นายกฯอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผมจะทำงานให้คนไทยทุกคน


นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี แถลงเปิดใจภายหลังเสร็จสิ้นพิธีรับพระ บรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้ดำรง ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

เมื่อวันที่ 17 ธ.ค. เวลา 18.25 น. ที่ที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ มีเนื้อหาดังนี้

รู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งให้ผมเป็นนายกรัฐมนตรี

ผมสำนึกเสมอว่าเกิดมาเป็นข้าของแผ่นดิน ต้องสนองคุณแผ่นดิน และสำนึกมาตลอดว่าแผ่นดินไทยของเรานั้นร่มเย็นเป็นสุขตลอดมาด้วยพระบารมี

วันนี้ผมยืนตรงนี้ในฐานะนายกรัฐมนตรี ขอยืนยันว่ารัฐบาลที่ผมเป็นผู้นำ จะปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ และจะเทิดทูนสถาบันนี้มิให้ผู้ใดทำให้สถาบันนี้ไม่อยู่เหนือความขัดแย้งในทาง การเมืองด้วยประการทั้งปวง

ขอขอบคุณเพื่อนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และประชาชนทุกท่านทุกคนที่ให้การสนับสนุน และให้กำลังใจให้ผมมายืนอยู่ตรงนี้

ผมทราบดีว่าสถานการณ์บ้านเมืองในขณะนี้ไม่ปกติ เป็นสถานการณ์ที่วิกฤตและคนไทยมีความทุกข์

ผมเป็นนักการเมืองในวิถีทางประชาธิปไตย ผมเป็นอาสาสมัครและไม่มีสิทธิ์จะหนีปัญหาหรือปฏิเสธความรับผิดชอบ

เมื่อเสียงข้างมากซึ่งเป็นเสียงข้างมากเดิมในสภามีปัญหา ส.ส.ส่วนใหญ่ได้ตัดสินใจสนับ สนุนผมขึ้นมาตามวิถีทางของประชาธิปไตย และ ตามวิถีทางของกระบวนการรัฐสภา

หน้าที่เบื้องต้นของผมคือการยุติการเมืองที่ล้มเหลว การเมืองที่ล้มเหลวคือต้นเหตุของความขัดแย้ง การแบ่งฝักแบ่งฝ่าย แบ่งภาค แบ่งสีที่เกิดขึ้นอยู่ในประเทศของเราขณะนี้

ผมจะขจัดการเมืองที่ล้มเหลวออกไป และจะนำความสมัครสมานสามัคคีกลับคืนมาโดยอาศัยความยุติธรรมเป็นกระบวนการนำหน้า

รัฐบาลภายใต้การนำของผมจะยึดหลักนิติธรรม นิติรัฐ จะบังคับใช้กฎ หมายอย่างเสมอภาค และจะเคารพกระบวนการและเจตนารมณ์ของการปกครองในระบอบประชาธิปไตย

วันนี้ประเทศต้องมีความสามัคคี ขอยืนยันว่าผมจะทำงานให้กับคนไทยทุกคน ไม่ว่าจะเลือกผมหรือไม่เลือกผม ไม่ว่าจะสนับสนุนผมหรือต่อต้านผม

ท่านจะเป็นใครก็ตาม หากท่านไม่คิดร้ายกับบ้านเมือง ท่านไม่ใช่ศัตรูของผม และท่านเป็นคนหนึ่งที่ผมจะต้องรับใช้อย่างเต็มความสามารถ

งานใดที่เป็นประโยชน์แม้จะเป็นของรัฐบาลก่อน ขอยืนยันว่าผมจะไม่ทิ้ง จะสานต่อ จะปรับปรุงให้ดีขึ้น ไม่ว่าโครงการรักษาฟรี โครงการกอง ทุนที่ลงไปอยู่ในชุมชนต่างๆ

ทราบดีว่าปัญหาเร่งด่วนที่สุดในขณะนี้คือปัญหาเศรษฐกิจ การฟื้นฟูเศรษฐกิจจึงเป็นงานสำคัญอันดับแรกที่ต้องดำเนินการ

