นพดลอัดปชป.แผ่นเสียงตกร่องโทษแม้ว

นพดลอัดปชป.แผ่นเสียงตกร่องโทษแม้ว

'นพดล' ชี้ ปชป.ยังแผ่นเสียงตกร่อง โทษระบอบทักษิณ บอยคอตลต. ระบุตีความสถานะนายกฯ แล้วแต่ศาลรธน.จะฉีดน้ำ หรือราดน้ำมันเข้ากองไฟ

7 เม.ย. 57  นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการกปปส. และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ยังใช้เวทีสวนลุมพินี และโอกาสทำบุญพรรคประชาธิปัตย์ ใส่ร้ายโยนความผิด พ.ต.ท.ทักษิณ และโทษระบอบทักษิณ ว่าเป็นปัญหาของประเทศในขณะนี้ ซึ่งตนเห็นว่าไม่เป็นธรรมกับฝ่าย พ.ต.ท.ทักษิณ ตนเข้าใจความรู้สึกของคนพรรคนี้ ที่ไม่ชนะเลือกตั้งในรอบเกือบ 20 ปีที่ผ่านมา และนักการเมืองก็มีทั้งคนรักและคนชัง แต่ข้อสรุปนั้นต้องไม่มาจากเวทีสวนลุมพินี หรือลานหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แต่ต้องสรุปจากการหย่อนบัตรเลือกตั้งที่เป็นวิทยาศาสตร์ ถ้าพรรคประชาธิปัตย์มั่นใจว่าตนเองดี และมีทางออกให้ประเทศ ทำไมจึงบอยคอตการเลือกตั้ง และสร้างเงื่อนปมปัญหาให้บ้านเมืองขัดแย้งมาจนถึงปัจจุบันนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ เข้าสู่อำนาจผ่านการเลือกตั้ง และคนจดจำถึง 30 บาทรักษาทุกโรค สนามบินสุวรรณภูมิ โอท็อป ได้ชัดเจน แต่ถ้านึกถึงพรรคประชาธิปัตย์ คงจำไม่ได้ว่าทำอะไรไว้บ้าง ตนว่าจะเป็นประโยชน์ต่อชาติมากกว่าถ้าพรรคจะเปลี่ยนแนวทางการทำงานการเมืองโดยเน้นนโยบาย และเสนอมาตรการแก้ไขปัญหาประเทศ และเข้าสู่การเลือกตั้ง จะดีกว่าการย่ำเท้าตอกย้ำวาทกรรมทำร้ายฝ่ายตรงข้าม  
"ชื่อของพรรคประชาธิปัตย์ คือประชาชนเป็นผู้ชี้ขาด แต่การบอยคอตการเลือกตั้ง คือการปฏิเสธไม่ให้ประชาชนมีสิทธิ์ชี้ขาด ตนอยากเห็นทุกพรรคการเมืองอยู่ในกติกาประชาธิปไตย ทำงานการเมืองอย่างสร้างสรรค์ และเสนอตัวให้ประชาชนได้เลือก มากกว่าการบอยคอตเลือกตั้ง แล้วป่าวประกาศว่าตนเป็นคนดีในเวทีข้างถนนและสื่อพวกตน ซึ่งพิสูจน์ความนิยมแท้จริงอะไรไม่ได้เลย"
นายนพดล กล่าวอีกว่า ตนไม่ขอฟันธง ว่าศาลรัฐธรรมนูญตั้งธงหรือไม่ในกรณีรับเรื่องพิจารณาสถานภาพนายกฯ ยิ่งลักษณ์ เกี่ยวกับการโยกย้ายนายถวิล
 
ถ้าเราอยู่ในประเทศที่มีมาตรฐานทางกฎหมาย เรื่องนี้คงไม่มีอะไรน่ากังวลมาก เพราะเป็นอำนาจของรัฐบาลที่จะแต่งตั้งข้าราชการที่เหมาะสมในการทำงาน และนายถวิล เคยอยู่ใน ศอฉ. ที่ในปี 53 สลายการชุมนุมจนเสื้อแดงตายเกือบร้อย บาดเจ็บสองพัน นอกจากนั้นนายถวิล ขึ้นเวทีการชุมนุมการเมืองฝ่ายตรงข้ามด่ารัฐบาลประจำ ที่สำคัญนางสาวยิ่งลักษณ์ พ้นจากการเป็นนายกฯ ในวันยุบสภา จึงไม่อาจพ้นซ้ำสองได้ 
อย่างไรก็ตาม หากดูมาตรฐานการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในอดีต เช่น (1) การเติมคำว่า อาจ ในรัฐธรรมนูญ มาตรา 190

กรณีคดีแถลงการณ์ร่วมฯ หรือ (2) เปิดพจนานุกรมหาความหมายคำว่าลูกจ้าง จนนายสมัคร ต้องพ้นจากตำแหน่งนายกฯ หรือ (3) ตีความคำว่า และ เป็นคำว่า หรือ ในมาตรา 68 แล้วสถาปนาอำนาจของตนเองว่าเป็นผู้พิทักษ์รัฐธรรมนูญ หรือ (4) กรณีรับเรื่องร้องเรียนจากผู้ตรวจการแผ่นดิน ฝ่าฝืนมาตรา 245 (1) และตัดสินการเลือกตั้ง 2 กุมภาฯ เป็นโมฆะเมื่อเร็วๆ นี้ ทำให้นักกฎหมายไม่อาจทำนายผลการวินิจฉัยของศาลในเรื่องนี้ได้ ตลอดเวลา 7-8 ปีที่ผ่านมา เราหาบรรทัดฐานทางกฎหมายที่ถูกต้องในคดีเกี่ยวกับการตีความรัฐธรรมนูญได้ยากมาก และหลักการที่ว่ารัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุด ที่ศาลรัฐธรรมนูญต้องไม่ละเมิดนั้น ได้สาบสูญไปจากประเทศไทยนานแล้ว ทั้งๆ ที่หลักการนี้ ถูกยึดถือและงอกงามในประเทศยุโรป และประเทศประชาธิปไตยชั้นนำทั่วโลก
"ตนหวังว่ากรณีนี้ขึ้นอยู่กับศาลรัฐธรรมนูญ ว่าจะตีความตัดสินสถานภาพนายกฯ อย่างเคร่งครัดและธำรงความยุติธรรมให้กับคนไทย หรือจะตัดสินอย่างอื่นใด ก็ขึ้นอยู่ที่ศาลฯ ว่าจะฉีดน้ำ หรือน้ำมันเข้ากองไฟแห่งความขัดแย้งทางการเมืองที่ลุกโชนอยู่ในขณะนี้"

เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์