บิ๊กตู่ยันใครทำผิดกม. สงสารไม่ได้

"บิ๊กตู่"โยน สนช.โหวตถอดถอน "ปู" ลั่นคนทำผิด กม. สงสารไม่ได้ ย้ำต้องเคารพกติกา เพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวาย เผยลูกสาวให้ใส่ "กำไลหิน"หวังให้ใจเย็น

เมื่อวันที่ 19 ม.ค. ในช่วงบ่าย ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)
 
ให้สัมภาษณ์อีกครั้ง ถึงกรณีที่นักการเมืองออกมาวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เรื่องการถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า ใครวิจารณ์ได้ก็วิจารณ์ไป แต่เป็นเรื่องของ สนช. ซึ่งต้องเข้าใจว่า สนช.เข้ามาทำงานแทน ส.ส.และ ส.ว. ทำงานด้านกฎหมายร่วมกับรัฐบาล ไม่ใช่ตั้งมาเพื่อลงโทษใคร ส่วนที่อาจจะมีการฟ้องร้องการทำหน้าที่ของ สนช.นั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "ฟ้องได้ฟ้องมา ใครฟ้อง แล้วจะฟ้องใคร ไปหาที่ฟ้องมา ไม่ได้กลัว และยืนยันว่าจะไม่ให้มีความวุ่นวายเกิดขึ้น ความวุ่นวายจะเกิดด้วยเหตุผลอะไร จะไม่เคารพกติกาบ้านเมืองเลยหรือ ถ้าประชาชนอยากให้เป็นแบบนั้นก็ได้ แต่ผมไม่ให้ทำ ไม่อย่างนั้นคดีทุกคดี ศาลทุกศาลก็ไม่ต้องทำอะไรกันพอดี ถ้าทุกคนทำตามใจชอบ จะยกเว้นโทษหรือลงโทษก็ต้องดูตามหลักฐานข้อเท็จจริง ข้อพิจารณาและต้องรอดูการลงมติ"

เมื่อถามว่าเรื่องนี้จะทำให้เกิดความขัดแย้งตามมาหรือไม่

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่รู้ รอให้ตัดสินก่อน แต่อย่านำเรื่องนี้ไปโยงกับการปรองดอง การผิดกฎหมายจะปรองดองได้หรือไม่ หากผิดกฎหมายแล้วต้องปรองดองหมด เช่น ฆ่าคนตาย ขี้โกงทุจริต โกงหุ้น ซุกหุ้น มีหลายคดี จะต้องปรองดองหมดหรือเฉพาะกรณีไม่ได้ จะเอาความรุนแรงมาต่อต้านรัฐบาลไม่ได้ จะขนมวลชนออกมา หรือใช้อาวุธสงคราม เรียกร้องต่างชาติมาแก้ไขปัญหา คิดว่าผิดหรือถูก แต่ปรองดองคือการพูดคุยเลิกทะเลาะกัน ซึ่งรัฐบาลทำมานานแล้ว แต่เรื่องกฎหมายก็ส่วนกฎหมาย ผิดกฎหมายแล้วจะนิรโทษได้หรือไม่ คดีการเมืองต้องดูว่ามีผู้บาดเจ็บล้มตายหรือไม่ หากมีก็ต้องทำให้จบทุกคดีก่อน ถึงจะพูดเรื่องนิรโทษกรรม

เมื่อถามว่ากรณีพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เข้าข่ายการนิรโทษกรรมหรือไม่
 
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่รู้ ไม่ทราบ เมื่อถามต่อว่ารู้สึกสงสาร น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นการส่วนตัวหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "สงสารได้ไหม ผมไม่ได้พูดถึงใคร แต่ถามว่าถ้าทำความผิดแล้วสงสารได้ไหม สงสารก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องของกฎหมาย ฉะนั้นอย่าไปทำผิดกฎหมายแล้วกัน" เมื่อถามว่าเรื่องนี้ถ้าตัดสินออกมาจะเป็นบรรทัดฐานให้กับคดีอื่น ๆ หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คนละเรื่องกัน เรื่องนี้การตัดสินขึ้นอยู่กับ สนช. เพราะทำหน้าที่แทนสภา แต่หากเป็นคดีอาญาก็ต้องแยกไป เป็นคนละกระบวนการกัน

พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงควาบคืบหน้าการประสานติดตามตัวนายเอกภพ เหลือรา หรือตั้ง อาชีวะ ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีหมิ่นสถาบันเบื้องสูง ว่า

กระทรวงต่างประเทศได้ทำหนังสือชี้แจงไปยังประเทศนิวซีแลนด์ และทุกประเทศที่มีคนเหล่านี้อยู่ แต่เขายังเฉยๆ เพราะอ้างว่าเป็นเรื่องสิทธิมนุษยชน ส่วนกรณีที่คนไทยแห่ถอนเงินบริจาคยูเอ็นเอชซีอาร์ เพราะไม่พอใจที่ให้สถานะผู้ลี้ภัยนั้น เป็นคนละเรื่องกัน คนไทยต้องรู้จักแยกแยะ ซึ่งตนได้ประสานไปยังยูเอ็นเอชซีอาร์ในประเทศไทยแล้ว ได้รับการชี้แจงว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เพราะเป็นเรื่องของประเทศนิวซีแลนด์ แต่เมื่อมีการต่อต้านเกิดขึ้นทางนิวซีแลนด์ก็คงไม่ชอบ และอาจกำลังพิจารณาเรื่องนี้อยู่

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่พระสุเทพ ปภากโร หรือนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตแกนนำ กปปส. แสดงความเห็นว่าอยากให้นายกรัฐมนตรี ใช้อำนาจเด็ดขาด เพื่อทำให้ประเทศสงบเรียบร้อย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวเพียงว่า "นมัสการ"

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในระหว่างการให้สัมภาษณ์ ผู้สื่อข่าวได้สังเกตเห็นกำไลหินสีเทา ที่ข้อมือด้านขวาของ พล.อ.ประยุทธ์ จึงได้สอบถามว่าเป็นกำไลอะไร ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "เป็นกำไลที่ลูกสาวให้มา บอกใส่ไว้จะได้ใจเย็นเหมือนหิน นี่ตั้งแต่ใส่มาอารมณ์เสียแต่เช้า" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว เรียกเสียงหัวเราะแก่สื่อมวลชน.