ปชป.จี้ แม้ว ตัดสินใจเป็น ทรราช หรือ รัฐบุรุษ

ปชป.จี้ แม้ว ตัดสินใจเป็น ทรราช หรือ รัฐบุรุษ

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 5 มีนาคม 2549 14:56 น.

โฆษกประชาธิปัตย์ แนะ ทักษิณ รีบตัดสินใจลงจากตำแหน่ง ก่อนตายคาบัลลังก์อย่างทรราช ยกตัวอย่าง ป๋าเปรม มี นศ.ประท้วงไม่กี่ร้อยคน ยังยอมสละเก้าอี้นายกฯ

เมื่อเวลา 13.30 น.ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ได้ประเมินสถานการณ์การชุมนุมขับไล่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในวันนี้ (5 มี.ค.) ว่า สถานการณ์คงเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ซึ่งคงไม่มีอะไรรุนแรง ซึ่งทางออกของนายกฯนั้น ท่านต้องรีบตัดสินใจทำอย่างใดอย่างหนึ่ง ท่านต้องคำนึงถึงคำว่าเสียสละ มากกว่าที่จะเอาเปรียบโดยหาผลประโยชน์อยู่ตลอดเวลา อย่างเช่น กรณีของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ที่ขณะนั้นท่านดำรงตำแหน่งนายกฯ และมีกลุ่มนักศึกษาไม่กี่ร้อยคนออกมาชุมนุม พล.อ.เปรม ตัดสินใจเสียสละตำแหน่งนายกฯ ทั้งๆ ที่ขณะนั้นพรรคการเมืองพร้อมที่จะสนับสนุนให้ดำรงตำแหน่งนายกฯต่อไป แต่ท่านก็ตัดสินใจไม่รับตำแหน่ง จนทำให้ พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ ได้เป็นนายกฯ อย่างไม่ได้ตั้งใจ

การตัดสินใจเสียสละไม่รับตำแหน่งของท่าน จึงได้เป็นรัฐบุรุษในวันนี้ เมื่อเปรียบเทียบกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่มีคนมาชุมนุมเป็นแสนคน มากกว่านักศึกษาที่มาชุมนุมสมัย พล.อ.เปรม มากมาย มีเกือบทุกภาคประชาชน ท่านก็ยังไม่ออก ซึ่งผู้นำส่วนใหญ่ที่กอดอำนาจรัฐไว้โดยไม่ปล่อยวาง วันหนึ่งจะไม่สามารถเกาะอำนาจต่อไปได้ และผู้นำที่กอดอำนาจจนตายคาบัลลังก์ เขาได้ขนานนามว่า เป็นทรราช จึงอยากให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ตัดสินใจเองว่าจะเป็นทรราช หรือรัฐบุรุษ นายองอาจ กล่าว

นายองอาจ ยังตอบโต้พรรคไทยรักไทย ที่กล่าวหาว่า พรรคประชาธิปัตย์ ตีรวน ไม่ยอมส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง ว่า วิถีทางที่จะนำไปสู่ความรุนแรงส่วนหนึ่งเกิดจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ที่เดินหน้าท้าทายประชาชนด้วยการลงสมัครรับเลือกตั้ง และบิดเบือนข้อมูลจึงนำไปสู่การเผชิญหน้าและความรุนแรง แต่การตัดสินใจไม่ส่งผู้สมัครของพรรคเป็นวิถีทางสันติ ไม่ก่อให้เกิดความรุนแรง

นายองอาจ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ พรรคยังพบว่า การทำงานของ กกต.ทำให้เกิดการเลือกตั้งที่ไม่เป็นธรรมมากขึ้น แทนที่จะคอยตรวจสอบพรรคการเมืองที่ลงสมัครรับเลือกตั้ง แต่กลับมาตรวจสอบพรรคที่ไม่ส่งผู้สมัครว่าทำผิดหรือไม่ พรรคจึงมอบหมายให้ฝ่ายกฎหมายไปรวบรวมพฤติกรรมของ กกต.ที่ไม่ชอบธรรม เพื่อนำมาเสนอให้สังคมได้รับทราบ ส่วนจะยื่นถอดถอนหรือไม่นั้น ตนไม่ทราบ เพราะไม่มั่นใจว่า กกต.จะอยู่จนให้ถอดถอนได้หรือไม่

องอาจ ชี้ขนคนฟังปราศรัย ทักษิณ มุ่งหมายความแตกแยก

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 5 มีนาคม 2549 13:39 น.

