บก.รอยเตอร์ลุยธาริต-บุกจี้คดีนักข่าว

บ.ก.สำนักข่าวรอยเตอร์รุดพบ "ธาริต เพ็งดิษฐ์" อธิบดีดีเอสไอจี้คดีการตาย "ฮิโรยูกิ มูราโมโตะ" ช่างภาพชาวญี่ปุ่น สำนักข่าวรอยเตอร์

ซึ่งเสียชีวิตจากการสลายการชุมนุม 10 เม.ย. 53 ข้องใจการสอบ สวนที่ระบุว่านายฮิโรยูกิ อาจไม่ได้เสียชีวิตจากการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ ดีเอสไอโบ้ยรอยเตอร์ช่วยหาข้อเท็จจริงเพิ่มเติม บางทีพยานอาจอยากให้การกับรอยเตอร์มากกว่าดีเอสไอก็ได้ จะทำให้การทำคดีเร็วขึ้น ด้านบ.ก.รอยเตอร์รับข้อเสนอ ลั่นจะติดตามการทำคดีอย่างใกล้ชิด

เมื่อวันที่ 11 เม.ย. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นางจีน ยูน บ.ก.ข่าวภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สำนักข่าวรอยเตอร์

และนายเจสัน เซบ หัวหน้าข่าวรอยเตอร์ สำนักงานกรุงเทพฯ เดินทางเข้าพบนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ เพื่อสอบถามความคืบหน้าการสอบสวนคดีเสียชีวิตของนายฮิโรยูกิ มูราโมโตะ ช่างภาพชาวญี่ปุ่น สำนักข่าวรอยเตอร์ หลังพบว่าการสอบสวนก่อนหน้านี้ระบุว่านายฮิโรยูกิอาจไม่ได้เสียชีวิตจากการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐตามที่มีการเปิดเผยไว้

นายธาริต กล่าวว่า ดีเอสไอได้ชี้แจงข้อเท็จจริงทั้งหมดเกี่ยวกับการสอบสวนคดีการเสียชีวิตของนายฮิโรยูกิ

ส่วนกองบ.ก.สำนักข่าวรอย เตอร์ จะพอใจกับการชี้แจงหรือไม่ตนเองไม่ทราบ เพียงแต่แสดงความห่วงใย ต้องการให้ข้อเท็จจริงปรากฏ อย่างไรก็ตาม ไม่ได้มีการมอบเอกสารเพิ่มเติมแต่อย่างใด นอกจากนี้ ตนได้เสนอขอให้สำนักข่าวรอยเตอร์ ช่วงแสวงหาข้อเท็จจริงหลักฐานเพิ่มเติม ซึ่งอาจจะทำให้พยานที่รู้เห็นเห็นเหตุการณ์ กล้าเข้ามาให้ปากคำกับสำนักข่าวรอยเตอร์มากกว่าที่ดีเอสไอสอบสวนได้ จากนั้นรอยเตอร์สามารถนำข้อมูลเหล่านั้นมาถ่ายทอดเพื่อทำให้คดีเดินหน้าต่อไปได้ ทั้งนี้ ทางตัวแทนรอยเตอร์รับว่าจะนำข้อเสนอของดีเอสไอไปหารือก่อนแจ้งความเห็นกลับมา พร้อมรับว่าจะติดตามสอบถามความคืบหน้าของคดีกับดีเอสไอเป็นระยะ

