นายกฯจวกม็อบกลุ่มพันธมิตรฯกรรโชกรัฐบาลประชาชน

นายกฯจวกม็อบกลุ่มพันธมิตรฯกรรโชกรัฐบาลประชาชน

"ทักษิณ" ยืนยันไม่ใจเสาะลาออกจากตำแหน่ง พร้อมอัดม็อบเครือข่ายพันธมิตรฯกรรโชกรัฐบาลประชาชน

วันนี้ (6มีนาคม) พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางถึงวัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี เพื่อเป็นประธานในพิธิสรงน้ำพระเขี้ยวแก้ว ซึ่งเป็นประเพณีที่จะอัญเชิญออกจากพิพิธภัณฑ์ปีละครั้ง เพื่อให้ประชาชนได้สรงน้ำ จากนั้นนายกฯ ได้เข้าไปกราบนมัสการและปิดทองรอยพระพุทธบาท โดยนายกฯปิดทองจำนวน 2 แผ่น ทั้งนี้ ตอนแรกนายกฯจะปิดทอง 3 แผ่น แต่นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ น้องเขยนายกฯ ท้วงว่า ได้เบอร์ 2 ก็ให้ติดสองแผ่นพอ จากนั้นนายกฯ ได้กล่าวกับนายสมชาย ว่า ไม่ได้มาที่นี่เกือบ 40 ปีแล้ว

ต่อมาเวลา 16.00 น. น ายกฯ เดินทางมาที่ลานเอื้ออาทร บริเวณโรงเรียนสุธีวิทยา อ.พระพุทธบาท เพื่อตรวจเยี่ยมโครงการบ้านอยู่อาศัยสำหรับคนยากจน โดยมีประชาชนมารอต้อนรับและให้กำลังใจกว่าหมื่นคน โดยนายกฯ ได้เดินทักทายประชาชนทั่วบริเวณ โดยประชาชนได้มอบไปรษณียบัตรให้กำลังใจกับมือนายกฯจำนวนมาก นายกฯได้บ่นกับคนใกล้ชิดว่า โดนแมลงใบไม้ที่ติดมากับดอกไม้ซึ่งประชาชนมอบให้กัดบริเวณลำคอ

พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวปราศรัยว่า วันนี้ตนและคณะได้แวะนมัสการพระพุทธบาทมีความสุขมาก เพราะช่วงนี้ไม่ค่อยมีเวลา พอได้มาทำบุญสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองก็รู้สึกจิตใจสบาย และได้มาพบกับประชาชนที่เต็มใจมาต้อนรับ แสดงน้ำใจที่มีให้ตน สิ่งเหล่านี้เป็นกำลังใจให้ตนอดทนและทำงานต่อ เพราะการเป็นนายกฯเป็นงานอาสาที่ต้องได้รับการสนองตอบจากประชาชนว่าจะให้อาสา ไม่ใช่เป็นการใช้เล่ห์เลี่ยมชั้นเชิงเพื่อให้ได้มาเป็นนายกฯ เพราะจะอาศัยเล่ห์เลี่ยมชั้นเชิงโดยไม่มีฐานประชาชนรองรับการเป็นนายกฯแบบนั้นไม่สง่างาม ตนคิดว่าการเป็นนายกฯที่จะสง่างามได้ต้องเป็นนายกฯที่ประชาชนอยากให้เป็นและเต็มใจให้เป็น

พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า วันนี้ขอขอบคุณคนสระบุรีและลพบุรีที่มาให้กำลังใจ หลังจากนี้ตนจะไปตรวจนโยบายต่างๆ โดยเฉพาะการแก้ปัญหาความยากจน ซึ่งเป็นเรื่องยากและไม่มีใครกล้าคิด เพราะกลัวทำไม่ได้ ส่วนบ้านสำเร็จรูปตนตั้งใจจะทำอีก 5 แสนหลัง รวมถึงเรื่องที่ดินทำกินก็จะเริ่มตั้งแต่เดือน เม.ย.นี้เป็นต้นไป โครงการเหล่านี้กำลังดำเนินไปได้ด้วยดี แต่มีอุบัติเหตุทางการเมือง ซึ่งทั่วโลกตกใจว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร เพราะประหลาดมากที่รัฐบาลซึ่งมาจากประชาชนมีเสียง 75 % แต่ปรากฏว่าถูกคนกลุ่มหนึ่งเป็นกลุ่มผู้เสียผลประโยชน์ และบิดเบือนข้อเท็จจริงให้คนอีกกลุ่มหนึ่งซึ่งไม่ใช่ผู้เสียผลประโยชน์เข้าไปร่วมด้วย ในที่สุดก็เกิดปัญหาว่าคนในระบบสภาเข้าไปร่วม ไม่ใช้เวทีสภาให้เกิดประโยชน์ ก็เกิดปัญหากลุ่มหนึ่งที่ไปรวมตัวกันให้นายกฯออกไป แต่เวลาตนเดินทางไปที่ไหนประชาชนก็บอกให้สู้ๆ อย่าลาออก บางคนถึงกับร้องไห้แล้วบอกว่าลาออกไม่ได้ ไม่ยอมเด็ดขาด ซึ่งตนเคารพประชาชน ประชาธิปไตยอำนาจสูงสุดเป็นของประชาชน

พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวต่อไปว่า ดังนั้นวันที่ 2 เม.ย.นี้ก็เป็นประวัติศาสตร์ว่าประชาชนมีอำนาจจริง คนที่พยายามจะยึดว่าเขามีอำนาจแทนประชาชนนั้นไม่จริง ประชาชนต้องตัดสินใจว่าวันที่ 2 เม.ย. จะไปแสดงพลังทั่วประเทศ และตัดสินใจว่าประชาชนคือผู้มีอำนาจจริงที่จะตัดสินใจอนาคตประเทศด้วยตัวเอง ไม่ต้องให้มีใครไม่ว่าจะเป็นคนเสียผลประโยชน์หรือคนผูกขาดการล้มรัฐบาล มาหลายยุคหลายสมัยนั้น ไม่ต้องมาทำหน้าที่ตรงนี้เพราะประชาชนทำหน้าที่เองได้ วันที่ 2 เม.ย.ประชาชนต้องตัดสินว่า อยากให้ทิศทางประเทศเดินไปตามแบบเดิมที่รัฐบาลนี้ได้วางระบบไว้ หรือเป็นแบบใหม่ที่นั่งเถียงกันทั้งวันหาสาระไม่เจอ ก็แล้วแต่ หรือจะเอากฎหมู่เหนือกฎหมายก็เป็นสิทธิ์ที่ประชาชนจะเลือกเอง ถ้าคิดว่าตนทำงานให้ประชาชนต่อได้ ก็ใช้ตนต่อ ตนก็อาสาต่อไป ตนถือตลอดว่าการมาทำหน้าที่นายกฯ ของตนนั้น ไม่ใช่อาชีพที่ตนจะยึดเป็นเรือนตายทั้งชีวิต แต่เป็นงานอาสาที่ประชาชนให้ทำ เมื่อไหร่ที่ประชาชนบอกให้พอแล้ว ขอให้คนอื่นมาทำ ตนก็ถือว่าได้ทำหน้าที่เรียบร้อยแล้ว ในฐานะเป็นคนไทยคนหนึ่ง แต่ถ้าประชาชนให้ทำต่อ ตนก็หนีไปไม่ได้ เพราะหนีความรับผิดชอบไม่ได้ ถือว่าประชาชนให้ทำงาน

พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวด้วยว่า แต่วันนี้สิ่งหนึ่งที่ตนต้องยืนนิ่งอยู่บนกติกาประชาธิปไตย ก็เพราะไม่อยากให้กลุ่มคนที่เสียผลประโยชน์ไปรวมตัวกัน แล้วประกาศกล่าวหารัฐบาลต่างๆ นานา แล้วรัฐบาลก็ล้มไป วันหน้ากลุ่มเหล่านี้จะแบล็คเมล์รัฐบาลได้ตลอดไป พอใครเป็นรัฐบาลกลุ่มนี้ต้องเกี้ยเซี๊ยะ ถ้าไม่เกี้ยเซี๊ยะกับกลุ่มนี้มันเดินขบวนขับไล่ ไม่ว่าประชาชนกี่ร้อยเปอร์เซ็นต์จะเลือกเข้ามาก็ไม่มีความหมาย กลุ่มนี้คือกลุ่มท้าทายอำนาจประชาชนที่แท้จริง ดังนั้นวันนี้อำนาจประชาชนยิ่งใหญ่ที่สุด ประชาชนต้องแสดงพลัง ตนไม่ขอวิงวอนว่าขอให้เลือกใครเพราะตนมั่นใจว่าประชาชนมีข้อมูลอยู่เต็มที่ในการตัดสินใจ และนี่คือทิศทางอนาคตของประเทศว่า เราจะยอมให้กฎหมู่เหนือกฎหมาย หรือจะรักษาประชาธิปไตยไว้ด้วยชีวิต ถ้าเราไม่สนใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นขณะนี้ และมุ่งมั่นทำดีต่อไป วันที่ 2 เม.ย.ก็ไปใช้สิทธิการเป็นประชาชนอย่างเต็มที่ ตนเชื่อว่าประเทศชาติจะเดินต่อไป ประเทศเราไม่สามารถหยุดรอใครได้ เหมือนต้นข้าวกำลังจะออกรวงแล้วมาบอกว่าให้หยุดก่อน ให้รอสนามหลวงก่อน คงไม่ต้องรอ ดังนั้นตนอยากวิงวอนว่าพรรคประชาธิปัตย์ ชาติไทย และพรรคมหาชนมาลงแข่งเถอะ ไม่ต้องขอใบรับรองแพทย์ ประชาชนต้องการแสดงให้เห็นว่าเขาจะเลือกใคร ไม่แน่ประชาชนอาจจะเลือกนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นนายกฯก็ได้ สง่างามออก ถ้าประชาชนเลือก ไม่ต้องใช้เทคนิคทางสภาช่วย

พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า วันนี้ตนอยู่ได้ ตนสู้และอดทนทั้งที่หลายคนไล่ แต่ประชาชนก็ไปแอบทำไสยศาสตร์ให้ตนเต็มไปหมด จนมึนไปหมดแล้ว ไปเจอตรงนั้นก็ให้ไหว้ ตรงนี้ก็ให้ไหว้ นี่คือพลังใจที่ตนได้รับ นี่คือความดีงามของสังคมไทยที่เอื้ออาทรและห่วงใยผู้ที่ตัวเองรัก ดังนั้นในเมื่อตนเจออย่างนี้แต่อีกฝ่ายบอกว่าให้ออกไป แล้วจะให้ตนทำอย่างไร ตนเชื่อเหลือเกินว่าถ้าอยู่ๆ ตนใจเสาะออกไป ทุกคนก็จะผิดหวังมากและตนทำให้คนรักผิดหวัง ถือว่าเป็นคนใช้ไมได้ ดังนั้นตนต้องยืน ไม่ใช่ยืนเพราะด้าน แต่ยืนเพราะต้องรักษาประชาธิปไตยไว้ ยืนเพื่อไม่ให้ความเป็นรัฐบาลที่ประชาชนแต่งตั้งถูกกรรโชก ดังนั้นคนกลุ่มหนึ่งจะมากรรโชกความเป็นรัฐบาลที่ประชาชนตั้งให้ไม่ได้ นี่คือสิ่งที่ทำให้ตนต้องยืน แต่จะยืนนานหรือไม่ประชาชนจะเป็นผู้ตัดสิน ตนเป็นคนพูดตรงไปตรงมา ให้รู้ว่าตนอยู่เพราะประชาชนให้อยู่ ถ้าไม่ให้อยู่ก็ไป แต่ถ้าให้อยู่ก็ต้องอยู่ ตนทิ้งประชาชนไม่ได้ และวันที่ 2 เม.ย.นี้ ไม่ใช่การเลือกตั้งธรรมดา อย่าไปคิดว่ามีพรรคการเมืองแข่งขันน้อยไม่สมน้ำสมเนื้อแล้วจะไม่ออกไปใช้สิทธิ์ไม่ได้ เพราะครั้งนี้เป็นประวัติศาสตร์ว่าประชาชนคือผู้มีอำนาจอย่างแท้จริงในระบอบประชาธิปไตย ห้ามให้ใครมาผูกขาดอำนาจประชาชน วันที่ 2 เม.ย. ตนไม่วิงวอนให้ประชาชนเลือกเพราะมั่นใจว่าประชาชนมีวิจารณญาณ สำหรับตนตราบใดที่ประชาชนใช้ก็จะทำต่อ ถ้าไม่ใช้ ก็ไปเที่ยว เพราะเวลาตนทำงานตนมีความสุข เวลาเห็นคนไทยพ้นทุกข์ ดังนั้นถ้าตนทำให้คนไทยหายจนได้ก็จะเป็นความสุข เป็นกุศลที่ยิ่งใหญ่ ปีนี้เป็นปีมหามงคลถ้าจะมีความไม่ดีทั้งหมดในฐานะตนเป็นมนุษย์คนหนึ่ง ตนขอรับไว้เอง แต่ถ้าความดีที่พึงจะมีอยู่บ้าง ตนขอถวายเป็นพระราชกุศลแด่ในหลวง ตนอยากเห็นสันติกลับสู่สังคมไทยโดยเร็ว

