ปชป.ท้วงตั้ง“ศปก.จชต.”แนะรัฐเลิกนโยบายกำปั้นทุบดินดับไฟใต้

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ


เมื่อวันที่ 18 ก.ย.ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวภายหลังร่วมประชุมกับรัฐบาลเพื่อเสนอแนวทางในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า สิ่งที่ทางเราได้นำเสนอไป ก็มีจุดที่เห็นตรงและไม่ตรงกัน 

แต่สิ่งที่ทำความเข้าใจกับรัฐบาลคือ สิ่งที่เราต้องมาคลายปัญหาของนโยบายกำปั้นทุบดิน ซึ่งทำให้เกิดความโกรธแค้น ทำให้การแก้ปัญหาต้องมีความต่อเนื่องด้านการสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ  ยุทธศาสตร์ที่รัฐบาลประกาศต่อรัฐสภาไปเป็นเรื่องที่เราสนับสนุนอยู่แล้ว แต่หากทำให้เป็นจริงได้ ต้องมีหลายปัจจัยมาประกอบกัน  เช่น การบูรณาการด้านการทหารต้องมีเงื่อนไขอะไรบ้าง  การเลือกใช้บุคลากรที่ทำให้เกิดความไว้วางใจต้องเป็นลักษณะใด

ทั้งนี้  ได้มีการท้วงติงไปหลายเรื่อง ซึ่งที่ผ่านมาสิ่งที่รัฐบาลแสดงออกน่าจะเป็นการสร้างปัญหามากกว่า รวมไปถึงกระบวนการในความจริงจังที่ทำให้เกิดการพูดคุย ซึ่งตรงนี้เราก็บอกว่าหากมีการจะปรับปรุงกฎหมายเราก็ยินดีสนับสนุน แต่ขณะนี้ต้องดำเนินการตามโครงสร้างกฎหมายให้มากที่สุด  เราได้ท้วงติงในเรื่องการจัดตั้ง ศปก.จชต. ซึ่งเป็นมุมมองที่ต่างกัน รัฐบาลมองเป็นกลไกหนึ่งในการขับเคลื่อน แต่เราคิดว่าไปลดทอนกลไกที่ประชาชนมีส่วนร่วมตามกฎหมาย  ส่วนบางประเด็นก็ไม่ขอเปิดเผย

 “ผมเข้าใจดีว่าการที่ตั้ง ศปก.จชต. ขึ้นมาไม่ได้ไปกระทบต่อโครงสร้างของกฎหมาย แต่เป็นการลดทอนการทำงาน เพราะมีหลายช่องทางที่ทำให้เข้าถึงฝ่ายนโยบาย ซึ่งจะทำให้เกิดความยุ่งยากในการประสานงาน   นอกจากนี้  ยังมีประเด็นอื่น เช่น  การเมืองนำการทหารที่ให้ภาคการเมืองมีทิศทางที่ชัดเจน เช่น กรณีกฎหมายพิเศษที่ใช้บุคลากรในพื้นที่ซึ่งเรื่องที่เราได้เสนอไป ต้องถามกลับไปยังรัฐบาลว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อ” นายอภิสิทธิ์กล่าว และว่า ส่วนที่เสนอให้นายกรัฐมนตรีมารับผิดชอบด้วยตัวเอง ซึ่งนายกรัฐมนตรีก็เรียนว่า คนที่รับผิดชอบคือพล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรี แต่ตนก็ได้บอกไปว่าบางเรื่องที่มีการแสดงทรรศนะไปก็มีความแตกต่างกันเองในส่วนของรัฐบาล อาทิ การเสนอให้มีการเลือกผู้ว่าราชการจังหวัดในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ซึ่งในหน่วยงานด้วยกันก็ไม่เห็นตรงกัน ตนจึงได้เสนอว่าเรื่องประเภทนี้ อยากให้ฝ่ายนโยบายระมัดระวังการให้สัมภาษณ์ เพราะอาจเป็นการสร้างปัญหามากกว่าแก้ปัญหา


เมื่อถามว่ามีความคาดหวังมากน้อยแค่ไหนหลังจากที่มีการพูดคุยไปแล้ว นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า หลายเรื่องที่ได้หารือกัน โดยเฉพาะกับคนที่ทำงานมาอย่างต่อเนื่อง เขาก็เห็นภาพ แต่ปัญหาก็ยังมีความท้าทาย และต้องยอมรับด้วยว่าคนที่ก่อความไม่สงบเขาจะมีการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาอยู่ตลอดเวลา ฉะนั้นนโยบายที่จะเดิน เราอยากเห็นทิศทางที่ชัดเจนมากขึ้น ฝ่ายกองทัพก็ได้ยืนยันชัดเจนว่าอยากให้การเมืองนำการทหาร  ทั้งนี้  เราหวังว่าที่สะท้อนในหลายอย่างไปก็จะได้มีการปรับปรุง  และเรามีหน้าที่ในฐานะฝ่ายตรวจสอบที่จะติดตาม และจะมีการนำเสนออีก


นายอภิสิทธิ์กล่าวด้วยว่า  ในที่ประชุมนายกฯไม่ได้กล่าวถึงการเลือกตั้งผู้ว่าใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มีเพียงร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ที่ยืนยันว่าเรื่องนี้เป็นข้อเสนอของร.ต.อ.เฉลิม ไม่ใช่นโยบายของพรรคเพื่อไทยและรัฐบาล  ตรงนี้ตนอยากบอกว่าการทำให้การเมืองนำการทหาร  การเมืองต้องเป็นเอกภาพและทิศทางที่ชัดเจน ทั้งนี้ ทางพรรคประชาธิปัตย์ได้ท้วงติงรัฐบาลไปหลายเรื่องที่ควรทำแต่ไม่สามารถเปิดเผยส่วนข้อเสนอของพรรคประชาธิปัตย์ต่อรัฐบาลจะได้รับการตอบสนองหรือไม่นั้น  เรื่องนี้จะต้องขึ้นอยู่กับรัฐบาล พรรคไม่มีสิทธิ์ไปคาดคั้นว่าจะต้องเชื่อข้อมูลที่พรรคเสนอไปหรือต้องปฏิบัติตาม   สิ่งที่พรรคจะทำได้คือติดตามตรวจสอบว่ามีการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางไหนอย่างไรและก็พร้อมที่จะให้ความร่วมมือแก้ปัญหาโดยเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ ถามต่อว่าจะมีการเปิดญัตติอภิปรายในเรื่องนี้ต่อรัฐสภาหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า มีการพูดจากนายกรัฐมนตรีและรองนายกรัฐมนตรีว่า การพูดคุยในเรื่องนี้คงไม่ใช่ครั้งสุดท้ายและการแลกเปลี่ยนข้อมูลกันก็จะเป็นไปตามสถานการณ์ในช่วงนั้น  ยืนยันว่าการที่ตนมาในครั้งนี้มาด้วยความตั้งใจเพื่อมาร่วมระดมความคิดเห็นรวมถึงบางข้อมูลที่พูดตรงไปตรงมาแล้วอาจไม่เข้าหูรัฐบาลเราก็พูด  

 


เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์แนวหน้า


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์