นายกฯ ระบุเคลื่อนไหวได้แต่ต้องไม่ก่อความรุนแรง

ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ช่อง 11 และสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย กรมประชาสัมพันธ์ เป็นครั้งที่ 14 ถึงการสร้างความสมานฉันท์กับกลุ่มที่เคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลและคมช. ว่า คงต้องใช้เวลา เพราะเป็นเรื่องความคิดของคน ซึ่งมีความแตกต่างกันได้ แต่ความแตกต่างนั้นก็ไม่ควรจะเป็นความแตกแยก ซึ่งการเดินขบวนต่าง ๆ ถ้าไม่ถึงขั้นก่อความรุนแรงขึ้นมาก็เป็นสิ่งที่ดีและถือเป็นเรื่องปกติ

แต่ตนไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์เหมือนในอดีตอีก

อย่างกรณีศึกษาในพื้นที่ภาคอีสานก็เห็นได้ชัดเจน ตนได้พูดกับบรรดาผู้ที่เคยทำงานร่วมกันมาในพื้นที่นี้ว่าเราต้องไม่ให้ประวัติศาสตร์กลับมาซ้ำรอยในพื้นที่ของเรา และไม่ต้องการจะเห็นคนไทยจับอาวุธขึ้นมาต่อสู้กันอีก นั่นคือคำมั่นสัญญาและความจริงใจที่เราได้พูดกัน ปัจจุบันเราจับมือ พูดจา เป็นพี่เป็นน้อง และเชื่อใจกัน เข้าใจกันว่านี่คือแผ่นดินไทย นั่นคือสิ่งที่เป็นบทเรียนที่ล้ำค่ำ 
 

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ใช่ เพราะเป็นเรื่องธรรมดาที่ทุกคนสามารถที่จะรับรู้และใช้เหตุผลของตัวเองในการพิจารณาได้ว่า อะไรเป็นสิ่งที่ถูกที่ควร เมื่อถามว่านายกรัฐมนตรีได้อ่านหนังสือ “ ทักษิณ : where are you กับ ทักษิณ 24 ชั่วโมง” หรือยัง พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า ยังไม่ได้อ่านทั้ง 2 เล่ม เพียงแต่อ่านสรุปที่ลงในนิตยสารรายสัปดาห์ ถ้ามีเวลาคงจะขออ่านบ้าง
 
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงกรณีที่ได้บอกกับชาวบ้านในช่วงการตรวจราชการให้เลือกคนดี แต่ไม่ได้บอกให้เลือกคนเก่งว่า

ถือเป็นการอัญเชิญกระแสพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ได้พระราชทานไว้ในวาระโอกาสที่พระราชทานธงลูกเสือชาวบ้านว่าบ้านเมืองของเราประกอบด้วยคน 2 ประเภท คือ มีทั้งคนดีและคนไม่ดี การที่เราจะทำให้บ้านเมืองของเราเจริญก้าวหน้า เราก็ต้องช่วยกันเลือกคนดีมาดูแลบ้านเมือง นั่นเป็นกระแสพระราชดำรัสที่ได้พระราชทานไว้นานแล้ว และตนคิดว่าไม่ได้ล้าสมัย คือคนที่ดี ชาวบ้านจะเห็นเองว่าในความเป็นคนดีของเขานั้นจะต้องมีความสามารถ อาจจะไม่ถึงขั้นเก่ง แต่มีความสามารถที่จะนำบ้านเมืองไปรอดปลอดภัยได้