องอาจ ระบุ ขนคนร่วมฟังปราศรัย 3 มี.ค.ทักษิณ มุ่งหมายความแตกแยกในสังคม สำทับคำ สนธิ แจกเงินแห่แหนให้กำลังมีแน่นอน พร้อมปัดอธิการ มธ.ไม่มีเอี่ยว ปชป.แค่ต้องการเสนอทางออกของปัญหา

วันนี้ (5 มี.ค.) นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่พรรคไทยรักไทย ประเมินการปราศรัย ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หัวหน้าพรรค เมื่อวันที่ 3 มี.ค.ว่า มีประชาชนที่รักนายกฯเป็นจำนวนมาก ว่า คิดว่าถ้านายกฯ จะให้คนมาฟังการปราศรัยมากกว่านี้ก็ทำได้ เพราะทราบดีว่านายกฯใช้กลไกอำนาจรัฐที่มีอยู่สร้างจำนวนคนให้มากเข้าไว้ เพื่อมาข่มจำนวนคนที่ต่อต้าน ซึ่งพฤติกรรมในลักษณะนี้ คือ พฤติกรรมที่สร้างความแตกแยกให้กับสังคม ทั้งๆ ที่ นายกฯควรมีพฤติกรรมในการสร้างความปรองดองให้เกิดขึ้นในประเทศมากกว่าจะไปแสวงหาเงื่อนไขต่าง ๆ ในการที่จะสร้างความแตกแยกให้กับประเทศ

ส่วนที่ นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ดำเนินรายการเมืองไทยรายสัปดาห์สัญจร ระบุมีข้อมูลว่า มีการจ้างคนฟังการปราศรัยของนายกฯนั้น นายองอาจ กล่าวว่า คิดว่าคนที่ไปฟังคำปราศรัยของนายกฯส่วนหนึ่งคงเป็นคนที่ชื่นชมนายกฯพอสมควร แต่สิ่งที่นายสนธิ พูดว่า มีการขนคนเข้ามาฟัง ก็ไม่ใช่คำพูดที่เกินเลยจากความเป็นจริง เพราะปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นเห็นได้ชัดเจนว่ามีรถจัดกันมาฟังการปราศรัยอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย มีอาหารเลี้ยงดูอย่างครบถ้วนสมบูรณ์ ซึ่งตรงนี้เป็นเรื่องที่คาบเกี่ยวกับความผิดกฎหมายเลือกตั้ง และพรรคกำลังจับตาดูอยู่

สำหรับกรณีที่ นายชัยอนันต์ สมุทวณิช นำทีมคณาจารย์อาวุโสเตรียมถวายฎีกาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ขอพระราชทานนายกรัฐมนตรีรักษาการนั้น โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ขณะนี้มีทางออกหลายทางที่นักวิชาการและผู้ที่มีเจตนาดี และมีความปรารถนาดีต่อบ้านเมืองกำลังเสนอความเห็นเข้ามา ซึ่งหากรัฐบาลตั้งสติและมีใจที่เป็นธรรม และไม่อคติ จะเห็นว่าหลายข้อเสนอของนักวิชาการล้วนแล้วเป็นข้อเสนอที่เป็นทางออกที่ดีของสังคม รวมทั้งข้อเสนอของ นายสุรพล นิติไกรพจน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ดังนั้น พรรคไทยรักไทยไม่ควรมองข้อเสนอของอาจารย์ในแง่ลบ แต่ควรมองข้อเสนอมากกว่า เพราะหากพิจารณาดูให้ถ่องแท้จะเห็นว่าข้อเสนอของนายสุรพล น่าจะเป็นทางออกของปัญหาวิกฤตของบ้านเมืองได้

นายองอาจ ยังปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ว่า นายสุรพล เป็นที่ปรึกษานายอภิสิทธิ์ แต่นายสุรพลเป็นเหมือนอาจารย์ทั่ว ๆ ไป ที่ทั้งฝ่ายค้าน หรือฝ่ายรัฐบาลสามารถขอคำปรึกษาได้ และการออกมาพูดเช่นนี้เป็นการแสดงให้เห็นเจตนาที่แท้จริงของพรรคไทยรักไทยที่จะไม่ยอมหาทางออก ไม่ยอมรับฟังข้อเสนอของประเทศ และเป็นเจตนาที่พยายามรักษาอำนาจของตัวเองให้คงอยู่ตลอดไปมากกว่า