"อยากวิงวอนทุกฝ่ายว่ากลับเข้าสู่กติกาเถอะ ถ้าไม่เคารพกติกาก็จะทำให้สังคมเสียหาย ไม่ใช่ไปเจอไฟแดงขับฝ่าไฟแดง แล้วบอกว่าไม่พอใจ ขอเปลี่ยนกฎหมายให้ฝ่าไฟแดงได้ แบบนี้ก็ไม่ไหว ถ้ากติกาไม่ดีก็ค่อยแก้ แต่ระหว่างนี้ต้องยึดกติกาก่อน ผมจึงขอวิงวอนผู้ที่คัดค้านทั้งหลาย รวมถึงคนที่เป็นนักการเมืองขอให้เคารพกติกา เราอยู่ร่วมกันโดยมีกติกาที่มีประชาชนเป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยอย่างแท้จริง ความจริงแล้วผมไม่ต้องไปสู้กับใครเลย เพราะว่าเป็นคนไทยด้วยกันทั้งนั้น เพียงแต่ผมขอยืนหยัดเคารพกติกาและคนอื่นก็ต้องเข้ามาอยู่ในกติกา ถ้าไม่อยู่ในกติกาผู้มีอำนาจบังคับใช้กติกาก็ต้องบังคับใช้กติกา ไม่เช่นนั้นคงอยู่ร่วมกันไม่ได้ นี่คือสิ่งที่จะต้องเป็นไป แต่ถ้าวันที่ 2 เม.ย.ประชาชนยังใช้ผมต่อ ผมจะทุ่มเทมากกว่าเดิม" พ.ต.ท.ทักษิณกล่าว

หลังจากนั้น ผู้ว่าฯ สระบุรีได้มอบรายชื่อประชาชนที่สนับสนุนนายกฯ ให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ อย่างไรก็ตาม ก่อนที่นายกฯจะปราศรัย ผู้ว่าฯได้กล่าวนำประชาชนให้ตะโกนว่า "เรารักนายกฯ" พร้อมกัน 3 ครั้ง โดยระบุว่าจะตะโกนให้เสียงดังถึงสนามหลวงเพื่อบอกให้รู้ว่าคนที่นี้รักนายกฯ และขณะนี้นายกฯ อยู่ระหว่างเดินทางกลับกรุงเทพมหานคร

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์