นำข้อมูล ´ศิโรตม์´ แจง คตส.

สำหรับความคืบหน้าในการจัดการหาผู้กระทำผิดในการทุจริตโครงการต่างๆของรัฐบาลทักษิณนั้น วันเดียวกัน นายวิโรจน์ เลาหะพันธ์ คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำ ที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการตรวจสอบการซื้อขายหุ้นบริษัทชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด ที่มีเหตุอันก่อให้เกิดความสงสัยว่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ กล่าวถึงการเชิญนายศิโรตม์ สวัสดิ์พาณิชย์ อธิบดีกรมสรรพากร มาชี้แจงกรณีที่กรมสรรพากรมีหนังสือเรียกนายพานทองแท้ และ น.ส.พิณทองทา ชินวัตร บุตรชายและบุตรสาวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี

ให้ไปเสียภาษี เบี้ยปรับ และเงินเพิ่มรวมประมาณ 1 หมื่นล้านบาท โดยกรมสรรพากรอ้างว่าพบหลักฐานใหม่ที่ต่างจากการทำหนังสือหารือก่อนหน้านี้ว่าบุคคลทั้ง 2 ไม่ต้องเสียภาษีในการซื้อขายหุ้นชินคอร์ปที่ผ่านมา ว่า ในการประชุม คตส. วันจันทร์ที่ 13 พ.ย.นี้ ตนจะรายงานเรื่องดังกล่าวให้ที่ประชุมรับทราบโดยสรุปว่าอธิบดีกรมสรรพากรได้ชี้แจงกับคณะอนุกรรมการตรวจสอบฯอย่างไร ส่วนคณะอนุกรรมการตรวจสอบฯจะมีการประชุมอีกครั้งในวันพุธที่ 15 พ.ย. โดยในระหว่าง นี้จะรอเอกสารที่อธิบดีกรมสรรพากรรับปากว่าจะไปรวบรวมมาให้ว่า อะไรที่ทำให้กรมสรรพากรเปลี่ยนใจเรียกเก็บ ภาษีจากนายพานทองแท้ และ น.ส.พิณทองทา โดยจะนำ หลักฐานการตรวจสอบของธนาคารแห่งประเทศไทย และคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากกรมสรรพากรเลือกใช้มาตรา 40 (8) วินิจฉัยเรื่องการจ่ายภาษีของนายพานทองแท้ และ น.ส.พิณทองทา จะมีผลกระทบต่อคดีอย่างไรหรือไม่ นายวิโรจน์ตอบว่า อย่าเพิ่งพูดไป เพราะตอนนี้ยังไม่รู้ว่ากรมสรรพากรจะใช้ (8) หรือไม่ ต้องรอดูเขาก่อน เมื่อถามว่า

คณะอนุกรรมการฯได้ตรวจสอบการขายหุ้นชินคอร์ป เมื่อวันที่ 1 ก.ย. 2543 ที่ พ.ต.ท.ทักษิณและคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ขายหุ้นให้นายพานทองแท้ กรณี พ.ต.ท. ทักษิณขายหุ้นให้นางยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาว 2 ล้านหุ้น โดยไม่เสียภาษีหรือไม่ นายวิโรจน์ตอบว่า คณะอนุกรรมการฯตรวจสอบทุกกรณีที่เกี่ยวข้องกับหุ้นชินคอร์ป

ขณะที่นายอำนวย ธันธรา ประธานอนุกรรมการตรวจสอบการจัดซื้อเครื่องตรวจวัตถุระเบิดซีทีเอ็กซ์ 9000 เปิดเผยว่า ผลการตรวจสอบมีความคืบหน้าพอสมควร โดยพยานที่สอบเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาให้ความร่วมมือดีมาก ให้ข้อมูลที่สามารถไต่ไปยังพยานอื่น ซึ่งเป็นทั้งคน บทม. และหน่วยงานอื่นอีก 4-5 ปาก โดยตนได้ให้เลขานุการอนุกรรมการฯ ประสานนัดหมายให้มาให้ข้อมูลในสัปดาห์ ต่อไปแล้ว ถ้าพยานพร้อมให้ปากคำ

ก็คิดว่าในส่วนที่ตนรับผิดชอบจะสามารถสรุปได้ภายใน 2 อาทิตย์ แต่ต้องรอในส่วนของ พ.ต.อ.ชัยทัศน์ รัตนพันธ์ ที่ติดตามดูส่วนต่างเงินซีทีเอ็กซ์มารวมกันเพื่อต่อเรื่องก่อน ถ้ามารวมกันแล้ว ผมคิดว่าน่าจะเห็นภาพชัดเจน คิดว่าไม่เกิน 3 อาทิตย์จากนี้ไปน่าจะมีข่าวดีๆ คณะอนุกรรมการฯจะประชุมทุกวันศุกร์อยู่แล้ว คาดว่าประชุมวันศุกร์ที่ 1 ธ.ค.น่าจะสรุปเรื่องทั้งหมดได้ และในการประชุม คตส. ชุดใหญ่ วันจันทร์ที่ 3 ธ.ค.น่าจะเสนอให้ คตส.มีคำสั่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวน แจ้งข้อกล่าวหาไปยังผู้เกี่ยวข้องได้ แต่ก็ต้องอยู่ที่พยานว่าจะให้ความร่วมมือมากแค่ไหน

นายนาม ยิ้มแย้ม ประธาน คตส. กล่าวว่า ภาพรวมของการตรวจสอบโครงการทุจริต 12 โครงการ พบว่ากรณีการซื้อที่ดินย่านรัชดาภิเษกของคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในการตรวจสอบหลักฐานและข้อมูลมีความคืบหน้ามากที่สุด

ด้านนายอุดม เฟื่องฟุ้ง กรรมการ คตส.กรณีที่นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และครอบครัว ระบุว่า กรม สรรพากรเรียกเก็บภาษีจากนายพานทองแท้ และ น.ส. พิณทองทา ชินวัตร บุตรสาวและบุตรชาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ต้องรอให้ศาลฎีกาแผนกภาษี เป็นผู้ชี้ขาดว่า ก็ว่ากันตามกฎหมาย เพราะขั้นตอนของระยะเวลาในการประเมินมีอยู่ 1 เดือน หากไม่พอใจก็สามารถอุทธรณ์ได้ แต่ต้องนำหลักทรัพย์มาค้ำประกัน หากไม่ สามารถดำเนินการได้ทัน อธิบดีกรมสรรพากรก็จะยึดทรัพย์นั้นไปตามกฎหมาย

แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