นักวิชาการรุมสับ ร่างพรบ.มหานครสุวรรณภูมิ

กรุงเทพธุรกิจ

7 กรกฎาคม 2549 19:15 น.
นายกวิศวกรรมฯ ชี้ตั้งมหานครสุวรรณภูมิ ผิดหลักการตั้งเมือง ขัดต่อสนามบินสากล และส่อเอื้อนายทุน ´สัก´ชำแหละบทเฉพาะกาลเว้นใช้ 73 มาตรา 4ปี ครอบด้วยกฎหมายเศรษฐกิจพิเศษ ´บรรเจิด´ชี้คือกลลวง ก่อปัญหารัฐซ้อนรัฐ


กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : เครือข่ายจุฬาฯ เชิดชูคุณธรรมนำประชาธิปไตย(คจป.) ร่วมกับ ชมรมนักธุรกิจเพื่อประชาธิปไตย จัดเสวนาหัวข้อ "มหานครสุวรรณภูมิ:รัฐอิสระในราชอาณาจักรไทย"

โดย นายไกร ตั้งสง่า นายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย กล่าวว่า มหานครสุวรรณภูมิเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของ การแยกออกจากเมืองหลวง โดยส่วนตัวจึงไม่เห็นด้วยที่จะให้มีการสร้างมหานครสุวรรณภูมิ ด้วยเหตุผลคือ

1) จะเป็นการทำลายการระบายน้ำของ กทม. โดยเฉพาะในช่วงฤดูน้ำหลาก พื้นที่นี้รองรับน้ำตามโครงการพระราชดำริ เป็นพื้นที่ช่วยไม่ให้ กทม. ด้านตะวันออกถูกน้ำท่วม การที่มีเมืองเข้ามาขวางทางน้ำจะให้ กทม.สูญเสียงบประมาณจำนวนมาก ในการสูบน้ำทิ้ง ซึ่งเป็นเพียงการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ถามว่าภาษีค่าสูบน้ำใครเป็นผู้จ่าย

2) มหานครสุสรรณภูมิเป็นเมืองรอบสนามบิน ซึ่งขัดกับหลักการสร้างเมืองสากล ที่สนามบินต้องอยู่ไกลจากตัวเมืองกว่า 20 กิโลเมตรขึ้นไป อีกทั้งการตั้งเมืองรอบสนามบินยังมีผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะมลพิษทางเสียง อีกทั้งยังมีความเสี่ยงที่ทำให้เครื่องบินตกด้วย

3) ไม่เห็นด้วยเพราะนโยบายนี้ก่อให้เกิดการเก็งกำไรที่ดิน ถามว่าใครเป็นเจ้าของที่ดินเหล่านี้ อีกทั้งกฎหมายฉบับนี้ยังล้มล้างกฎหมายการปกครองส่วนท้องถิ่น เพราะกฎหมายฉบับนี้ซุกกฎหมายเศรษฐกิจพิเศษไว้

ด้าน นายสัก กอแสงเรือง รักษาการส.ว.กรุงเทพฯ กล่าวว่า ร่าง พ.ร.บ.มหานครสุวรรณภูมิ ถือว่าเป็นกฎหมายที่วิปริตมาก เนื่องจากมีการยกเว้นการใช้กฎหมายต่างๆอย่างผิดปกติ โดยเฉพาะ มาตรา74 ในบทเฉพาะกาล ยกเว้นกฎหมายถึง73 มาตรา ก่อนหน้านั้นใน4 ปีแรก โดยการนำกฎหมายเศรษฐกิจพิเศษมาครอบไว้

นอกจากนี้ กฎหมายฉบับดังกล่าวยังมีการตั้ง"สภาสุวรรณภูมิมหานคร" เพื่อทำหน้าที่บริหาร โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน กฎหมายต่างๆ ออกโดยคณะรัฐมนตรี และไม่ได้มาจากการเลือกตั้งเหมือนท้องถิ่นอื่นๆ แต่มีอำนาจบริหารได้เต็มที่ สิ่งเหล่านี้ถือว่าเป็นการล้มล้างกฎมหายการปกครองอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

