นายกฯปูเปิดใจซีเอ็นเอ็น : คนเลือกมาบริหารประเทศ ไม่ใช่เล่นการเมือง



นายกฯปูเปิดใจซีเอ็นเอ็น : คนเลือกมาบริหารประเทศ ไม่ใช่เล่น

 เมื่อวันที่ 5 พ.ย. เว็บไซต์สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นและสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็นเผยแพร่คลิปสัมภาษณ์น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีไทย โดยในเว็บไซต์นำเสนอในหัวข้อ Thailand PM: I′ve proven myself  (นายกฯไทย : ดิฉันพิสูจน์ตัวเองแล้ว) ส่วนทางโทรทัศน์เป็นหัวข้อ Political Dynasty (ตระกูลการเมือง) ในช่วงรายการ Leading Women (ผู้หญิงแถวหน้า)

คริสตี้ ลู สเตาท์  นักข่าวสาว กล่าวเกริ่นประวัติน.ส.ยิ่งลักษณ์ ว่าเข้าสู่การเมืองต่อจากบิดาและพี่ชาย ด้วยการลงรับสมัครเลือกตั้งและนำพรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้งถล่มทลายในปี 2554 ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศ ประเด็นก็คือ ตอนนี้น.ส.ยิ่งลักษณ์หลุดจากเงาของพี่ชายขึ้นมาเป็นผู้หญิงแถวหน้าด้วยตนเองแล้วหรือไม่

 เมื่อเริ่มรับตำแหน่งด้วยความเป็นหน้าใหม่ทางการเมืองนายกฯยิ่งลักษณ์ก็ถูกวิจารณ์ถึงการรับมือในเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ กระทั่งปัจจุบันเกินกว่า 2 ปีมานี้ที่ก้าวสู่เวทีโลก น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ตนเองจะถูกตัดสินโดยผลงาน

 "เรามีผู้ถือผลประโยชน์ร่วมมากมาย ดังนั้นเราต้องมั่นใจว่าทำให้ทุกคนพอใจ" นายกฯ กล่าว

 รัฐบาลของน.ส.ยิ่งลักษณ์ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ส่วนตัวน.ส.ยิ่งลักษณ์เองมารับตำแหน่งรมว.กลาโหม ซึ่งเป็นความท้าทายหนึ่งที่น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า เหมาะสมสำหรับตำแหน่งในฐานะที่เป็นผู้หญิง เพราะผู้หญิงจะใส่ใจในเรื่องผิดชอบชั่วดี เสียงสนับสนุนและการสร้างทีมเวิร์กมากกว่า

 แต่สิ่งที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ยังทำไม่ได้คือการเชื่อมรอยร้าวลึกในความแตกแยกทางการเมือง ยิ่งด้วยความเป็นน้องสาวของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯที่ลี้ภัยอยู่นอกประเทศแต่ยังมีบทบาทอยู่

 สเตาท์ถามว่าคุณจะตอบคำถามนี้อย่างไร นายกฯกล่าวว่าก็ต้องทำงานให้หนักขึ้นเพื่อพิสูจน์ตัวเอง ซึ่งตอนนี้ผ่านมา 2 ปีแล้ว คิดว่าคำวิจารณ์นี้ลดลง เพราะว่าถ้าดิฉันต้องทำอะไรขึ้นอยู่กับพี่ชาย ดิฉันคิดว่าตัวเองคงไปไม่รอดในสถานการณ์ที่ต้องรับมืออย่างน้ำท่วม หรือช่วงเวลาเผชิญปัญหาหนัก

 นักข่าวหญิงซีเอ็นเอ็นถามว่า แปลว่าคุณพิสูจน์ตัวเองแล้วใช่ไหม นายกฯ ตอบว่า ดิฉันคิดว่าพิสูจน์ตัวเองแล้ว เพียงแต่ว่าคนจะเชื่อหรือไม่

 รายงานระบุต่อว่า ภายใต้การถูกตรวจสอบอย่างละเอียด น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่เพียงถูกวิจารณ์เรื่องประวัติของตระกูล แต่โดนไปทุกสิ่งอย่าง ตั้งแต่การเดินทางเยือนต่างประเทศไปจนถึงเรื่องแฟชั่นชุดแต่งกาย

 ภารกิจที่นายกฯให้ความสำคัญอันดับต้นๆคือการเพิ่มโอกาสให้กับสตรีและเด็ก ยกย่องบทบาทสตรี รวมถึงการจัดโครงการสมาร์ทเลดี้ที่รัฐบาลต้องการส่งเสริมพลังของผู้หญิงรุ่นใหม่ และเป็นโครงการที่ถูกนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านเอ่ยคำว่า"อีโง่"ขึ้นมา แม้จะปฏิเสธว่าไม่ได้หมายถึงนายกฯ และไม่ได้เจตนาหมิ่นสตรี ขณะที่มีผู้ตำหนิว่าคำพูดนี้เป็นการกีดกันทางเพศ

 เมื่อถามถึงประเด็นนี้กับน.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้คำตอบว่า

"ดิฉันจะไม่ตีความคำพูดของเขาว่าหมายความว่าอย่างไร แต่มีสิ่งหนึ่งที่อยากบอกก็คือกรุณาให้โอกาสกับสุภาพสตรีทุกคน และกับประชาชนคนไทย ใครก็ตามที่พูดในด้านลบ นั่นเป็นโอกาสสำหรับเราที่จะพูดในวิถีทางบวก"

 สิ่งที่นายกฯพูดไม่เป็นเพียงยุทธศาสตร์ทางการเมือง แต่ยังถือเป็นสไตล์ที่โดดเด่นของตนเอง

 "คนไม่ได้คาดหวังให้คุณมาเล่นการเมืองแต่เลือกคุณมาบริหารประเทศอย่างจริงใจและมุ่งมั่นทำงานหนักเท่าที่จะทำได้ตามที่สัญญาไว้กับประชาชน"

นายกฯปูเปิดใจซีเอ็นเอ็น : คนเลือกมาบริหารประเทศ ไม่ใช่เล่นการเมือง


เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์