ธีรภัทร์ดึงปชช.รับเงินร่วมแจ้งกกต.

"ธีรภัทร์"ดึงปชช.รับเงินร่วมแจ้งกกต.

 เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม นายธีรภัทร์ เสรีรังสรรค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เดินรณรงค์ให้ประชาชนไปร่วมลงประชามติ โดยเริ่มเดินรณรงค์ตั้งแต่หน้าสยามเซ็นเตอร์ มายังสยามพารากอน และไปจบลงที่เซ็นเตอร์พอยต์ สยามสแควร์ บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก เนื่องจากมีมิสไทยแลนด์เวิลด์ 2007 พร้อมรองทั้ง 4 คน มาช่วยกันรณรงค์ และแจกใบปลิวให้ประชาชนไปลงประชามติ นอกจากนี้ นายจุตินันท์ ภิรมย์ภักดี ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญการประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ของสภาร่างรัฐธรรมนูญ ได้มาร่วมเดินรณรงค์ด้วย

 นายธีรภัทร์ ให้สัมภาษณ์ว่าวันนี้รัฐบาลเห็นความจำเป็นที่จะต้องรณรงค์ให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิลงประชามติ ในวันที่ 19 สิงหาคมนี้ ซึ่งประชาชนทุกคนมีสิทธิที่จะออกเสียงทั้งเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบโดยอิสระ ซึ่งการออกมาใช้สิทธิถือว่าเป็นสิทธิพื้นฐานที่สำคัญ ที่ประชาชนจะต้องออกมากำหนดกติกาบ้านเมือง

 วันที่ 12 สิงหาคม ตนก็จะไปรณรงค์ให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิในการลงประชามติที่สวนจตุจักร และเซ็นทรัลลาดพร้าว ส่วนวันจันทร์ที่ 13 สิงหาคม รัฐบาลมีการจัดงานเดินรณรงค์ประชาธิปไตย จากลานพระบรมรูปทรงม้าไปถึงอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย และวันที่ 17 สิงหาคม จะไปเดินรณรงค์ในย่านสีลม และโรงเรียนย่านนั้น ส่วนวันเสาร์ที่ 18 สิงหาคม จะไปเดินรณรงค์ย่านหัวหมาก และรามคำแหง ดังนั้น ขอเชิญชวนให้ประชาชนทุกคนทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดออกมาใช้สิทธิกันให้มากๆ

 ทั้งนี้ นายธีรภัทร์ กล่าวว่า ไม่หนักใจที่ในบางจังหวัดรณรงค์ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ เพราะขณะนี้ประชาชนตื่นตัวมากขึ้น และมีความเข้าใจในรัฐธรรมนูญมากขึ้น พิจารณาได้จากผลโพลล์ที่ออกมาในช่วงหลัง พบว่าจะมีประชาชนออกมาใช้สิทธิเกินครึ่งและพบว่า 79 เปอร์เซ็นต์ จะรับร่างรัฐธรรมนูญ

 ต่อข้อถามว่าห่วงหรือไม่ที่มีการพยายามโยงเรื่องการเมืองกับการรับร่างรัฐธรรมนูญ โดยระบุว่า ถ้าไม่รับร่างรัฐธรรมนูญก็จะเป็นการเปิดทางให้ พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมา นายธีรภัทร์ กล่าวว่า ประชาชนมีปัญญา มีการพิจารณาอะไรด้วยเหตุและผล เชื่อว่าประชาชนรู้ว่าอะไรเป็นอะไร และสามารถตัดสินได้

 ผู้สื่อข่าวถามว่าขณะนี้มีกระแสว่ามีการใช้เงินคว่ำร่างรัฐธรรมนูญ แต่กลับไม่มีหลักฐานที่จะเอาผิด นายธีรภัทร์ กล่าวว่า ขณะนี้ กกต.ออกมายอมรับว่ามีกระแสใช้เงินในภาคอีสานตามการสืบในทางลับ แต่อย่างไรก็ตาม กฎหมายว่าด้วยการทำประชามติ ไม่ได้ระบุจะเอาผิดกับคนที่รับเงิน ดังนั้น ขอให้คนที่รับเงินไปแจ้งเบาะแส และแจ้งดำเนินคดีกับผู้ที่จ่ายเงิน แต่หากกลัวอิทธิพลในพื้นที่ก็ขอให้ไปบอกกับ กกต.จังหวัดในทางลับ เพื่อที่จะสามารถเอาผิดกับคนที่จ่ายเงินได้

"อ๋อย" แฉย้ายครูรณรงค์คว่ำร่าง รธน.

