น้องเขยแม้ว ทำแบ๊วไม่รู้ ทักษิณ เดินเรื่องขอลี้ภัยอังกฤษแล้ว ชูศักดิ์ โยน บัวแก้ว ถอนพาสปอร์ตแดง

สื่อนอกประโคมข่าว"แม้ว-พจมาน"ยื่นขอลี้ภัยอังกฤษแล้ว อ้าง"มหาดไทยเมืองผู้ดี

"ยืนยัน "สมชาย"บอกยังไม่รู้เรื่อง ยันสนับสนุนให้ดำเนินการตามกฎหมาย ปล่อยอัยการทำตามขั้นตอนขอให้ส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน "ชูศักดิ์"โยนกต.ถอนพาสปอร์ต"ทักษิณ"

นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ตอบคำถามผู้สื่อข่าวกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่เป็นน้องเขย แจ้งเรื่องขอลี้ภัยในประเทศอังกฤษให้รับทราบหรือยัง ว่า "เรื่องขอลี้ภัยที่ประเทศอังกฤษแจ้งผมไม่ได้อยู่แล้ว"
 
นายกฯกล่าวว่า เรื่องการดำเนินคดีพ.ต.ท.ทักษิณนั้น ทุกอย่างจะดำเนินไปตามกระบวนการยุติธรรม ไม่มีอะไรไปขัดขวาง หรือเอื้อประโยชน์ให้ทั้งสิ้น ถึงแม้จะเป็นคนรู้จักกัน ก็ต้องเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม นี่คือสิ่งที่ชัดเจน เรื่องการขอตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนก็ทำอยู่แล้วตามปกติ รัฐบาลไม่ไปขัดขวางอะไรทั้งนั้น แต่สนับสนุนให้ทำตามกฎหมายทุกอย่าง ยืนยันไม่ได้มี 2 มาตรฐาน เมื่อเปรียบเทียบกับกรณีการจับกุมพล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
 
ส่วนเรื่องการเพิกถอนหนังสือเดินทางหรือพาสปอร์ตทูต (เล่มแดง) ของอดีตนายกฯนั้น นายสมชายกล่าวว่า นายชูศักดิ์ ศิรินิล ว่าที่เลขาธิการนายกรัฐมนตรี จะไปตรวจสอบว่าตอนนี้เรื่องอยู่ตรงไหน จากนั้นจะมารายงานทราบ
 
ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้พูดคุยกับพ.ต.ท.ทักษิณบ้างหรือไม่
นายกฯตอบว่า "ไม่ได้คุยเลย"
 
นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ กระทรวงการต่างประเทศ เสนอเข้ามาให้ช่วงที่นายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรี แต่หลังจากเกิดกรณียึดทำเนียบ เรื่องก็ยังค้างอยู่ ดังนั้น จึงต้องรอดูความชัดเจนจากกระทรวงต่างประเทศว่าจะเอาอย่างไร ซึ่งหลังจากที่นายสมชายมอบหมายให้ดำเนินการ ก็พร้อมที่จะทำตามนั้น แต่ก็ขึ้นอยู่กับกระทรวงการต่างประเทศว่าจะเอาอย่างไร ก็ให้บอกมา ขณะนี้กำลังรอฟังความเห็นอยู่
 
ด้านนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา โฆษกส่วนตัวของ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวเรื่องเดียวกัน ว่า ตนเพิ่งทราบข่าว และพยายามติดต่อ พ.ต.ท.ทักษิณอยู่ เพราะไม่มีข้อมูลนี้เลย ทั้งนี้ ตั้งแต่ พ.ต.ท.ทักษิณและครอบครัวเดินทางไปอังกฤษ ตนก็ไม่ได้รับแจ้งให้แถลงข่าวใดๆ หากติดต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ก็จะสอบถามว่า ยื่นขอลี้ภัยจริงหรือไม่
 