การปกครองในรูปแบบนี้ยังมีการเพิ่มตำแหน่งสภาที่ปรึกษาที่มาจากผู้บริหารในกระทรวงต่างๆ มีหน้าที่ให้คำแนะนำเรื่องต่างๆ ต่อผู้บริหาร ซึ่งเป็นที่น่าแปลกใจว่า สภาที่ปรึกษาชุดนี้ มีอำนาจในการเสนอแนะให้รัฐมนตรีมีคำสั่งให้ผู้บริหารนครสุววรณภูมิพ้นจากตำแหน่งได้ ถ้าสภาที่ปรึกษาไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำ ซึ่งแปลกมากที่สภาที่ปรึกษามีอำนาจเหนือคณะผู้บริหารหรือผู้ว่าการฯเมืองใหม่ ส่อถึงการแทรกแซงทางการเมืองอย่างเห็นได้ชัด

"สภาชุดนี้สามารถต่ออายุได้จาก 4 ปีเป็น 8 ปี ซึ่งเป็นเรื่องที่อันตรายมาก เพราะจะมีอำนาจในการผูกพันธ์ในการออกนโยบาย และมีอำนาจเบ็ดเสร็จในการบริหารมากกว่าผู้ว่าซีอีโอเพราะมีการนำกฎหมายเขตเศรษฐกิจพิเศษเข้ามาใช้ สรุปได้ว่า 8 ปีนี้ ไม่ว่าใครจะเข้ามาเป็นผู้ว่าฯ ก็จะมีการดำเนินนโยบายเพื่อประโยชน์ของกลุ่มคนที่เข้ามา ซึ่งเป็นการทุจริตเชิงนโยบายที่จะมีผลกระทบจากชาตินี้ถึงชาติหน้าเลยทีเดียว เพราะฉะนั้นกฎหมายฉบับนี้อันตรายต่อการปกครองประเทศไทยมาก

ขณะที่ นายบรรเจิด สิงคะเนติ อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า แท้จริงแล้ว ร่าง พ.ร.บ. มหานครสุวรรณภูมิเป็นเพียงกลลวงของระบอบทักษิณ เพื่อปูทางการใช้กฎหมายเศรษฐกิจพิเศษ โดยใช้กฎหมายฉบับนี้ทำลายกฎหมายองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นก่อน เพราะกฎหมายเศรษฐกิจพิเศษไม่ได้ให้อำนาจนี้ไว้

ดังนั้น กฎหมายฉบับนี้จึงเป็นเครื่องมือของนายทุนที่จะเข้าไปแย่งชิงทรัพยากรจากท้องถิ่น โดยใช้กฎหมายเข้าไปยกเว้นการทำธุรกรรมต่างในพื้นที่นั้นๆ เพราะกฎหมายเป็นเครื่องมือที่มีต้นทุนที่ต่ำที่สุด จะทำให้กลุ่มทุนได้ทรัพยากรต่างๆ

"กฎหมายฉบับนี้ก่อให้เกิดปัญหารัฐซ้อนรัฐ ทำให้ไทยอาจจะมีรัฐอิสระ ที่คนไทยก็ไม่สามารถเข้าพื้นที่นั้นได้ อาจจะทำให้เราต้องตกเป็นเมืองขึ้น ถ้าต่างประเทศเข้ามาเช่า อีกทั้งกฎหมายที่ปกครองเมืองนี้ทุกฉบับมาจากพระราชกฤษฎีกาที่มาจากฝ่ายบริหารที่เป็นตัวแทนของกลุ่มทุนเท่านั้น อยากถามว่าเราจะยอมให้ทุนที่เห็นแก่ได้มาปกครองประเทศเราหรือ" นายบรรเจิด กล่าว

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์