 วันเดียวกัน กลุ่มเพื่อนจาตุรนต์ จัดปาฐกถาเรื่อง "รัฐธรรมนูญของใคร ทำไมจึงไม่รับ" ที่สถาบันปรีดี พนมยงค์ โดยนายจาตุรนต์ ฉายแสง ประธานที่ปรึกษากลุ่มไทยรักไทย ให้สัมภาษณ์กรณีการลงประชามติว่า หากร่างรัฐธรรมนูญปี 2550 ดีจริง และรัฐบาลมั่นใจว่าจะผ่านการลงประชามติ ตนอยากถามกลับว่า ทำไมรัฐบาลจึงต้องกลัวฝ่ายตรงข้าม และพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้ร่างรัฐธรรมนูญผ่าน และเกณฑ์ประชาชนให้ออกมาลงประชามติรับ ทั้งที่การเผยแพร่ความรู้ เนื้อหาสาระ ทำเพียงด้านเดียว สะท้อนให้เห็นชัดเจนว่า การลงประชามติไม่มีความชอบธรรม ล้มเหลวโดยสิ้นเชิง สิ้นเปลืองงบประมาณ โดยกระทรวงมหาดไทยจะขนคนไปลงประชามติ และพยายามจัดการกับคนที่เห็นตรงข้าม ล่าสุดทราบข้อมูลมาว่า มีการสั่งย้ายครูที่รณรงค์คว่ำร่างรัฐธรรมนูญ

 นายจาตุรนต์ กล่าวว่า อยากเรียกร้องให้ กกต.รักษาความเป็นกลางให้มากที่สุด เพราะตัว กกต. เองมีข้อครหาเรื่องความเป็นกลาง เพราะ 2 ใน 5 เป็นสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ และ กกต.ก็ไม่เข้าใจประวัติศาสตร์การเมือง

 ด้านนายอดิศร เพียงเกษ อดีตแกนนำพรรคไทยรักไทย กล่าวว่า ทราบข้อมูลมาว่า มีความพยายามทุกวิถีทาง ที่จะทำให้ประชาชนรับร่างรัฐธรรมนูญ โดยใช้อำนาจรัฐเข้าไปบีบข้าราชการ ดังนั้น เชื่อว่าการลงประชามติ 19 สิงหาคมนี้ ประชาชนจะให้บทเรียนกับคมช.ในการออกมาแสดงพลังไม่รับร่างรัฐธรรมนูญอย่างท่วมท้น เหมือนประเทศซิลี

 สำหรับกรณีที่ พ.ต.ท.กานต์ เทียนแก้ว ประธานที่ปรึกษาพรรคพลังประชาชน ออกมายืนยันจะรับร่างรัฐธรรมนูญนั้น นายจาตุรนต์ กล่าวว่า ไม่สวนทางกันเพราะพลังประชาชนเป็นผู้บริหารชุดใหม่ และไม่เกี่ยวข้องกับอดีต ส.ส.กลุ่มไทยรักไทย ที่จะร่วมกันเปิดเวทีปราศรัยใหญ่รณรงค์ลงประชามติไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ ในวันที่ 15 สิงหาคมนี้ ซึ่งจะมีการเปิดเผยข้อมูลใหม่บนเวทีด้วย


นปก.บ้านนายหัว"ชวน" ไม่รับรธน.

 ที่โรงแรมธรรมรินทร์ ธนา จ.ตรัง กลุ่มตรังเคเสวนา และกลุ่มศึกษาเพื่อพัฒนาประชาธิปไตยจังหวัดตรัง ได้ร่วมกันเปิดเวทีเสวนาขึ้นในหัวข้อชำแหละรัฐธรรมนูญ ปี 2550 ภายใต้การนำของนายศุภชัย ใจสมุทร อดีตผู้สมัคร ส.ส.ตรัง พรรคไทยรักไทย ในฐานะแกนนำ นปก. ซึ่งมีนายพงษ์เทพ เทพกาญจนา อดีตรองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย นายยืนหยัด ใจสมุทร อดีตผู้สมัครสมาชิกวุฒิสภา จ.ตรัง  ร่วมเป็นวิทยากร ระบุว่าเนื้อหาขัดต่อสิทธิเสรีภาพประชาชน และที่มาเกี่ยวข้องต่อระบบเผด็จการ ซึ่งหลังจากนี้จะเคลื่อนไหวไปยังจังหวัดอื่นๆ ของภาคใต้ 

นปก.รุ่น 2 รณรงค์หน้าห้างดังคว่ำ รธน.

