บทความ-คุณภาพยังเหมือนเดิม


สถานการณ์การเมืองไทยกลับเข้าสู่ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่ออีกครั้ง หลังจากกองทัพแถลงจุดยืนให้ สมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี และรัฐบาลแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออก หลังจากตำรวจสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตร จนมีผู้บาดเจ็บกว่า 400 คน เสียชีวิตอย่างน้อย 2 คน


ตลอดวันที่ 17 ตุลาคม สายตาทุกคู่เฝ้ามองว่า สมชาย จะทำอย่างไร จะตัดสินใจอย่างไร


พอๆ กับการติดตามความเคลื่อนไหวของพรรคร่วมรัฐบาลอีก 5 พรรค ทั้ง ชาติไทย เพื่อแผ่นดิน มัชฌิมาธิปไตย รวมใจไทยชาติพัฒนา และประชาราช


 พรรคร่วมรัฐบาลเหล่านี้ที่มีกระแสข่าวว่า สามารถพูดคุยกับคนในกองทัพ "รู้เรื่อง" เมื่อมาเจอกับสถานการณ์เช่นนี้ จะทำอย่างไร


จะแสดงท่าทีเพื่อให้เห็นว่า "รับผิดชอบ" กับความสูญเสียของประชาชนด้วยวิธีการแบบไหน

 หรือเลือกที่จะกอดคอ กอดเก้าอี้ ใช้ชีวิตอย่างผาสุกต่อไปเช่นเดิม


เลือดเนื้อที่กองอยู่หน้ารัฐสภา เพราะอานุภาพของระเบิดแก๊สน้ำตาซึ่งชาติพัฒนาแล้วเขาไม่ใช้กันนั้นเป็นเรื่องที่น่าจะออกไปในแนวที่เรียกว่า "รนหาที่"


ท่าทีของพรรคร่วมรัฐบาลในช่วงก่อนที่จะได้พบปะกับ สมชาย ในบ่ายสองของวันที่ 17 ตุลาคม แทบจะไม่ทำให้ประชาชนผิดหวัง


เริ่มมองเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ หลังจากที่ตัวแทนแต่ละพรรคแสดงท่าทีที่จะรับผิดชอบ

 ถึงแม้ว่าจะขอฟังเหตุฟังผลของ สมชาย ในที่ประชุมพรรคร่วมรัฐบาลเสียก่อน


น้ำเสียงหลายคนบ่งถึงความรู้สึกที่สูญเสีย เช่นเดียวกับญาติพี่น้องของผู้ที่ต้องเอาชีวิตมาสังเวยเหตุรุนแรงเมื่อเช้าวันที่ 7 ตุลาคม


ความเป็นไปได้ที่ พรรคร่วมรัฐบาลจะปลดล็อกการเมืองเพื่อบีบให้สมชายออกจากตำแหน่ง หรือยุบสภา ด้วยการถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาล ที่มีเพียงน้อยนิด กลายเป็นความคาดหวังที่ค่อยๆ เพิ่มระดับมากขึ้นๆ จนลืมเสียงเตือนจากผู้ที่เคยผ่านประสบการณ์กับนักการเมืองไทย ไปเสียสิ้น


"ชาติบ้านเมือง" เป็นเรื่องที่เอาไว้พูดจาเพื่อให้รื่นหู "พรรค-พวก-กู" คือสิ่งที่ต้องมาก่อน


5 พรรคร่วมรัฐบาลตัดสินใจกอดคอกับรัฐบาลสมชายต่อไป โดยอ้างว่า จะขอฟังคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่ สมชาย เป็นคนสั่งตั้งขึ้นมาตรวจสอบเหตุการณ์สลายการชุมนุม ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลานับจากนี้ประมาณ 15 วันเสียก่อน


 เป็นคณะกรรมการที่แม้แต่ตัวผู้เป็นกรรมการเองก็หนักอกหนักใจว่า จะทำความจริงให้กระจ่างอย่างที่คนคาดหวังได้อย่างไรนั่นแหละ


