นายกฯ ยอมรับนักลงทุนสหรัฐห่วงสถานการณ์การเมืองไทย แต่เชื่อว่าเข้าใจ


นายกฯ ตอบคำถามผ่านเว็บคอนเฟอเรนซ์จากสหรัฐ มายังตึกนารีสโมสร ยอมรับนักลงทุนสหรัฐห่วงสถานการณ์การเมืองไทย แต่เชื่อมั่นว่าจะเข้าใจหลังได้ชี้แจงการแก้ปัญหาของรัฐบาลอย่างตรงไปตรงมา ส่วนที่ ครม.อนนุมัติงบฯกว่าหมื่นล้านซื้ออาวุธไม่ถือว่าผิดปกตินายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ซึ่งอยู่ระหว่างเดินทางไปร่วมประชุมสมัชชาสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก และร่วมประชุม G-20 Pittsburgh Summit  ณ นครพิตส์เบิร์ก สหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 21-27 กันยายน แถลงผ่านระบบเว็บคอนเฟอเรนซ์ มายังตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล วันนี้ (23 ก.ย.) ว่า ได้มีโอกาสพบกับนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น และจีน ช่วงเวลาสั้นๆ ก่อนการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ ในหัวข้อความผันผวนทางอากาศ  จึงได้ย้ำเรื่องการเชิญเข้าร่วมประชุมสุดยอดอาเซียนกับประเทศสู่เจรจา ในเดือนตุลาคมนี้จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้ตอบข้อซักถามของสื่อมวลชน ประจำทำเนียบรัฐบาล เกี่ยวกับนักลงทุนและนักธุรกิจสหรัฐ มีห่วงใยสถานการณ์ในประเทศไทยมากน้อยแค่ไหนว่า ความห่วงใยเป็นเรื่องปกติ เพราะภาพข่าวที่ต่างชาติเห็น เป็นช่วงเวลาที่มีเหตุการณ์ไม่ปกติ  แต่ได้ยืนยันไปว่า เราได้แก้ไขสถานการณ์ทางการเมืองได้ระดับหนึ่งแล้ว และขณะนี้ถือว่า สถานการณ์สงบเรียบร้อยมากขึ้น เพราะรัฐบาลยึดหลักการทำงาน เป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย และรับฟังความคิดเห็นของทุกฝ่าย และมีความคืบหน้าในเรื่องของการทำงานทางด้านความสมานฉันท์ ที่สภาฯ เข้ามามีบทบาทเราพูดความจริงกับเขา เราไม่มาหลอกว่า ความขัดแย้ง ปัญหาสังคมต่างๆ หมดไปแล้ว แต่เราชี้ให้เห็นว่า ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในสังคมไทย เรามีแนวทางแก้ไขอย่างไร ซึ่งคิดว่าเป็นแนวทางที่ต่างชาติเข้าใจ และสอดคล้องกับการเป็นสังคมประชาธิปไตยนายกรัฐมนตรี กล่าวส่วนจะหารือกับประธานาธิบดีสหรัฐถึงความคืบหน้าการเปิดเขตการค้าเสรีไทย-สหรัฐหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตั้งแต่สหรัฐมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาล ก็ยังไม่มีท่าทีชัดเจนที่จะเดินหน้าเจรจาเขตการค้าเสรีแบบทวิภาคี เช่นเดียวกับไทย หากจะมีการคุยเรื่องนี้ ก็ต้องทบทวนว่า เป็นการเริ่มต้นใหม่ หรือต่อเนื่องจากการเจรจาครั้งก่อน เพราะเกี่ยวข้องกับรัฐธรรมนูญ มาตรา 190ขณะนี้เรื่องการค้าเสรี  สิ่งที่เราคาดหวังและต้องการมีส่วนร่วมในการผลักดันมากกว่าคือการเจรจาการค้ารอบโดฮา เพราะเป็นการเจรจาที่ได้ผลทั้งโลก และน่าจะส่งผลดีต่อสินค้าเกษตรของไทยนายกรัฐมนตรี กล่าวนอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังตอบคำถามเกี่ยวกับกรณีที่ ครม.อนุมัติงบฯ กว่า 10,000 ล้านบาท ให้กับกองทัพ ในช่วงที่นายกรัฐมนตรีไม่อยู่ ว่า ได้เห็นเรื่องดังกล่าวแล้ว เป็นกรณีงบผูกพัน และเป็นผู้ลงนามให้นำเรื่องเข้าที่ประชุม ครม.  ถือเป็นเรื่องปกติต่อกรณีที่ธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) ประเมินว่า อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยต่ำสุดในกลุ่มประเทศอาเซียน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยังไม่เห็นตัวเลขของ ADB แต่ในช่วงแถลงผลงาน 6 เดือนของรัฐบาล เคยเอาตัวเลขของการฟื้นตัวเศรษฐกิจของไทยมาดู เทียบเคียงกับหลายประเทศในภูมิภาค พบว่าไม่แตกต่างกันนัก และทุกอย่างเป็นไปตามแนวโน้มเศรษฐกิจของภูมิภาคแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจไทย ยังไม่มีแนวโน้มว่าเป็นลักษณะ W เพราะตัวเลขเดือนต่อเดือน ไตรมาสต่อไตรมาส เป็นไปในทางบวกทั้งสิ้น แล้วตัวเลขที่เอามาพูดถึง เป็นตัวเลขทั้งปี เวลานี้ยังไม่มีอะไรบ่งบอกว่า เป็น W ผมยังมองว่า เป็นไปตามที่เคยพูดไว้ช่วงประมาณต้นปีว่า การฟื้นตัวเศรษฐกิจจะเป็นไปลักษณะที่ดีขึ้นนายกรัฐมนตรี กล่าว 

เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์