นายกฯยันไทย-เขมร ต้องใช้เจรจา

ที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 15 ส.ค. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงปัญหาระหว่างไทยกับกัมพูชา ว่า เราต้องมองเป็น 2 ส่วน

ในส่วนที่เป็นกรณีพิพาทก็เป็นประเด็นที่ต้องหารือและใช้วิธีการเจรจาทางการทูต โดยต้องคำนึงถึงผลประโยชน์ และไม่ให้เสียอธิปไตยของประเทศ ในส่วนการค้าขอให้ดำเนินการกันไป เมื่อถามว่าจะเข้ามาลบคำสบประมาทที่ระบุว่ารัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เคยยกให้กัมพูชาสามารถขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารได้อย่างไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทุกอย่างเราจะต้องทำอย่างเต็มที่เพื่อปกป้องประเทศ และไม่ให้เกิดความสูญเสีย เมื่อถามว่าจะสานต่อสิ่งที่รัฐบาลชุดที่แล้วทำมาหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า เป็นประเด็นที่ค่อนข้างละเอียดอ่อนต้องใช้เวลาหารือกับทางกระทรวงการต่างประเทศ เมื่อถามว่าในการเจรจากับกัมพูชาจะอาศัยความสัมพันธ์ส่วนตัวที่มีกับ พ.ต.ท.ทักษิณ เข้ามาช่วยเหลือหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จะใช้การเจรจาความสัมพันธ์ทางด้านการทูตมาเป็นจุดเริ่มต้นมากกว่า
   
พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมว.กลาโหม
 
กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชาว่า ในวันที่ 19 ส.ค.นี้ ตนและพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.จะเดินทางลงพื้นที่เพื่อตรวจเยี่ยมกองทัพภาคที่ 2 ใน จ.ศรีสะเกษ โดย พล.ท.ธวัชชัย สมุทรสาคร แม่ทัพภาคที่ 2 พร้อมจะชี้แจงในรายละเอียดเกี่ยวกับสถานการณ์ต่าง ๆ ที่ผ่านมา จากนั้นจะขอดูรายละเอียดจากเลขาคณะรัฐมนตรีเพื่อติดตามงานต่าง ๆ ที่รัฐบาลชุดเก่าได้ทำไว้ว่ามีเรื่องใดบ้างที่จะฝากให้กับรัฐบาลชุดใหม่ เพื่อนำมาหารือในการวางแผนปฏิบัติงานต่อไป ตนได้ทราบข่าวจากกัมพูชาว่า ขณะนี้ พล.อ.เตีย บันห์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหมได้ทำหนังสือเชิญประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา (จีบีซี) มาถึงตนเกี่ยวกับรายละเอียดการพบปะกันและการเชิญไปร่วมประชุมต่าง ๆ
   
“สำหรับการประชุมดังกล่าวจะเป็นการกำหนดแนวทางให้กับรัฐบาลในการตกลงใจว่า จะดำเนินการอย่างไร และหาแนวทางออกที่ดีที่สุด แต่ไม่ใช่ว่าเมื่อตนไปถึงจะสามารถตกลงปลงใจได้เลย ซึ่งเราต้องเอามติของศาลโลกมาพิจารณาด้วย ซึ่งตนอยากจะทราบเหมือนกันว่าทางรัฐบาลที่แล้วได้ฝากเรื่องไว้กับเลขา ครม.อย่างไรบ้าง ขอให้ดูเรื่องของรัฐบาลเดิมก่อนที่จะตัดสินใจทำอะไรไปในรัฐบาลนี้” พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าว
   
ที่รัฐสภา ในการประชุมวุฒิสภา นายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา กลุ่ม 40 ส.ว. ได้หารือว่า ภารกิจแรกที่รัฐบาลใหม่ต้องทำ
 
คือกรณีนายวีระ สมความคิด กับ น.ส.ราตรี พิพัฒนาไพบูรณ์ 2 คนไทยที่ถูกจับในกัมพูชา ล่าสุดมีคำยืนยันจาก สมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ยืนยันว่าจะไม่ปล่อยตัวจนกว่าจะได้รับโทษ 2 ใน 3 หรือถูกจำคุก 5 ปีก่อน ซึ่งขัดต่อหลักการให้ความยุติธรรม วันนี้ทั้งคู่ถูกจำคุกพอสมควรแล้ว นายกฯจึงควรมอบหมายให้ รมว.การต่างประเทศทำภารกิจนี้เป็นอันดับแรก หรือจะแลกกับ 3 สายลับของเขมร ที่ถูกจับตอนเข้ามาหาความลับในไทยก็น่าจะได้ ควรสั่งให้รมว.การต่างประเทศโชว์เป็นผลงานชิ้นแรก ไม่ใช่ไปมัวเจรจากับทูตญี่ปุ่น
   
ที่พรรคเพื่อไทย นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รมว.การต่างประเทศ กล่าวถึงความชัดเจนที่กระทรวงการต่างประเทศจะให้การช่วยเหลือนายวีระ และ น.ส.ราตรี ว่า

 
ตนจะเข้าไปทำงานในกระทรวงการต่างประเทศในวันที่ 17 ส.ค. นี้และปลัดกระทรวงจะนำเสนอรายละเอียดปัญหาต่าง ๆ ให้ตนทราบ ตนเองในฐานะที่ตนเป็นรัฐมนตรีพร้อมจะช่วยเหลือคนไทยทุกคนเต็มที่ โดยจะเรียงลำดับความสำคัญของปัญหาตามความเหมาะสม ซึ่งจะมีการเข้าพบสมเด็จฮุนเซน นอกจากนั้นตนจะพบกับนายฮอร์ นัม ฮง รัฐมนตรีต่างประเทศกัมพูชาเพื่อเจรจาเรื่องการทำงานและผลประโยชน์ระหว่างสองประเทศโดยเฉพาะทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่ที่เป็นปัญหา เพื่อไม่ให้เสียเปรียบ และจะต้องแบ่งปันกันอย่างเป็นธรรม.


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์