ขนาด คุณหญิงหมอพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ก็ยังโดนฝ่ายรัฐบาลเสนอให้สอบสวนเพราะดันพูดเกินจากที่ได้ตรวจสอบพิสูจน์หลักฐาน


แต่คุณหญิงหมอพรทิพย์ ไปพูดถึงคนสั่งการ ที่ชาวบ้านอยากรู้ อยากจะลากคอมาชำระสะสาง


 "ที่ประชุมได้แสดงความเห็นถึง ผบ.เหล่าทัพ ถือเป็นสิทธิที่จะแสดงความเห็นในฐานะที่ทหารก็เป็นคนไทยคนหนึ่ง รัฐบาลเองต้องรับฟัง แต่ก็คุยกันว่าถ้าให้รัฐบาลยุบสภาหรือลาออก แล้วทิ้งงานไปคงทำไม่ได้ เพราะยังมีภารกิจสำคัญที่ต้องทำต่อไป" สมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รองหัวหน้าพรรคชาติไทย บอกหลังการประชุม


ขณะที่ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี ก็ยังแทงกั๊กว่า พรรคชาติไทยจะถอนตัวหรือไม่ หากว่า ได้ข้อสรุปแล้วว่า สมชาย เป็นผู้สั่งการสลายการชุมนุม


ส่วน อนงค์วรรณ เทพสุทิน หัวหน้าพรรคมัชฌิมาธิปไตย นั้นมองไกลไปถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญเสร็จเรียบร้อยแล้วค่อยโบกมือลาจากกัน


 “ยอมรับว่ากระแสขณะนี้กระทบต่อเสถียรภาพของรัฐบาลมาก แต่เนื่องจากยังมีงานสำคัญที่รัฐบาลต้องดำเนินการต่อให้สำเร็จลุล่วงก่อน ขณะเดียวกันยังสนับสนุนเรื่องการตั้ง ส.ส.ร.ขึ้นมาเพื่อแก้รัฐธรรมนูญ และสร้างกติกาให้ชัดเจน จากนั้นถ้าจะเคาะระฆังแล้วค่อยมาลงสู่สนามกันเลย เพราะถ้ายังคงใช้รัฐธรรมนูญเดิมคนก็จะไม่ถูกใจ แต่ถ้าแก้ไขแล้ว สมมุติได้คนเดิมกลับมาอีกก็คงต้องยอมรับแล้ว"


ส่วนจะถอนตัวหรือไม่ อนงค์วรรณ บอกว่ารอเพื่อนก่อน !


"ถ้าอยู่ก็ต้องอยู่พร้อมกัน ถ้าถอนก็ต้องถอนพร้อมกัน เพราะถือว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 7 ตุลา เป็นเหตุการณ์ที่เจอมาพร้อมกัน ถ้าต้องรับผิดชอบก็ต้องรับผิดชอบร่วมกัน จึงจะถือว่าเป็นนักกีฬา"


ส่วน พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ รองหัวหน้าพรรคมัชฌิมาธิปไตย ก็พูดไปในท่วงทำนองเดียวกัน


"จากการที่ผมดูรายการเรื่องเด่นเย็นนี้ ยืนยันว่า พล.อ.อนุพงษ์ไม่ได้บอกว่าให้นายสมชายลาออก แต่บอกว่าให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงเหตุการณ์สลายการชุมนุมในวันที่ 7 ตุลา ให้ได้ข้อสรุปออกมาเช่นไรและชี้ชัดว่าใครเป็นคนผิด บุคคลนั้นจะต้องรับผิดชอบ"


 ไม่มีนักการเมืองคนใดรู้สึกว่า "รับไม่ได้" กับการอยู่ร่วมกับรัฐบาลที่ฝ่ากองเลือดเข้าไปแถลงนโยบายที่รัฐสภา ทั้งที่เรื่องนี้จะต้องแสดงออกในทันทีที่รับรู้ว่าเกิดความรุนแรง


 นี่แหละคือที่มาของเหตุผลที่นักการเมืองหยิบยกขึ้นมาว่า รออีก 15 วัน...รอรับผลสรุปจากคณะกรรมการตรวจสอบ เพื่อเป็นเหตุผลให้อยู่ต่อไป


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์