ผมตั้งใจจะดูแลให้เกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากราคาพืชผลตกต่ำ จะดูแลให้ประชาชนที่อยู่นอกภาคเกษตรยังคงมีงานทำ มีรายได้ มีโอกาส จะทำทุกวิถีทาง ลดภาระค่าครองชีพตามแนวทางวาระประชาชน และแผนปฏิบัติการเร่งด่วน 99 วันทำได้จริง

ทันทีที่รัฐบาลแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ผมจะนำเสนอแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ครอบคลุมทุกปัญหา

แต่ขณะเดียวกันแม้บ้านเมืองและเศรษฐกิจจะมีวิกฤตอย่างไร เราจำเป็นต้องแก้ไขปัญหาในระยะยาวด้วย ไม่ควรปล่อยให้ปัญหาที่หมักหมม สะสม มานานเป็นปัญหาเรื้อรัง ค้างคาและเป็นปัญหากับการพัฒนาประเทศในอนาคต

โดยเฉพาะงานด้านการศึกษา จะให้การเรียนฟรีมีคุณภาพเกิดขึ้น การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ แหล่งน้ำ ถนนหนทาง การคมนาคม การสื่อสาร อินเตอร์เน็ต รวมถึงการสนับสนุนพลังงานทดแทนเพื่อความยั่งยืนในการพัฒนาของประเทศ

ผมไม่เพียงต้องการให้เราผ่านวิกฤตไปในครั้งนี้ แต่ต้องการเห็นประเทศไทยเป็นต้นแบบของการพัฒนาตามวิถีทางประชาธิปไตยที่มีคุณภาพ มีความยั่งยืน

ในฐานะนายกรัฐมนตรี ผมจะดำรงตำแหน่งประธานอาเซียน ตั้งใจจะให้เพื่อนสมาชิกในอา เซียนมีความมั่นใจในการนำของเรา ในฐานะเจ้าภาพการประชุมสุดยอดที่จะเกิดขึ้นโดยเร็วที่สุด

ในฐานะนักการเมืองอาชีพ ถือว่าวันนี้ผมได้รับโอกาสสูงสุดจากประชาชนตามวิถีทางประชา ธิปไตย

ผมอยู่ในการเมือง 16 ปี เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เป็นผู้แทนของประชาชนมา 7 สมัย เคยเป็นรัฐมนตรี ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และปัจจุบันเป็นหัวหน้าพรรคการเมือง

ประสบการณ์ความรู้ทั้งหมดจะนำมาใช้บนพื้นฐานความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อรับใช้ผลประโยชน์ส่วนรวมเท่านั้น

และยืนยันกับประชาชนที่สนับสนุนผมมาตลอดว่า จะไม่ละทิ้งอุดมการณ์แนวทางการทำ งาน หรือปล่อยสิ่งเหล่านี้ให้สูญหายไปกับการใช้อำนาจไม่ถูกต้อง

หรือปล่อยปละละเลยให้เกิดความไม่ถูกต้องขึ้นในบ้านเมืองแห่งนี้

คุณค่าในแง่ของประสบการณ์ของนักการเมืองอาชีพที่สำคัญที่สุด คือความผูกพันกับประชาชน ผมเคยเป็นผู้แทนราษฎรของชาวกรุงเทพฯ 4 สมัย วันที่ผมก้าวเข้ามาสู่การเมืองและต้องขอคะแนนเสียงประชาชน

ผมได้สัมผัสชัดเจนกับพี่น้องจำนวนมากที่เป็นคนจนเมืองที่อยู่บนความยากลำบาก คุณภาพชีวิตอาจจะต่ำที่สุด ผมไม่ลืมความทุกข์ยากเหล่านั้นและรู้ว่าจะต้องแก้ไข โดยเฉพาะในยามที่เศรษฐกิจมีปัญหา

ผมไม่ลืมพี่น้องที่อยู่ในภาคกลาง ภาคตะวันออก ที่ผมใช้เวลาหลายครั้งไปเยี่ยม รวมทั้งจัดทำวาระประชาชน ไม่ว่าเรื่องเศรษฐกิจ สังคม หรืออื่นๆ

