ปชป.ซัดท่าทีนายกฯข่มขู่สุภา

นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงกรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ออกมาท้าให้ น.ส.สุภา ปิยะจิตติ รองปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าว นำข้อมูลหรือมีหลักฐานการทุจริตจำนำข้าวออกมาเปิดเผยว่า คณะอนุกรรมการฯได้รายงานปัญหาและการขาดทุนในโครงการจำนำข้าวให้รัฐบาลทราบตามลำดับขั้นตอน

แต่ฝ่ายการเมืองปฏิเสธตัวเลขขาดทุน 3 ฤดูกาล 2.2 แสนล้าน แต่นายกฯกลับสั่งให้นายวราเทพ รัตนากร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ไปเปลี่ยนแปลงตัวเลขจากเดิม

สิ่งเหล่านี้เป็นท่าทีของฝ่ายการเมืองบิดเบือนข้อเท็จจริงและความเสียหายที่เกิดขึ้น เพราะนโยบายจำนำข้าวเป็นนโยบายที่พรรคเพื่อไทยได้มีการหาเสียงไว้ แต่เมื่อนำมาใช้กับสร้างความเสียหายอย่างรุนแรง ฝ่ายการเมืองจึงพยายามปกปิด บิดเบือนและกลบเกลื่อนตัวเลขมาโดยตลอด

“การแสดงออกของนายกฯเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสม ควรที่จะเชิญน.ส.สุภา มาให้รายละเอียด แต่กลับไปให้น.ส.สุภาไปหาหลักฐานการทุจริตมามอบให้ ไม่ใช่วิธีข่มขู่ฝ่ายการเมือง

อีกทั้งนายยรรยง พวงราช รมช.พาณิชย์ ก็ออกมาพูดว่า มีหน้าที่อะไรก็ทำ ไม่มีหน้าที่ก็อย่ามายุ่ง แสดงให้เห็นว่ามีเจตนาข่มขู่ข้าราชการที่สุจริต เป็นสิ่งที่นายกทำสวนทางกับสิ่งที่พูดว่าจะต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่น เพราะนายกและรัฐมนตรีในรัฐบาลกลายเป็นผู้ข่มขู่ คุกคามข้าราชการประจำที่รักษาผลประโยชน์ของชาติ” นายชวนนท์ กล่าว

นายชวนนท์ กล่าวว่า ขอเรียกร้องให้นายกฯ เชิญ น.ส.สุภา ไปชี้แจงข้อเท็จจริงตัวเลขการขาดทุนและการทุจริต แต่หากไม่สบายใจก็ขอให้นายกฯ เปิดเวทีแสดงความเห็นร่วมกัน โดยเชิญตัวแทนจากรัฐบาลไม่ว่าจะเป็นนาย นิวัฒน์ธำรงค์ บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ นายวราเทพ นายรรยง และเชิญตัวแทนจากข้าราชการประจำที่เกี่ยวข้อง คือ นางสาวสุภา ผู้แทนจากภาคประชาชน นายกสมาคมโรงสี ผู้เกี่ยวข้องกับโครงการจำนำข้าวและผู้แทนจากฝ่ายค้าน

ซึ่งนายกฯต้องกล้าเปิดเวทีให้มีการแลกเปลี่ยนเพื่อให้ประเทศมีทางออกและชาวนาได้เงิน 15,000 บาทต่อตันตามที่รัฐบาลเคยหาเสียงไว้

นายชวนนท์ กล่าวว่า พรรคจำเป็นต้องทักท้วงในสิ่งที่รัฐบาลกำลังพาประเทศไปสู่ความเสียหาย เช่น โครงการบริหารน้ำ 3.5 แสนล้านที่ผ่านมาปีครึ่งกลับว่างเปล่าไม่ได้ทำอะไรในการป้องกันอุทกภัย เช่นเดียวกับพ.ร.บ.เงินกู้ 2.2 ล้านล้านบาท ที่คณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย (คปก.) ที่มีนายคณิต ณ นคร เป็นประธาน ชี้ว่า พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาทขัดรัฐธรรมนูญ ซึ่งเห็นว่าจะซ้ำรอยกับเงินกู้ 3.5 แสนล้านบาท

เพราะมีการระบุถึงรัฐธรรมนูญมาตรา57และ56วรรค 2 ตนแปลกใจ ตนแปลกใจว่ารัฐบาลที่อ้างว่าเป็นประชาธิปไตยกลับทำตัวเหมือนเผด็จการไม่รับฟังความเห็นประชาชน ตัดโอกาสและสิทธิของประชาชน

จึงขอให้นายกและครม.ปฏิบัติตามกฎหมายที่มีอยู่ เพื่อให้ประชาชนสบายใจและการทำงานของรัฐบาลมีประสิทธิภาพ เมื่อถามว่า ส่วนกรณีที่นายวราเทพ รัตนากร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและรมช.เกษตรฯ ระบุว่า ฝ่ายค้านสามารถยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยได้เมื่อกฎหมายผ่านสภาหากเห็นว่าขัดรัฐธรรมนูญ

นายชวนนท์ กล่าวว่า ถ้าสุดท้ายรัฐบาลไม่ฟังฝ่ายตรวจสอบก็ต้องดำเนินการยื่นศาลรัฐธรรมนูญแน่นอน แต่ต้องถามว่าทำตามกฎหมายยากเย็นมากหรืออย่างไรที่จะต้องปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญและกฎหมายปกติ เพราะรัฐบาลกำลังจะบอกว่าตัวเองเป็นรัฐบาลพิเศษไม่ต้องปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญและกฎหมาย ซึ่งสุดท้ายไม่มีใครได้ประโยชน์ นอกจากเกิดความเสียหายต่อประเทศ