 บริเวณห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ลาดพร้าว กลุ่มพลเมืองภิวัฒน์ประมาณ 30 คน โดยการนำของนายสมบัติ บุญงามอนงค์ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ (นปก.) รุ่น 2 สวมเสื้อสีแดง เขียนข้อความว่า วี โหวต โน รวมตัวกันเพื่อรณรงค์ให้ประชาชนไม่รับร่างรัฐธรรมนูญฉบับปี 2550 พร้อมนำรถบรรทุกติดตั้งเครื่องขยายเสียง และรถตุ๊กตุ๊ก จำนวน 5 คัน โดยมีการประกาศรณรงค์ให้ประชาชนไม่รับร่างรัฐธรรมนูญฉบับปี 2550 ซึ่งได้รับความสนใจจากประชาชนที่ผ่านเข้าออกห้าง

 นายสมบัติ กล่าวว่า การเคลื่อนไหววันนี้ใช้ชื่อว่า กิจกรรมแดงไม่รับ ซึ่งเป็นกิจกรรมหนึ่งของกลุ่ม นปก. มีการแจกเอกสารและสติกเกอร์ติดรถเพื่อรณรงค์ให้ประชาชนไม่รับร่างรัฐธรรมนูญฉบับปี 2550 เนื่องจากเห็นว่าร่างรัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าวเป็นการสืบทอดอำนาจเผด็จการของทหาร และจะเคลื่อนไหวเช่นนี้ไปจนถึงวันที่ 18 สิงหาคม

 รายงานข่าวแจ้งว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สน.พหลโยธิน ประมาณ 20 นาย ได้มาคอยดูแลความเรียบร้อยและอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนที่มาร่วมเดินขบวนกับกลุ่ม นปก.รุ่น 2

 หลังจากนั้นเวลา 13.30 น. ทางกลุ่ม นปก.รุ่น 2 เดินขบวนไปยังสวนจตุจักร เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนไม่รับร่างรัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าวด้วย

ม็อบต้านเหิม! ขน รธน.ชั่งกิโลขาย

 ที่ จ.เชียงราย บริเวณหน้าร้านก๋วยเตี๋ยวเรือรสเยี่ยม เลขที่ 421/45-5 เขตเทศบาลนครเชียงราย กลุ่มแกนนำไม่รับร่างรัฐธรรมนูญปี 2550 กว่า 30 คน ร่วมกันใส่เสื้อสีแดง โดยมีข้อความไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ และคาดผ้าปิดปากมีข้อความว่า กฎอัยการศึก นำหนังสือร่างรัฐธรรมนูญสีเหลืองและทำเครื่องหมายกากบาทในช่องไม่เห็นชอบ มารวมกันและให้คนรับซื้อของเก่ามารับซื้อ รวมน้ำหนัก 13 กิโลกรัม โดยคนรับซื้อของเก่ารับซื้อในราคากิโลกรัมละ 1 บาท จากนั้นทางกลุ่มแกนนำได้แจกจดหมายเปิดผนึกให้แก่ตำรวจและสื่อมวลชน รวมถึงประชาชน เพื่อขอให้ยกเลิกกฎอัยการศึกในพื้นที่ จ.เชียงราย เพื่อจะได้มีการเคลื่อนไหวทำกิจกรรมทางการเมืองต่อไป จากนั้นกลุ่มไม่รับร่างรัฐธรรมนูญได้ร่วมกันรับประทานอาหารและแยกย้ายไปในที่สุด

 ส่วนที่ จ.ขอนแก่น นั้น กลุ่มสร้างสรรค์ชีวิตและสังคมอีสาน (กสส.) เครือข่ายปฏิรูปที่ดินภาคอีสาน สหพันธ์นิสิตนักศึกษาภาคอีสาน (สนนอ.) สหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนนท.) กว่า 300 คน ได้รวมตัวกันสวมเสื้อดำ เดินขบวนประท้วง คมช.และรณรงค์ให้ประชาชนไม่รับร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้

