ปชป.คาใจ ชัย อนุมัติ48ล้านให้ส.ส.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 25 มิถุนายนที่ผ่านมา สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร มีหนังสือไปยัง ส.ส. เพื่อแจ้งให้ทราบ

เรื่องที่นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร เห็นชอบให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร จัดสรรเงินงบประมาณให้แก่ ส.ส.คนละ 100,000 บาท รวมแล้วเป็นเงิน 48 ล้านบาท เพื่อดำเนินโครงการเสริมสร้างและเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจการเมืองการปกครองระบอบประชาธิปไตยในระบบรัฐสภาและการมีส่วนร่วมของประชาชน โดยวัตถุประสงค์ของโครงการดังกล่าว เพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจในบทบาทหน้าที่ และพัฒนาการของรัฐสภาไทย และเพื่อสร้างความเข้าใจในกระบวนการมีส่วนร่วมทางการเมืองทุกระดับของประชาชนและฝ่ายนิติบัญญัติ

ส่วนรายละเอียดของการดำเนินงาน ในหนังสือได้กำหนดให้ใช้รูปแบบการจัดสัมมนา ฝึกอบรม บรรยายทางวิชาการ หรือการเสวนา
 
โดยกลุ่มเป้าหมายคือประชาชนทั่วไป ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำชุมชน กลุ่มแม่บ้าน กลุ่มอาชีพ กลุ่มเยาวชน ครั้งละ 100 คน ทั้งนี้ ระยะเวลาการดำเนินงานกำหนดให้ใช้ระยะเวลา 1 วัน ภายในช่วงวันที่ 1 กรกฎาคม-30 กันยายน 2551 อย่างไรก็ตาม ผลที่คาดว่าจะได้รับจากโครงการนี้ 80 เปอร์เซ็นต์ของผู้เข้าร่วมโครงการ จะต้องมีความรู้ความเข้าใจเรื่องการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตยในระบบรัฐสภา อีกทั้งต้องเป็นสื่อกลางหรือเครือข่ายสร้างความเข้าใจให้แก่ประชาชนในท้องถิ่นด้วย


นอกจากนี้ ในหนังสือยังมีการระบุถึงหาก ส.ส.มีความประสงค์จะเข้าร่วมโครงการ สามารถขอรับเงิน 100,000 บาท ได้ที่สำนักการคลังและงบประมาณ ได้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมเป็นต้นไป
 
สำหรับกรอบค่าใช้จ่ายสำหรับการฝึกอบรมนั้น กำหนดให้เป็นค่าตอบแทนวิทยากรจำนวน 6,000 บาท ซึ่งกำหนดให้ไม่เกิน 5 คน หรือถ้าเกินก็ให้เฉลี่ยเงินดังกล่าวให้ครบจำนวนนั้นๆ ส่วนค่าอาหารและอาหารว่างในวงเงิน 40,000 บาท ค่าพาหนะ 40,000 บาท และค่าเช่าสถานที่เครื่องเสียงจำนวน 14,000 บาท

รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับโครงการดังกล่าว พรรคประชาธิปัตย์ได้มีการหารือ โดยนายอภิสิทธิ์ หัวหน้าพรรค ได้ตั้งข้อสังเกตว่า โครงการดังกล่าวน่าจะขัดต่อรัฐธรรมนูญ 2550 มาตรา 265(3)

ที่ระบุว่า ส.ส.และ ส.ว.ไม่รับเงินหรือประโยชน์ใดๆ จากหน่วยงานของราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ เป็นพิเศษนอกเหนือไปจากที่หน่วยงานของราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ ปฏิบัติต่อบุคคลอื่นๆ ในธุรกิจการงานตามปกติ เนื่องจากในรายละเอียดระบุให้ ส.ส.สามารถไปเซ็นชื่อที่สำนักการคลังและงบประมาณ เพื่อรับเงิน 100,000 บาทได้โดยตรง จึงเป็นการรับเงินจากหน่วยงานราชการ ซึ่งหาก ส.ส.ของพรรครับเงินดังกล่าวอาจจะเป็นการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่

นอกจากนี้ ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์ส่วนใหญ่ยังคาใจกับวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งโครงการดังกล่าว

พร้อมทั้งตั้งข้อสงสัยว่า การจัดโครงการนี้อาจเป็นการเร่งใช้เงินงบประมาณปี 2551 ในส่วนที่ถูกจัดสรรให้รัฐสภาให้หมดโดยเร็วก่อนเริ่มปีงบประมาณ 2552 ในเดือนตุลาคม


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์