นายกฯบินไปจีนสัปดาห์หน้า ฉลองสัมพันธ์อาเซียนครบ15ปี

ผู้สื่อข่าวรายงานวันนี้ (29 ต.ค.) ว่า พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี และคณะมีกำหนดการเดินทางเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน-สาธารณรัฐประชาชนจีน สมัยพิเศษ เพื่อฉลองการครบรอบ 15 ปี ความสัมพันธ์อาเซียนและสาธารณรัฐประชาชนจีน ( Commemorative Summit Marking the 15th Anniversary of ASEAN-China Dialogue Relations) ที่ นครหนานหนิง ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 30 31 ต.ค. นี้

ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า คณะของนายกรัฐมนตรี ประกอบด้วย รัฐมนตรีและข้าราชการระดับสูง อาทิ นายนิตย์ พิบูลสงคราม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายเกริกไกร จีระแพทย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร กองบิน 6 (บน.6)

โดยเครื่องบินของกองทัพอากาศ เวลา 08.00 น. วันที่ 30 ต.ค. ไปยังนครหนานหนิง สาธารณรัฐประชาชนจีน และจะถึงนครหนานหนิงเวลา 11.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ช่วงบ่าย มีกำหนดการพบปะทวิภาคีกับ ประธานเขตปกครองตนเองชนชาติจ้วงกวางสี และนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ ที่ วิลล่าหมายเลข 9 โรงแรม ลี่หยวน ที่พักนายกรัฐมนตรี จากนั้น ร่วมพิธีเปิดการประชุมสุดยอดอาเซียน-สาธารณรัฐประชาชนจีน สมัยพิเศษ ที่โรงแรม ลี่หยวน และร่วมปลูกต้นไม้กับผู้นำประเทศต่างๆ ที่วิลล่า หมายเลข 17 ช่วงค่ำ นายกรัฐมนตรีจะร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำ ณ ที่โรงแรม ลี่หยวน

ผู้สื่อข่าวรายงานต่ออีกว่า กำหนดการนายกรัฐมนตรี วันอังคารที่ 31 ต.ค. ในช่วงเช้า ร่วมงาน พิธีเปิดงาน CAEXPO ครั้งที่ 3 ณ Nanning International Conference and Exhibition Center และพิธีเปิดงาน China-ASEAN Business and Investment Summit ณ Grand Hall of the Peoples Congress of Guangxi Zhuang Autonomous Region

จากนั้นในเวลา 12.30 น. นายกรัฐมนตรีมีกำหนดการเข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระราชาธิบดีแห่งบรูไน ที่วิลล่า หมายเลข 18 โรงแรม ลี่หยวน ช่วงบ่าย พบปะหารือทวิภาคีกับ นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีน และจะเดินทางกลับถึงประเทศไทยเวลา 18.05 น.

รายงานระบุว่า การประชุมสุดยอดอาเซียน-สาธารณรัฐประชาชนจีน สมัยพิเศษ นี้ จัดขึ้นเพื่อฉลองการครบรอบ 15 ปี ความสัมพันธ์อาเซียนและสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน เริ่มมีความสัมพันธ์กับอาเซียนตั้งแต่ปี 2534 ความสัมพันธ์อย่างเป็นทางการระหว่างอาเซียนกับสาธารณรัฐประชาชนจีนในฐานะคู่เจรจาเริ่มขึ้นในปี 2539 ก่อนยกระดับความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ในปี 2546

และมีการพัฒนาความสัมพันธ์อย่างรวดเร็วและครอบคลุม โดยประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นมิตรที่ดีของอาเซียนทั้งในด้านความมั่นคง และเศรษฐกิจ ที่มีกรอบความร่วมมือระหว่างกันในหลายเวที นอกจากนี้ ในการพบปะหารือทวิภาคีกับผู้นำ สิงคโปร์ และบรูไน นายกรัฐมนตรีจะได้ใช้โอกาสนี้ กระชับความสัมพันธ์ทั้งในระดับทวิภาคและพหุภาคี และสานต่อความร่วมมือต่างๆ รวมถึงการชี้แจงและทำความเข้าใจเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองของประเทศไทย

แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