 นายนิวาส โคตรจันทึก แกนนำกลุ่ม กสส. กล่าวว่า ที่ผ่านมาชาวบ้านส่วนหนึ่งรับไม่ได้กับรัฐธรรมนูญฉบับ คมช. เพราะเห็นว่าเป็นรัฐธรรมนูญที่เขียนขึ้นจากปากกระบอกปืน และเป็นรัฐธรรมนูญฉบับหมกเม็ดเผด็จการที่มุ่งสืบทอดอำนาจของกลุ่มทหาร

 นายพงษ์สุวรรณ สิทธิเสนา เลขาธิการ สนนท. กล่าวว่า ขบวนนักศึกษาทั่วประเทศได้มีมติร่วมกันว่าจะไม่รับร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ โดยเห็นว่าเป็นการวางแผนสืบทอดอำนาจของคณะเผด็จการ คมช. และเป็นการนำพาสังคมไทยย้อนหลังไปสู่ยุคอำมาตยาธิปไตย


หนักข้อเป่าหูรับ รธน.ล้มล้างสถาบัน

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในเขตท้องที่ อ.ปทุมราชวงศา จ.อำนาจเจริญ ได้มีตัวแทนของนักการเมือง กลุ่มอำนาจเก่าในพื้นที่ได้ออกไปเชิญชวนชาวบ้านไม่ให้รับร่างรัฐธรรมนูญปี 2550 โดยกลุ่มคนดังกล่าวได้ลงพื้นที่แจ้งว่า ถ้าประเทศไทยได้รัฐธรรมนูญฉบับทหารนี้จะนำไปสู่การล้มล้างสถาบัน

 นายบุญยงค์ สาระ ปราชญ์ชาวบ้าน อดีตข้าราชการครู เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจากชาวบ้านหลายหมู่บ้านในเขต อ.ปทุมราชวงศา และ อ.เสนางคนิคม จ.อำนาจเจริญ รู้สึกตกใจกับพฤติกรรมดังกล่าวของคนที่สูญเสียผลประโยชน์ทางการเมืองแล้วออกมาเดินสายเชิญชวนให้ประชาชนไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ จึงอยากจะฝากถึง กกต.จังหวัด และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องลงไปตรวจสอบด้วย เพราะถ้ามีการกล่าวอ้างอย่างนั้นเกรงว่าจะสร้างความสับสนให้แก่ประชาชนต่อการประชามติในวันที่ 19 สิงหาคม ซึ่งปัจจุบันชาวบ้านจะไม่อ่านรัฐธรรมนูญเอง แต่จะรอถามเพื่อนบ้าน หรือไม่ก็รอถามกำนันหรือผู้นำชุมชน หากแกนนำหมู่บ้านชักจูงไปในทางที่ผิดก็อาจจะส่งผลกระทบตามมา

เชียงใหม่เข้มตรวจจับสติกเกอร์โหวตโน

 นายชาญชัย กีฬาแปง ขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า หลังจากที่นายชัยรัตน์ สงวนซื่อ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวถึงกรณีการติดป้ายสติกเกอร์ที่มีข้อความ “โหวตโน“ หรือไม่รับรัฐธรรมนูญ หรือโฆษณาชวนเชื่อต่างๆ บนรถแท็กซี่ หรือรถโดยสารสาธารณะว่า หากจะมีการติดป้ายหรือข้อความนั้นได้จะต้องได้รับการอนุญาตจากนายทะเบียนก่อน อีกทั้งเพื่อความสงบเรียบร้อย

 "หากมีการติดป้ายสติกเกอร์ “โหวตโน“ ถือเป็นการชี้นำ ซึ่งจะเป็นการผิดกฎหมายในเรื่องประชาสัมพันธ์โดยไม่รับอนุญาตเพราะขัดต่ออาชีพและความปลอดภัยของผู้โดยสาร ในส่วนของสำนักงานขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ การติดสติกเกอร์ลักษณะดังกล่าวถือเป็นการชักจูง-ชี้นำทำให้เกิดความไม่สงบขึ้นในบ้านเมือง ถือว่าเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ทั้งนี้เมื่อกรมการขนส่งทางบกมีนโยบายให้สอดส่องควบคุมเรื่องดังกล่าว ทางสำนักงานขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ก็พร้อมจะดำเนินการอย่างเข้มงวด" นายชาญชัย กล่าว

ปชป.โอ่สมาชิก 4 ล้านคนรับ รธน.

 นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แสดงความมั่นใจในวันที่ 19 สิงหาคมนี้ ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะผ่านการลงประชามติรับร่าง โดยสมาชิกของพรรคประชาธิปัตย์จำนวนกว่า 4 ล้านคน ทั่วประเทศ จะลงมติรับร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่อย่างแน่นอน เพราะเห็นว่าเนื้อหาในร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศและประชาชนไม่น้อยไปกว่ารัฐธรรมนูญปี 2540

 รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวเรียกร้องพรรคการเมืองและกลุ่มการเมืองต่างๆ อย่าบิดเบือนเนื้อหาในรัฐธรรมนูญ เชื่อมโยงกับการเดินทางกลับประเทศไทยของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จนอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิด รวมทั้งให้ยุติการกระทำที่ผิดกฎหมายในทุกกรณี เพื่อให้ประเทศสามารถเดินหน้าไปสู่การเลือกตั้งได้

"กานต์"ยันรับร่างรธน.50

 พ.ต.ท.กานต์ เทียนแก้ว ประธานที่ปรึกษาพรรคพลังประชาชน กล่าวถึงจุดยืนของพรรคว่า ยืนยันว่าจะไม่มีสมาชิกพรรคคนใดไปร่วมรณรงค์หรือชี้นำประชาชนให้ล้มร่างรัฐธรรมนูญฉบับปี 2550 ในวันที่ 15 สิงหาคม ร่วมกับกลุ่มไทยรักไทย ทั้งนี้ เราเชื่อว่าประชาชนจะมีวิจารณญาณเพียงพอในการที่จะคิดเองได้ว่ารัฐธรรมนูญดีและไม่ดีอย่างไร โดยส่วนตัวในใจแล้วต้องการให้ร่างรัฐธรรมนูญผ่านประชามติ เพราะอยากเห็นบ้านเมืองเข้าสู่ภาวะปกติ 

ลูกหม้อทรท.เปิดตัว"กลุ่มกรุงเทพ 50"

   พ.ต.ท.กุลธน ประจวบเหมาะ แกนนำกลุ่มกรุงเทพ 50 เปิดเผยว่า กลุ่มจะจัดงานเปิดตัวกลุ่ม กรุงเทพ 50 อย่างเป็นทางการในวันที่ 15 สิงหาคมนี้ ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ตลอดจนนโยบาย  ซึ่งนายสุรนันทน์  เวชชาชีวะ อดีตแกนนำกลุ่มธรรมาธิปไตย เป็นที่ปรึกษากลุ่มกรุงเทพ 50 รวมทั้งเพื่อนอีกหลายวงการ โดยมีเป้าหมายหลักคือ ลงสมัครในพื้นที่ กรุงเทพฯ และปริมณฑล

 พ.ต.ท.กุลธน กล่าวว่า ตนและนายสุรนันทน์  ได้ประสานพูดคุยกับกลุ่มต่างๆ อาทิ กลุ่มมัชฌิมาของนายสมศักดิ์  เทพสุทิน และกลุ่มรวมใจไทย รวมทั้งขอคำปรึกษาในการจัดตั้งกลุ่มกรุงเทพ 50 โดยนายสุรนันทน์ได้ไปประสานกับทางกลุ่มแนวร่วมสมานฉันท์ โดยผ่านทั้งนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ และนายสุวิทย์ คุณกิตติ

 ส่วนสมาชิกของกลุ่มกรุงเทพ 50 ได้แก่ ลูกหลานนักธุรกิจ และบุคคลที่มีชื่อเสียง เช่น  กรด โรจนเสถียร, บุญอนันต์ เปี่ยมพงศ์สานต์, ธรรมรัตน์ หวั่งหลี, ธีรภัทร์ สูตะบุตร, ชื่นชม คงอุดม, พ.ต.ต.นพ.ปิยพงษ์ สาครเย็น, ดร.ปกรณ์ อาภาพันธุ์ , โกศล โกเมน, ตระการ พันธุมเลิศรุจี, อนันต์ วรรณลักษณ์, วีรวัฒน์ ยมจินดา, ร.ต.ชยกฤต ปทุมารักษ์, ธัญญวัฒน์ ประจวบเหมาะ, ภัควดี พัฒโนดม, ชลพรรษา นาลูนา, ประภัสร์ สุธาภิรมย์, พงษ์รพี บูรณสมภพ เป็นต้น


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์