ผมไม่ลืมพี่น้องชาวใต้ซึ่งยืนเคียงข้างกับผมในทางการเมืองโดยตลอด และทราบว่าพี่น้องชาวใต้ใฝ่ฝันจะเห็นที่สุดคือความเป็นธรรม สำหรับพี่น้องในสามจังหวัด ผมไม่ลืมว่าความใฝ่ฝันสูงสุดของท่านคือความสันติสุขความสงบสุข ที่รอคอยให้เกิดขึ้นในพื้นที่

ผมไม่ลืมพี่น้องชาวเหนือที่มีโอกาสไปเยือนหลายครั้ง ทั้งในยามที่ท่านสุขและทุกข์ ผมยังจำได้ว่าการหาเสียงครั้งที่ผ่านมาในภาคเหนือ มีเด็กหนุ่มคนหนึ่งวิ่งตามรถแห่หาเสียง และตะโกนว่าอยากจะฝากบ้านเมืองไว้กับผม

สำหรับพี่น้องชาวอีสาน 16-17 ปี บนถนนการเมืองผมไปเยี่ยมเยือนท่านหลายครั้ง ได้รับรู้ปัญหาความทุกข์ความยากจน และไม่ว่าจะเป็นช่วงที่ร่วมปั้นข้าวเหนียวข้างเถียงนา ที่สนทนากันที่ไร่มันสำปะหลัง ผมไม่ลืม

และที่ผมอดจะเอ่ยถึงไม่ได้ก็คือ คุณยายเนียม ที่อำเภอม่วงสามสิบ จังหวัดอุบลราชธานี

ครั้งล่าสุดที่ผมไปรณรงค์หาเสียง ท่านได้มอบแหวนวงนี้ให้กับผม (เสียงสั่น น้ำตาคลอ ชูแหวนโชว์)

ยายหมั้นคุณอภิสิทธิ์ให้กับคนอีสานแล้ว

ผมไม่ทราบว่าคุณยายเนียมกำลังดูหรือฟังสิ่งที่ผมพูดอยู่หรือไม่ แต่อยากบอกกับคุณยายว่าวันนี้ คนที่รับแหวนจากท่านจะทำงานให้ท่าน

ทำงานให้กับญาติพี่น้องของท่าน ทำงานให้กับชาวอีสานของท่าน และคนไทยร่วมชาติอย่างเสมอภาค ด้วยความทุ่มเท ซื่อสัตย์สุจริต

ผมทราบดีว่าคนหนึ่งคนไม่สามารถทำทุกสิ่งทุกอย่างหรือแก้ไขปัญหาทุกอย่างได้ และรู้ว่าจากนี้ไปผมคงไม่สามารถทำให้คนทุกคนรักผม เห็นด้วยกับผมหรือแม้แต่สนับสนุนผม

ยืนยันว่าจะฟังเสียงทุกคนและทำงานให้ทุกคน จะใช้การทำงานของผมพิสูจน์ความตั้งใจในการทำงานให้กับคนไทยทุกคน และใช้เป็นเครื่องพิสูจน์ทุกสิ่งทุกอย่าง

แม้ผมไปใช้ชีวิตอยู่ในต่างแดนเป็นช่วงเวลาหนึ่ง แต่ไม่เคยรู้สึกว่ามีที่ไหนที่น่าอยู่เท่ากับประเทศไทย

ผมเชื่อมั่นในประเทศไทย เชื่อมั่นในคนไทยไม่ว่าเราจะเจอปัญหา อุป สรรคหนักหนาสาหัสอย่างไร ผมยังเชื่อในคนไทยและประเทศไทย

และเชื่อว่าถ้าผมได้รับความร่วมมือจากประชาชนคนไทยทั้งประเทศ พลังของพวกเราจะทำให้ประเทศผ่านพ้นวิกฤตไปในครั้งนี้ และเราจะร่วมสร้างอนาคตที่ดี ให้กับลูกหลานของคนไทยทุกคน

ผมมั่นใจว่าเราทำได้

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์