เมื่อถามว่า  พ.ต.ท.ทักษิณ สามารถยื่นขอลี้ภัยในอังกฤษได้หรือไม่ นายพงศ์เทพกล่าวว่า  สามารถดำเนินการลี้ภัยได้ตามขั้นตอนกฎหมายของประเทศนั้นๆ และต้องดูดุลพินิจของประเทศนั้นๆ ด้วยว่าจะอนุมัติหรือไม่ ทั้งนี้ ตนคิดว่าหากไม่เข้าเงื่อนไข อดีตนายกฯ ก็คงไม่ขอยื่นเอกสารเพราะหากยื่นแล้วไม่ได้รับอนุมัติก็ป่วยการเปล่าๆ
 
เมื่อถามว่า หากอดีตนายกฯ  ขอลี้ภัยจริง กระบวนการยุติธรรมไทยจะขอให้อังกฤษส่งตัวอดีตนายกฯกลับไทยเพื่อมาดำเนินคดีได้หรือไม่ โฆษกส่วนตัวของพ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของประเทศนั้นๆ ว่า จะอนุมัติและส่งตัวกลับไปยังประเทศที่ร้องขอหรือไม่
 
นายเจือ ราชสีห์ ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ออกมาระบุว่าการที่ตำรวจจับกุม พล.ต.จำลอง ศรีเมือง และ นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ 2 แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย แม้จะทำหน้าที่ได้ถูกต้องแต่ควรดำเนินการภายใต้อำนาจหน้าที่และมาตรฐานเดียวกันทั้งหมด โดยตำรวจจะต้องจับกุมคนร้ายทุกคนที่ศาลได้ออกหมายจับไปแล้วอย่างจริงจังและเท่าเทียมกัน โดยเฉพาะ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นผู้ร้ายข้ามแดนและมีหมายจับอยู่ด้วย จึงอยากถามว่าขณะนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ดำเนินการไปถึงไหนแล้ว เพราะหากไม่ดำเนินการจะโดนข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่และอาจถูกมองว่าทำตามใบสั่งหรือเลือก
 
นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ยังไม่ทราบเรื่อง พ.ต.ท.ทักษิณขอลี้ภัย ต้องขอตรวจสอบก่อนว่าเรื่องนี้เป็นอย่างไร ในเรื่องการขอลี้ภัยคิดว่าทางประเทศอังกฤษก็คงจะไม่ใจดีหนักหนาถึงขั้นส่งเรื่องมาให้กระทรวงการต่างประเทศของไทยรับทราบ เพราะถือเป็นเรื่องของเขา
 
ผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลมีนโยบายที่จะคัดค้านหรือไม่ นายสมพงษ์กล่าวว่า เป็นสิทธิของแต่ละคน ไม่ใช่บอกว่าพอเป็นนาย ก จะคัดค้าน แต่นาย ข โอเค นอกจากนี้ยังเป็นสิทธิของผู้ที่จะพิจารณา ซึ่งก็คือประเทศอังกฤษด้วย ผู้สื่อข่าวถามถึงแนวทางเกี่ยวกับการถอนพาสปอร์ตทูตของ พ.ต.ท.ทักษิณ นายสมพงษ์กล่าวว่า ขณะนี้เรื่องอยู่ที่สำนักนายกรัฐมนตรี ยังคาราคาซังกันอยู่ แต่ถ้าส่งเรื่องมาให้ ก็พร้อมที่จะดูเอง เพราะถือเป็นหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ แต่คงต้องขอ
เวลาตรวจสอบบ้าง เพราะเพิ่งมารับผิดชอบกระทรวงการต่างประเทศ
 
นายสมพงษ์ยังปฏิเสธกระแสข่าวไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ หลังเสร็จสิ้นการประชุมสหประชาชาติที่สหรัฐอเมริกาว่า ตอนที่เดินทางไปอังกฤษนั้น ไม่ได้พบกับ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่ไปแวะเพื่อพบกับทีมไทยแลนด์ ที่กรุงลอนดอนเท่านั้น
 
พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยังติดต่อ พ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้เลย
 