ด้านนายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
 
กล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงครบรอบ 1 ปีเหตุการณ์กระชับพื้นที่ชุมนุมบริเวณผ่านฟ้าฯ-สี่แยกคอกวัว เมื่อวันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมา ว่า ยังเห็นแกนนำของพรรคเพื่อไทยอยู่บนเวที โดยเป็นผู้จัดการการชุมนุม ดังนั้น พฤติกรรมใดๆ ก็ตามที่มาจากคนเสื้อแดง พรรคเพื่อไทยก็ต้องรับผิดชอบด้วย การพยายามจะแยกพรรคเพื่อไทยออกจากกลุ่มคนเสื้อแดงก็เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ทั้งนี้ การปราศรัยบนเวทีได้หมิ่นเหม่ต่อการหมิ่นสถาบัน 2 กรณี ได้แก่ 1.การปราศรัยของนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทย และแกนนำคนเสื้อแดง ที่พูดถึงรายการวู้ดดี้เกิดมาคุย โดยพยายามใช้วิธีการเหน็บแนมต่อว่าทำไมไม่ให้ตัวเองออกมาพูดความจริงเกี่ยวกับการชุมนุมบ้าง อยากถามนายจตุพรว่าสิ่งที่พูดถึงรายการวู้ดดี้เกิดมาคุย เป็นการกระทบกระแทกสถาบันเบื้องสูงหรือไม่ และ 2.กรณีที่นายประแสง มงคลศิริ อดีตส.ส.อุทัยธานี พรรคพลังประชาชน ปราศรัยเกี่ยวกับการยกเลิกประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 เกี่ยวกับการหมิ่นพระบรมราชานุภาพ เมื่อพูดถึงกฎหมายดังกล่าวนายประแสงพยายามแหงนหน้าขึ้นมองฟ้าด้วยท่าทางเยาะเย้ยถากถาง ซึ่งเป็นการแสดง ออกทางพฤติกรรมที่จาบจ้วงสถาบันเบื้องสูงหรือไม่

ายเทพไท กล่าวว่า การวิดีโอลิงก์ ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เรียกร้องหาความเป็นธรรมและประชาธิปไตย

แต่การเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงมีเป้าประสงค์เพื่อพ.ต.ท.ทักษิณเพียงคนเดียวคือ การเอาเรื่องประชาธิปไตยบังหน้า อีกทั้งสิ่งที่พ.ต.ท.ทักษิณกังวล เรื่องการเลือกตั้งว่าจะไม่บริสุทธิ์ยุติธรรม และกลัวคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะไม่มีความเป็นกลางนั้น ไม่อยากจะให้พ.ต.ท. ทักษิณวิตกจริต ขอให้เชื่อมั่นว่ารัฐบาลชุดนี้จะไม่แทรกแซงหน่วยงานใดๆ ทั้งสิ้น และกกต. ชุด นี้มีความเป็นกลาง ต่างกับกกต.ในยุครัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณที่จัดการเลือกตั้ง ในลักษณะช่วยเหลือเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง จนถูกฟ้องร้องและศาลพิพากษาให้จำคุกมาแล้ว

นายเทพไท กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ แกนนำนปช.ที่ได้รับการประกันตัว ยังแสดงออกบนเวทีในลักษณะท้าทายเงื่อนไขการประกันตัวของศาลในหลายประเด็น จึงอยากจะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกลับไปดูเทปการชุมนุมและดูว่าถ้อยคำที่ปราศรัยนั้น ผิดเงื่อนไขการประกันตัวหรือไม่ หากเข้าข่ายก็จะต้องยื่นถอนประกันตัวหรือเพิ่มเงื่อนไขการประกันตัวให้เข้มข้นมากกว่านี้

นายเทพไท ยังกล่าวถึงกรณีนายพสิษฐ์ ศักดาณรงค์ อดีตเลขานุการประธานศาลรัฐ ธรรมนูญ ขึ้นเวทีปราศรัยการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง ว่า
 
ถ้าดูการปราศรัยบนเวที จะเห็นว่านายพสิษฐ์ กำลังตกเป็นเหยื่ออันโอชะของแกนนำคนเสื้อแดง และการพูดบนเวที จะเห็นว่านายพสิษฐ์ไม่กล้าเผชิญความจริง ไม่กล้าแม้แต่จะเอ่ยชื่อบุคคลที่เป็นตัวละครของเรื่อง พยายามหลีกเลี่ยงอุปมาอุปไมยเป็นเรื่องของการแข่งขันฟุตบอล หากนายพสิษฐ์มีข้อมูลจริงก็ควรจะเล่าอย่างตรงไปตรงมา ไม่ต้องให้นายจตุพร พรหมพันธุ์ ขึ้นมาแปลความอีกทีหนึ่ง ไม่เห็นจำเป็นต้องกลัวถูกฟ้องร้อง เพราะมีคดีเกี่ยวกับคลิปศาลรัฐธรรมนูญอยู่ในการพิจารณาของกระบวนการยุติธรรมอยู่แล้ว จากนี้ไปอยากให้สังคมจับตาดูพฤติกรรมนายพสิษฐ์ ว่าต่อจากคลิปเสียงศาลรัฐธรรมนูญ มาถึงการขึ้นเวทีคนเสื้อแดงแล้ว จะมีอะไรเกี่ยวข้องกับพรรคเพื่อไทยหรือไม่

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์