ 2554 จากวันที่ 18-19 ส.ค.ออกไปเพื่อที่จะแลกกับการอนุมัติโครงการเช่ารถเมล์เอ็นจีวี 4,000 คัน รวมทั้งมีการกล่าวพาดพิงต่อเนื่องไปยังประธานสภาที่ปรึกษาของพรรคว่า มีความประสงค์ จะเอากระทรวงที่อยู่ภายใต้การดูแลของพรรคร่วมได้แก่ กระทรวงคมนาคม กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงพานิชย์ เข้ามาสู่การดูแลของพรรคประชาธิปัตย์ โดยโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ยืนยันว่า เรื่องที่กล่าวมาทั้งหมดนั้นเป็นเท็จ และไม่มีหลักฐานใดมายืนยัน จึงถือเป็นการสร้างความเท็จเพื่อสร้างความขัดแย้ง และความเข้าใจผิดทั้งต่อพรรคร่วมและประชาชน การกล่าวหาในลักษณะดังกล่าวประชาชนเริ่มรับรู้และรู้ทัน 

ส่วนเรื่องการพิจารณารถเมล์เอ็นจีวีนั้น เป็นโครงการที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ให้มีการนำเสนอข้อมูลเพิ่มเติม ไม่เกี่ยวข้องกับการทุจริตทั้งสิ้น และการพิจารณาจะไม่มีการพิจารณาเพื่อแลกเปลี่ยนกับการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณโดยเด็ดขาด เพราะหากเป็นดังที่โฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าวนั้น ถือว่าโครงการนี้จะต้องได้รับการพิจารณาในวันอังคารที่จะถึง แต่ขณะนี้ยังไม่มีกำหนดการออกมาว่าจะมีการพิจารณาในวาระดังกล่าวแต่อย่างใด 

"ขอยืนยันว่า เอกภาพทั้งในส่วนของพรรคร่วมรัฐบาลก็เพียงพอในการอนุมัติร่าง พรบ.งบประมาณ และอาจมีคะแนนเสียงเพิ่มจากพรรคเพื่อแผ่นดินที่มีการลงมติแล้วว่าจะสนับสนุน ร่างงบประมาณอีกกว่า 18 เสียง ดังนั้นจึงเชื่อว่าทำให้เสียงเกินพอโดยที่ไม่ต้องมีการโหวตสนับสนุนจากคณะรัฐมนตรี" โฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าว

นอกจากนี้ นพ.บุรณัชย์ ยังกล่าวถึงกรณีการก่อวินาศกรรมที่ผ่านมาว่า ยังมีเครือข่ายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี คือพรรคเพื่อไทยและแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการ แห่งชาติ (นปช.) ได้พยายามออกมาระบุว่าเป็นการจับมือกันระหว่างสีเขียวและสีกากี เพื่อสร้างสถานการณ์นั้น ตนอยากท้าว่าหากมีหลักฐานขอให้เร่งนำมาเปิดเผยให้สาธารณะชนได้รับรู้ เพราะขณะนี้มีการดำเนินการจับกุมเครือข่ายของผู้ที่เคลื่อนไหว ซึ่งปรากฎว่าเป็นมือขวาของแกนนำคนสำคัญที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อการร้าย และการติดอาวุธ และกองกำลัง 

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ได้มีการขยายผลถึงเส้นทางการเงินว่ามาจากในหรือนอกประเทศตามที่เคยมีการระบุมาแล้ว ซึ่งน่าจะเครื่องยืนยันว่าการดำเนินการในส่วนของรัฐบาลจะสามารถใช้กระบวนการ ยุติธรรมตามปกติ เพื่อดำเนินการขยายผลและจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องและไม่กระทบต่อแนวทางนโยบาย ของรัฐบาลที่จะมีการพิจารณาข้อมูลในแต่ละพื้นที่เพื่อนำไปสู่การทยอยประกาศ ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินในพื้นที่ต่างๆ

เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์