นายกฯเยี่ยมเหยื่อบึ้ม-ตรวจนิคมฯมาบตาพุด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (6 พ.ค.) เวลา 10.00 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย

และม.ร.ว.พงษ์สวัสดิ์ สวัสดิวัฒน์ รมว.อุตสาหกรรม ได้เดินทางถึงศูนย์ราชการจังหวัดระยอง โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ส.ส.ในพื้นที่ ข้าราชการ ตัวแทนภาครัฐและเอกชน ให้การต้อนรับ จากนั้น นายกรัฐมนตรีและคณะเดินทางต่อไปที่โรงพยาบาลมาบตาพุด เพื่อเยี่ยมผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ระเบิดและเพลิงไหม้โรงงานกรุงเทพ ซินธิติกส์ (บีเอสที)ในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด โดยนายกรัฐมนตรีได้สอบถามอาการผู้ได้รับบาดเจ็บ ให้กำลังใจ รวมถึงมอบกระเช้าของขวัญและเงิน เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้ พร้อมยืนยันจะรักษาอย่างดีที่สุด
 

ทั้งนี้ ล่าสุดมีผู้เสียชีวิต 12 ราย บาดเจ็บ 128 คน ส่วนใหญ่บาดเจ็บด้วยอาการแสบร้อนตามผิวหนัง และวิงเวียนศีรษะ

ซึ่งยังพักรักษาตัว 24 คน อาการสาหัส 4 คน โดยพักรักษาตัวอยู่ที่ โรงพยาบาลมาบตาพุด 5 คน ส่วนผู้ที่บาดเจ็บสาหัส ถูกส่งไปรักษาพยาบาลต่อที่โรงพยาบาลศูนย์ระยองและโรงพยาบาลในพื้นที่ เช่น โรงพยาบาลกรุงเทพ-ระยอง โรงพยาบาลระยอง เป็นต้น ขณะเดียวกันมีผู้กลับบ้านแล้ว 101 คน จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางต่อไปยังสำนักงานการนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด เพื่อรับฟังรายงานและประชุมร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้บริหารนิคมอุตสาหกรรม สาธารณสุขจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อแก้ไขสถานการณ์ รับฟังปัญหาของนิคมอุตสาหกรรมฯ และเตรียมวางแผนป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต
 

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น บริษัทบีเอสทียืนยันจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายและค่าชดเชยทั้งในส่วนผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ
 
ทั้งพนักงานและชุมชนที่ได้รับผลกระทบ อย่างไรก็ตาม การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(กนอ.)ได้สั่งให้บริษัทดังกล่าวหยุดการผลิตยางสังเคราะห์ทันที เพื่อตรวจสอบหาสาเหตุของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวมทั้งประเมินความเสียหายที่อยู่ในบริเวณพื้นที่ใกล้เคียง นอกจากนี้ กนอ.ได้สั่งให้ติดตามคุณภาพสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ โดยจัดส่งรถตรวจวัดคุณภาพอากาศ ในชุมชน รวมถึงให้สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศด้วยระบบอัตโนมัติอย่างต่อเนื่อง พร้อมจัดส่งทีมลาดตระเวรโดยรอบชุมชนทุก 1 ชั่วโมง ซึ่งข้อมูลคุณภาพอากาศล่าสุด พบว่าบรรยากาศบริเวณนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ส่วนน้ำที่ใช้ในการดับเพลิงที่พบว่ามีสารปนเปื้อนนั้น กนอ.สั่งไม่ให้มีการระบายออกสู่สาธารณะ แต่ให้นำน้ำดังกล่าวกลับเข้าสู่ระบบบำบัดภายในโรงงาน ก่อนนำไปตรวจวัดคุณภาพน้ำต่อไป
 

น.ส.ยิ่งลักษณ์ แถลงภายหลังการประชุมว่า สภาพอากาศของนิคมอุตสาหกรมแห่งนี้และชุมชนกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว

สิ่งที่เกิดขึ้นทางนิคมฯได้ดูแลผู้เสียชีวิตและผู้ป่วย ทั้งชดเชยค่าเสียหาย ของนิคมฯและบริษัทบีเอสทีอย่างเต็มที่ ขณะเดียวกัน รัฐบาลขอแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งเห็นว่าเบื้องต้น ทุกหน่วยงานรับมือต่อสถานการณ์ได้ดีแต่ยอมรับต้องปรับเรื่องข้อมูลข่าวสารที่เชื่อมจากนิคมฯไปยังประชาชน อย่างไรก็ตามต้องวางแผนไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำ และเพื่อให้ประชาชนมั่นใจว่าจะกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ 
 

นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า รัฐบาลได้ตั้งคณะกรรมการในลักษณะไตรภาคีที่ประกอบด้วยกรมควบคุมมลพิษ

กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นิคมอุตสาหกรรมฯ และภาคประชาชน ขึ้นมาทำงานและไปร่วมกันดูแลสภาพอากาศในพื้นที่ดังกล่าว และถ้าเกิดเหตุการณ์ใดๆขึ้นจะต้องรายงานโดยตรงต่อรัฐบาลเพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องตรงกัน อีกทั้งให้กระทรวงสาธารณสุขตั้งหน่วยแพทย์ฉุกเฉินสำรวจรอบชุมชน เพื่อให้มั่นใจว่าประชาชนจะได้รับอากาศบริสุทธิ์ไม่ตกค้าง และจะนำเรื่องดังกล่าวไปประเมินร่วมกับผู้ว่าการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ทุก 3 เดือน โดยจะประเมินสารโทลูอีนและสารที่ติดไฟง่ายทั้งหมด นอกจากนี้จะบูรณาการแผนฉุกเฉินร่วมกับกระทรวงมหาดไทยและชุมชนในพื้นที่ซึ่งได้สั่งการให้นายยงยุทธ ร่วมทบทวนแผนรับมือ รวมถึงให้ศาลากลางจังหวัดประมวลข้อมูลที่ถูกต้องไปยังประชาชน เรื่องทั้งหมดนี้จะเป็นหลักสะท้อนการทำงานของกระทรวงมหาดไทยด้วย ทั้งนี้ในระดับพื้นที่จะต้องประสานข้อมูลกับทางจังหวัดแบบบูรณาการ โดยต้องมีการวัดคุณภาพอากาศและปรับปรุงเรื่องการเตือนภัยให้ประชาชนรับทราบ เพื่อป้องกันความสับสน และต้องจัดกิจกรรมรับมือสถานการณ์ ซึ่งกระทรวงมหาดไทย กระทรวงอุตสาหกรรม บริษัทต่างๆในพื้นที่และนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ต้องเคร่งครัดซ้อมแผนรับมือเตือนภัยอย่างต่อเนื่อง
 

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวขอบคุณทุกหน่วยงานที่ช่วยเหลือเหตุการณ์ครั้งนี้ พร้อมขอเป็นกำลังใจให้ชาวระยอง และจะนำเรื่องนี้รายงานต่อคณะรัฐมนตรี(ครม.) พร้อมจะรับข้อมูลไปบูรณการงานของรัฐบาลเต็มที่ จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้ไปดูระบบศูนย์เฝ้าระวังและควบคุมคุณภาพสิ่งแวดล้อมภายในสำนักงานการนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ซึ่งพบว่าอากาศปกติ