เมื่อถามว่า ตอนนี้มีข้อเสนอใหม่เพิ่มเติมจากนักวิชาการที่นอกจากให้นายกรัฐมนตรีลาออกแล้วยังต้องเว้นวรรคทางการเมือง หากนายกรัฐมนตรีลาออกปัญหาจะยุติหรือไม่ นายองอาจ กล่าวว่า ในส่วนของพรรคไม่เคยบอกว่า นายกรัฐมนตรีควรจะตัดสินใจเรื่องการลาออกหรือไม่ แต่สิ่งที่พรรคเน้นคือจะต้องไม่ทำให้ระบอบ ทักษิณ ขยายตัวและเติบโตได้ต่อไป

สมศักดิ์วอน แม้วอย่ายั่วยุ เปรียบเทียบตัวเลขม็อบ

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 5 มีนาคม 2549 15:04 น.

สมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รองหัวหน้าพรรคชาติไทย เรียกร้องรัฐบาลอย่ายั่วยุเปรียบเทียบตัวเลขม็อบ รวมถึงจำนวนไปรษณีย์บัตรเชลียร์นายกฯ ชี้ไม่เกิดผลดีหวั่นประชาชนบาดหมางกันเอง สร้างความแตกแยกให้สังคม

วันนี้(5 มี.ค.)นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รองหัวหน้าพรรคชาติไทย กล่าวว่า การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรที่สนามหลวง และอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยนั้น ตนอยากเห็นทุกฝ่ายยึดมั่นในกติกา ยึดมั่นในระบบ อย่าทำให้แผ่นดินของเราต้องเดือดร้อนเพราะฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง อย่างไรก็ตามในอดีตพบว่าผู้ชุมนุมจะชุมนุมอย่างสงบและการเคลื่อนขบวนไปตามระบอบ กติกา เพียงเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องดูแลอย่าให้การปะทะ ยั่วยุ เพราะไม่เกิดผลดี

ดังนั้นอยากฝากถึงรัฐบาลว่าอย่านำตัวเลขของผู้ชุมนุมมาเปรียบเทียบว่าฝ่ายใดมาจำนวนเท่าไหร่ โดยเฉพาะนายกฯชอบพูดเสมอว่าคนมาเชียร์ตนเองมีถึง 2 แสนคน แต่มาเชียร์นายสนธิ ลิ้มทองกุลมีไม่กี่หมื่นคน หรือแม้แต่การนำไปรษณีย์บัตรมานับว่ามีคนให้กำลังใจเท่าไหร่ ไม่เกิดผลดีต่อสังคมไทย ถือเป็นการแบ่งแยกประชาชน อย่าให้ประชาชนต้องแตกแยกว่าพวกนายกฯ ไม่ใช่พวกนายกฯ อย่าให้เกิดความบาดหมางในสังคมไทยเลย เพราะเป็นผลลบต่อประชาธิปไตยไทย

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า นายกฯต้องฟังเหตุผล ซึ่งขณะนี้การแสดงความคิดเห็นขยายตัวไปถึงกลุ่มต่าง ๆมากมาย แม้แต่ศิลปินแห่งชาติก็ออกมา ความเห็นของคนเหล่านี้แม้จะมีเพียงไม่กี่คนแต่ก็ถือเป็นพลังใหญ่ของคนไทยเช่นกัน พรรคชาติไทยขอวิงวอนทุกฝ่ายเคารพในความเป็นคนไทย ฟังกันด้วยเหตุด้วยผล

ผมไม่สบายใจในการที่นายกฯเอาตัวเลขมาพูด เพราะเป็นการผลักไสคนไทยให้เกิดการแบ่งแยกกลุ่ม ผมกลัวว่าวันพรุ่งนี้เมื่อนายกฯดูคนที่มาชุมนุมที่สนามหลวงและอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยแล้วก็จะเอามาพูดเปรียบเทียบว่าที่มานั้นมีคนจำนวนไม่กี่หมื่นคน แต่ที่มาฟังนายกฯนั้นมีกว่า 2 แสนคน อย่างนี้มันกลายเป็นการยั่วยุ รองหัวหน้าพรรคชาติไทย กล่าว

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์