นายกฯขอของขวัญวันเกิดให้คนไทยมีความสุขและรักกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศวันคล้ายวันเกิดครบ 46 ปี ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ว่า ในช่วงเช้าที่บ้านพักในซอยโยธินพัฒนา 3 เป็นไปอย่างปกติ โดยในปีนี้นายกรัฐมนตรีไม่ได้นิมนต์พระสงฆ์มารับบิณฑบาตรเหมือนปีที่ผ่านมา เนื่องจากเมื่อวันที่ 20 มิ.ย. นายกรัฐมนตรีได้เดินทางไปทำบุญ และกราบสักการะหลวงพ่อพุทธโสธร กราบนมัสการหลวงพ่อโต และองค์พระพิฆเนศองค์ใหญ่ที่สุดในโลกที่วัดสมานรัตนาราม จ.ฉะเชิงเทราแล้ว

โดยนายกรัฐมนตรี เดินทางมาถึงทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 08.39น. ด้วยชุดซึ่งเป็นเสื้อสีน้ำเงินลายจุดขาว และกระโปรงสีน้ำเงิน โดยทันทีที่มาถึง นายกรัฐมนตรี ได้ไหว้พระพุทธรูปที่ห้องทำงาน ก่อนขึ้นไปสักการะท้าวมหาพรหมณ์บนยอดตึกไทยคู่ฟ้า และลงจากตึกไทยคู่ฟ้า มาไหว้ศาลพระภูมิเจ้าที่ ศาลตาศาลยาย ซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบ ซึ่งในระหว่างนั้นได้มีฝนโปรยปรายลงมาเล็กน้อย และเมื่อทำพิธีเสร็จ นายกรัฐมนตรี ได้หันมาอวยพรให้บรรดาผู้สื่อข่าว ช่างภาพ และข้าราชการอย่างอารมณ์ดี ว่า “ขอให้โชคดีทุกคนนะคะ”

จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้เดินดูซุ้มอาหารที่บรรดารัฐมนตรี และหน่วยราชการ นำมาตั้งไว้บริการเนื่องในวันเกิด ที่บริเวณด้านข้างห้องผู้สื่อข่าว

ซึ่งมีทั้ง ไก่ยางเขาสวนกลวาง จากวิทยาลัยอาชีวะศึกษาเอี่ยมละออ จัดมาโดยนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมช.ศึกษาธิการ ผลไม้ต่างๆ จากผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ชากาแฟ จากบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้กลับขึ้นไปตึกไทยคู่ฟ้า เพื่อเปิดโอกาสให้ข้าราชการ บุคลใกล้ชิดและรัฐมนตรี เข้าอวยพร ทั้งนี้ทีมรักษาความปลอดภัยได้เปิดตึกสันติไมตรี ไว้เพื่อให้บุคคลต่าง ๆที่นำกระเช้าหรือของขวัญมาอวยพรวันเกิด โดยทุกกระเช้าต้องผ่านเครื่องสแกรนวัตถุระเบิดก่อนทั้งหมด

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบรัฐบาลด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส ว่า พรที่อยากได้ในวันเกิดคืออยากเห็นความรักความเมตตาและความสงบสุข รวมทั้งขอให้เรามีสติปัญญาในการที่จะบริหารบ้านเมืองให้ราบรื่น และขอให้ประชาชนทุกคนมีความสุข ประเทศไทยของเรามีแต่ความสุข รอยยิ้ม และมีแต่ความเจริญรุ่งเรืองตลอดไป

ยืนยันว่าวันนี้ยังมีพลังที่จะทำงานต่อไป และก็ต้องทำอย่างเต็มที่ แต่ร่างกายเราก็ต้องพักผ่อน เมื่อเราพักผ่อนเสร็จแล้วก็ต้องทำงาน ทุกอย่างดี ไม่มีอะไร เมื่อถามว่าอุปสรรคที่ผ่านมาทำให้ท้อบ้างหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า “ขอใช้คำว่าเหนื่อยมากกว่า ถ้าถามว่าท้อหรือไม่ ก็ต้องบอกว่าไม่ท้อ เพราะดิฉันเองเป็นคนมุ่งมั่นทำงาน เราทำงานเต็มที่ ที่สำคัญทุกครั้งเวลาที่ไปพบประชาชนก็ได้รับกำลังใจ สิ่งนี้ถือว่าเป็นกำลังใจอย่างดีให้เราทำงาน”

เมื่อถามว่าอยากได้ของขวัญอะไรจากคนไทย น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า อยากเห็นความสุขของคนไทย อยากเห็นความรักของคนไทยทุกคน และอยากเห็นคนไทยของเรารักกันและช่วยเหลือกัน

เพื่อที่จะพัฒนาให้ประเทศของเราก้าวไปข้างหน้า ซึ่งจะทำให้ทุกคนมีความสุข และในฐานะที่ตนได้รับความไว้วางใจจากประชาชน ก็ยืนยันจะทำหน้าที่ของเราอย่างเต็มที่ สุดกำลัง และใช้ทุกสรรพกำลังในการทำงานเพื่อพี่น้องประชาชน และขอขอบคุณสำหรับทุกกำลังที่มีให้ และโอกาสที่ให้ตนมาในวันนี้ เมื่อถามว่าจะขอฝากอะไรไปยังนักการเมืองหรือไม่ ในโอกาสวันเกิด น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า เชื่อว่านักการเมืองทุกคนอยากเห็นบ้านเมืองพัฒนาไปในทางที่ดี เราก็อยากเห็นการทำงานร่วมกันอย่างสร้างสรรค์

ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกคนอยากเห็นร่วมกันอยู่แล้ว และตนก็ยินดีทำงานร่วมกัน และรับฟังทุกความคิดเห็นนายกรัฐมนตรี ยังได้บอกว่า ของขวัญที่ ด.ช.ศุภเสกข์ อมรฉัตร หรือน้องไปป์ บุตรชาย มอบให้ในปีนี้ ไม่ใช่การ์ด แต่เป็นของขวัญที่ทำในคอมพิวเตอร์โดยต่อเป็นรูปเค้กและเปิดเพลง “แฮปปี้เบิร์ดเดย์”ให้กับคุณแม่ ซึ่งบุตรชายได้เปิดให้ดูในตอนเช้า
อย่างไรก็ตามในช่วงท้าย เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงปัญหาจากการปรับลดราคารับจำนำข้าว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ปฏิเสธที่จะตอบคำถาม โดยกล่าวเพียงว่า “พอแล้วนะคะ วันนี้วันเกิด”