นพดล จวกกล่าวหาแม้วจ้างล็อบบี้ยิสต์ทั้งที่ตัวเองก็ทำ

ที่พรรคเพื่อไทย  เมื่อวันที่ 4 ก.ค.  นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษาพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี

แถลงกรณีที่รัฐบาล ระบุว่า การเดินทางชี้แจงสถานการณ์ของไทย และการเสนอการเจรจาสันติภาพในไทยหรือพีซ ทอล์ค ที่กรุงวอชิงตันดีซี ประเทศสหรัฐอเมริกา ไม่ประสบผลสำเร็จ ว่า การชี้แจงของตนถือว่า ประสบความสำเร็จ เพราะตนได้พบกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายระดับสูงทั้งฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติ รวมทั้งส.ว. และหน่วยงานที่เกี่ยวกับนโยบายต่างประเทศ ไม่ใช่พบเฉพาะเจ้าหน้าที่เสมียนอย่างที่รัฐบาลและพรรคประชาธิปัตย์พยายามดิสเครดิต แต่ที่ไม่เอ่ยชื่อบุคคลที่พบเพราะเกรงว่า รัฐบาลจะตอบโต้กลับในทางที่รุนแรง และล่าสุดตนได้เดินทางไปยังกรุงบรัสเซล ประเทศเบลเยี่ยม เพื่อพบกับสมาชิกสภายุโรป ที่เกี่ยวข้อกับเรื่องสิทธิมนุษยชน ซึ่งให้การตอบรับการชี้แจงและเข้าใจปัญหาในประเทศไทยเป็นอย่างดีโดยระบุผ่านทางนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศว่า ต้องการเห็นประเทศไทยยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่กระทบต่อสิทธิเสรีภาพของประชาชน และให้คืนเสรีภาพของสื่อ เพราะเข้าเห็นว่าการสลายการชุมนุมของไทยนั้นรุนแรงเกินไป  ซึ่งทั้งสหรัฐฯและยุโรปต้องการที่จะให้ประเทศไทยเจรจาทั้งสองฝ่ายเพื่อให้เกิดความความปรอง โดยไม่ได้เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง  ดังนั้นการเดินทางของตนจึงไม่สูญเปล่า

 นายนพดล กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯลงมติ 411 ต่อ 1 เสียง

สนับสนุนรัฐบาลดำเนินการตามแผนปรองดองแห่งชาติเรียกร้องให้วิกฤตการเมืองของไทยได้รับการแก้ปัญหาโดยสันติวิธี และผ่านทางกระบวนการประชาธิปไตย ที่มีความสับสนเพราะหากพิจารณารายละเอียดจะเห็นว่าทางสภาผู้แทนสหรัฐฯเสนอเข้าเสนอเมื่อวันที่ 4 พ.ค.ที่ผ่านมา หลังจากที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ประกาศโร้ดแม้ป 5 ข้อ เมื่อวันที่ 3 พ.ค. เพราะเข้าใจว่ารัฐบาลไทยจัดให้มีการเลือกตั้งในวันที่ 14พ.ย.53 จึงลงมติผ่านข้อมติ ซึ่งเรื่องนี้รัฐบาลยังไม่เล่าให้ประชาชนได้รับทราบข้อเท็จจริงทั้งหมด สหรัฐฯเขาสนับสนุนเป้าหมายโร้ดแม็ป เพื่อนำแผนปรองดองไปปฏิบัติให้เกิดผลก่อนที่จะมีการเลือกตั้ง ยกตัวอย่างเช่น ให้รัฐบาลให้หลักประกันว่าสื่อจะปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างเสรี รัฐบาลแก้ปัญหาความไม่เป็นธรรมในสังคม และสืบสวนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเหตุความรุนแรงที่เกิดขึ้น เป็นต้น ไม่ใช่สนับสนุนเฉพาะแค่โร้ดแม้ปที่ประกาศออกมาเท่านั้น ดังนั้นรัฐบาลควรชี้แจงในประเด็นนี้ด้วย ขณะที่รัฐบาลอ้างว่าสาเหตุที่ตนเดินทางไปต่างประเทศนั้น เพื่อคัดค้านมติดังกล่าวนั้น ขอยืนยันว่าฝ่ายค้านและพ.ต.ท.ทักษิณ เห็นด้วยกับมติที่สหรัฐฯสนับสนุนประเทศไทย เพราะเขาไม่ได้สนับสนุนเฉพาะรัฐบาลหรือประเทศไทย  จึงไม่มีเหตุผลที่ตนต้องไปคัดค้านมติดังกล่าว

นอกจากนี้ นายนพดล ยังกล่าวว่า การที่นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่าตน มีเจตนาไปคัดค้านข้อมติที่สหรัฐฯสนับสนุนนั้น

ส่วนตัวไม่โกรธเคืองกับนพ.บุรณัชย์ เพราะอาจได้ข้อมูลที่คลาดเคลื่อน และการพูดเช่นนั้นถือว่าเป็นความเท็จ ตรงกันข้ามตนพยายามสร้างความเชื่อมั่น และไปเพื่อขอการสนับสนุนเจรจาสันติภาพเพื่อปลอดล้อคการเมืองและไม่มีเจตนาทำร้ายประเทศแน่นอน

ส่วนที่กล่าวหาว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ว่าจ้างบริษัทล็อบบี้ยิสต์ ถึง 3 บริษัท  เพื่อทำร้ายประเทศไทยนั้น

นายนพดล ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริงและไม่มีวันทำอะไรให้ร้ายแก่ประเทศ ซึ่งการว่าจ้างล็อบบี้ยิสต์ต้องยื่นให้สภาผู้แทนฯสหรัฐฯรับทราบ ซึ่งเขาจะรู้ทันทีว่าใครเป็นคนว่าจ้าง และจ้างเพื่ออะไร ค่าจ้างเท่าไหร่ ซึ่งเราปกป้องไม่ได้โง่ที่จะรับฟังอะไรที่ไม่มีสาระ ดังนั้นรัฐบาลไม่ต้องกังวล  แต่ต้องถามกลับว่ารัฐบาลนี้ได้ว่าจ้างล็อบบี้ยิสต์ โดยนำเงินภาษีของประชาชนไปว่าจ้างให้ทำอะไรบ้าง ซึ่งขณะนี้ตนกำลังรวบรวมข้อมูลและจะเปิดเผยรายละเอียดให้ทราบในเร็วๆนี้ ซึ่งการว่าจ้างล็อบบี้ยิสต์ไม่ใช้เรื่องที่เสียหายหรือน่ารังเกียจหรือผิดกฎหมาย ซึ่งรัฐบาลมีสิทธิ์ที่ทำได้หากทำประโยชน์ให้ประเทศ แต่การนำข้อมูลมาบิดเบือนนั้นต่างหากที่ไม่ถูกต้อง ดังนั้นหากรัฐบาลอยากรู้ว่าเราพูดอะไรบ้างก็ให้ไปสืบเอาเอง


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์