“บิ๊กตู่” ลั่น! เบื่อใช้อำนาจ เพราะใช้ตอนเป็นทหารมาแล้ว 30 ปี

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายพิชัย รัตตกุล อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เสนอให้พรรคเพื่อไทยและประชาธิปัตย์ร่วมมือเพื่อให้ได้ประชาธิปไตยกลับมาว่า "จะทวงคืนจากทหารที่ไหน บอกแล้วว่ารัฐบาลผมไม่ใช่ทหาร ถึงผมจะมาจากทหาร แต่ผมไม่ใช่ทหารแล้ว ออกจากทหารมา 3 ปีแล้ว อย่ามองว่าอะไรก็ทหาร ต้องดูว่าเป็นการสร้างความเกลียดชังให้ทหารหรือเปล่า ที่มาทำตรงนี้ไม่ใช้เป็นรัฐบาลทหารทั้งหมด ผมมีคณะรัฐมนตรี (ครม.) นักวิชาการ ด็อกเตอร์ เยอะไปหมด ถ้าเรียกทหาร ทหารต้องสั่งทหารด้วยกัน ผมสั่งอย่างนั้นไม่ได้ เรื่องใครจะจับมือกันก็เป็นเรื่องสิทธิส่วนบุคคล ทุกพรรคการเมืองถ้ามีอุดมการณ์ที่ดี ประชาชนยอมรับ มีสมาชิกพรรคครบถ้วน ถูกต้อง สำรวจได้เรียบร้อยก็จบตรงนั้น คนก็รับได้ พรรคไหนก็แล้วแต่"

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า แต่การเป็นสมาชิกพรรคควรต้องทบทวนหรือไม่ ต้องแสดงตนหรือไม่ การเสียเงินบำรุงพรรคที่ผ่านมาเสียผ่านระบบภาษี ทุกคนอาจไม่รู้ว่าตนเป็นสมาชิกพรรคไหนด้วยซ้ำไป ก็ทำให้ชัดเจน ถ้าเชื่อมั่นว่าอุดมการณ์ของพรรคตนเองดีแล้ว แล้วจะไปกลัวว่าสมาชิกพรรคตัวเองจะไปไหน กกต.ก็ช่วยแก้ปัญหาได้ ที่สำคัญประชาชนกับสื่อต้องช่วยกัน วันก่อน วันนี้ วันหน้า ต้องการใครเข้ามา ก็เป็นเรื่องของประชาชนในการกาบัตรเลือกตั้งไม่ใช่หรือ ไม่ใช่ตนไปสั่งให้ทุกคนกาบัตรให้ใคร ทำไม่ได้หรอก ที่ผ่านมาก็เลือกตั้งกันอย่างนี้ ตนไปทำอะไรไม่ได้ เพราะเป็นการเลือกตั้งของประชาชน

"ไม่อยากให้ใช้คำว่าเป็นการต่อสู้ทางการเมือง เป็นเรื่องของทหาร ต้องการจะมีอำนาจต่อ ผมบอกเลยว่าผมเบื่อการใช้อำนาจ เพราะผมเป็นทหารมา 30-40 ปี ใช้อำนาจทหารในทางปกครองบังคับบัญชาลูกน้องมาตลอด ผมไม่รู้สึกว่าอยากมีอำนาจ การมีอำนาจมีไว้เพื่อปกครองบังคับบัญชาทหารทั้งยามปกติ และยามศึกสงคราม เขาเรียกว่าอำนาจทางทหาร ต้องมีระเบียบวินัย แต่วันนี้ผมเป็นนายกฯ มีการมอบนโยบายต่างๆ ไม่ได้ใช้ความคิดแบบทหาร ความคิดแบบทหารมีอย่างเดียวที่ผมใช้คือ เพื่อขับเคลื่อนการปฏิบัติให้เกิดขึ้นให้ได้" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงความชัดเจนในการเลือกตั้ง พ.ย.2561 ว่า ทุกอย่างยังเป็นไปตามโรดแมป ตนก็จะพูดกับต่างประเทศแบบนี้เหมือนเดิม หลายประเทศก็เข้าใจว่าขึ้นอยู่กับกฎหมายลูกที่มีอยู่ 2 ฉบับ เสร็จเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น แต่อย่ามาบอกว่าตนไปดึงเรื่อง มันทำไม่ได้หรอก ที่ผ่านมาก็เห็นว่าคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ร่างออกมาโดยความคิดเห็นของ กรธ.ตนไม่ได้ยุ่ง หน้าที่ของใครก็ของใคร แต่ทุกคนก็ต้องรับผิดชอบร่วมกัน

"ถ้ากฎหมายลูกเสร็จก็เลือกตั้ง หรือไม่เสร็จก็ไม่ใช่เรื่องของผม แต่ถ้าเสร็จก็ไม่ใช่เรื่องของผมอีก และไม่ใช่ไปพูด สนช.ดึงเรื่อง ไม่ใช่ ต้องไปฟังว่า สนช.อภิปรายเรื่องอะไร ไม่ได้พูดเข้าข้างผมสักคน บางเรื่องก็ไม่เห็นด้วย ถ้าผมมีอำนาจทับซ้อนกับ สนช.จริงๆ เขาจะกล้าอภิปรายหรือ ผมก็ปล่อยเสรีเขาไม่ใช่หรือ จะไปสร้างเรื่องทำไม วันนี้งานก็เยอะอยู่แล้ว ปัญหาก็มากมาย" นายกฯ กล่าว

Cr.prachachat