บุญมากร่ำไห้ -ศาลฎีกาตัดสิทธิ์ 10ปี

 ซึ่งศาลวิเคราะห์พยานหลักฐานเชื่อว่านายบุญมากกระทำความผิดจริงตามคำฟ้อง จึงพิพากษาจำคุก 1 ปี แต่ให้รอลงอาญาไว้ 2 ปี ปรับ 2 หมื่นบาท และเพิกถอนสิทธิทางการเมือง 10 ปี

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อปี 2543 นายบุญมาก กระทำความผิดพ.ร.บ.กฎหมายเลือกตั้ง ด้วยการซื้อเสียง 1,000 บาท ซึ่งกกต.ได้พิจารณาให้ใบแดงและถูกเพิกถอนสิทธิ์ไปแล้ว และได้ต่อสู้คดีในชั้นศาล โดยศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโดยไม่เชื่อว่านายบุญมาก กระทำความผิดจริงตามที่โจทก์ยื่นฟ้อง ต่อมาศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องอีกครั้ง ขณะที่นายบุญมาก ยื่นคำร้องต่อศาล ฟ้องผู้กล่าวหาและเจ้าหน้าที่ กกต. ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ เรียกร้องค่าเสียหายเป็นวงเงิน 100 ล้านบาท คดียังอยู่ในชั้นศาล ขณะเดียวกันทางโจทก์ได้ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาเพื่อพิจารณาคดีดังกล่าวเช่นกัน

 ตนถูกถอนสิทธิ์ทางการเมืองจะพูดอะไรมากไม่ได้ ขอให้กำลังใจและสนับ สนุนพรรคทำงานต่อไป ตนจะต้องไปสอนหนังสือตามที่ถนัดต่อไป

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ว่า ได้คุยกับนายบุญมากแล้ว ต้องยอมรับคำพิพากษาของศาลฎีกา ถือว่ามีผลกระทบต่อพรรค เพราะนายบุญมากตั้งเป้าว่ามีโอกาสได้เป็นส.ส.ในเขตดังกล่าว เมื่อถามว่าจะถูกนำไปขยายผลว่าพรรคเลี้ยงคนซื้อเสียงเพื่อส่งลงเลือกตั้งหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า คงไม่ เพราะเป็นเรื่องเก่าเกิดขึ้นมากว่า 6 ปีแล้ว และเป็นคนละประเด็นเพราะพรรคแสดงความชัดเจนมาตั้งแต่ต้นว่า ผู้สมัครของพรรคต้องไม่ทำผิดกฎหมาย หากมีเบาะแสจะตั้งคณะกรรมการสอบ หากใครทำผิดก็ไม่เอาไว้ พื้นที่ดังกล่าวลดไป 1 ที่นั่ง แต่ผู้สมัครในพื้นที่คงไม่มีปัญหา ยังเดินรณรงค์หาเสียงตามปกติต่อไป