"ผมว่าท่านคงไม่ได้อยู่ลอนดอนมั้ง จึงตอบไม่ได้ ปกตินานๆ ที 3-4 เดือน ท่านอาจจะโทร.ผ่านมาทีหนึ่ง มีอะไรเราก็คุยกัน แต่ก็ไม่ได้คุยกันมาก และไม่ได้คุยกันเรื่องอื่น"

นายไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ ส.ส.สัดส่วน รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การถอนพาสปอร์ตแดงหรือไม่ ไม่ใช่เรื่องสำคัญ แม้จะถือพาสปอร์ตแดงก็ยังถูกค้นกระเป๋าได้อยู่ดี ประเด็นที่น่าเป็นห่วงคือ กรณี พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ยื่นขอลี้ภัยทางการเมืองต่อกระทรวงมหาดไทย ประเทศอังกฤษ โดยเชื่อว่าประเด็นที่จะใช้อ้างคือการรัฐประหาร และมีการตั้งคณะทำงานขึ้นมาตรวจสอบด้วยความไม่เป็นธรรม รวมถึงกระบวนการยุติธรรมของไทย รวมถึงโทษประหารชีวิตมาเป็นข้ออ้างในการลี้ภัย
 
นายไกรศักดิ์กล่าวว่า การอ้างถึงกระบวนการยุติธรรมของประเทศไทยอาจจะไม่เป็นประโยชน์กับ พ.ต.ท.ทักษิณมากนัก เนื่องจากได้เคยเข้ามาปรากฏตัวและต่อสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรมไทย โดยมีการตั้งทีมทนายขึ้นมาต่อสู้ทุกคดีที่เกี่ยวข้องกับ พ.ต.ท.ทักษิณ และครอบครัว จึงสะท้อนให้เห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณได้ยอมรับในกระบวนการยุติธรรมของประเทศระดับหนึ่ง แต่ทั้งหมดขึ้นกับการใช้วิจารณญาณของกระบวนการยุติธรรมในอังกฤษ
 
"มีทางเดียวที่สามารถทำได้คือ ศาลมอบให้อัยการสูงสุด (อสส.) ดำเนินการส่งหนังสือออกหมายจับ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้ออกหมายจับถึง 4 ครั้งไปยังอังกฤษโดยเร็ว เพื่อใช้เป็นเงื่อนไขในการต่อสู้ และนำตัว พ.ต.ท.ทักษิณ มาดำเนินคดี โดยใช้ความร่วมมือการส่งผู้ร้ายข้ามแดนระหว่างไทยและอังกฤษ ซึ่งไทยได้มีการส่งผู้ร้ายข้ามแดนไปยังอังกฤษทุกปี ปีละ 5-10 คน ซึ่งเชื่อว่าประเทศไทยและอังกฤษมีความสัมพันธ์ทีดีต่อกัน และจะเห็นได้ว่าทุกคดีเจ้าหน้าที่ตำรวจของไทยส่งผู้ร้ายข้ามแดนไปอย่างง่ายดายมาก ดังนั้น ไทยควรใช้ช่องทางนี้ในการดำเนินคดีด้วย" นายไกรศักดิ์กล่าว
 
ก่อนหน้านี้ เว็บไซต์ซันเดย์มิร์เรอร์ของอังกฤษ รายงานเมื่อวันที่ 6 ตุลาคมว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนรี ยื่นเรื่องขอลี้ภัยในอังกฤษแล้ว โดยกระทรวงมหาดไทยอังกฤษออกมายืนยันรายงานนี้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ  วัย 59 ปีและคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยายื่นเรื่องขอลี้ภัยในประเทศอังกฤษ
 
ซันเดย์มิร์เรอร์รายงานว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางไปพำนักที่อังกฤษตั้งแต่เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เพื่อหลบหนีการพิจารณาคดีคอร์รัปชั่นในประเทศไทย และเพิ่งขายสโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมฟุตบอลในพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ให้กับกลุ่มธุรกิจอาบู ดาบี เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา เป็นเงิน 210 ล้านปอนด์