ทายาทสิงห์ลาออกรับผิดชอบแจกปฏิทินลีโอ

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 17 ธ.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์

คนสนิทนายกรัฐมนตรี ได้นำหนังสือลาออกของน.ส.จิตภัสร์ ภิรมย์ภักดี ข้าราชการการเมืองประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เพื่อแสดงความรับผิดชอบกรณีที่ตกเป็นข่าวนำปฏิทินวาบหวิวมาแจกจ่ายในทำเนียบรัฐบาล โดยในหนังสือลาออกระบุว่า

“ไม่ได้มีเจตนาที่จะนำปฏิทินไปแจกจ่าย แต่เป็นเพราะมีพี่ๆหลายคนสนใจปฏิทินนี้ ประกอบกับเห็นว่าเป็นช่วงเทศกาลปีหม่ จึงได้นำติดรถมา ระหว่างนั้นพี่สื่อมวลชนหลายคนเห็น และเข้ามาขอปฏิทินด้วย ดิฉันให้กับทุกคนโดยยอมรับว่า ไม่ทันได้คิดเลยว่า เรื่องนี้จะกลายเป็นเรื่องใหญ่ ซี่งถือเป็นความไม่รอบคอบของดิฉันเอง จนทำให้ส่งผลกระทบตามมากมาย ดิฉันรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะนอกจากจะทำให้ตัวเองและครอบครัวได้รับผลกระทบแล้ว ยังส่งผลให้ผู้ใหญ่หลายคนที่ดิฉันนับถือพลอยเสื่อมเสียไปด้วย ดังนั้นแม้การกระทำครั้งนี้จะเป็นความพลาดพลั้งเนื่องจาก รู้เท่าไม่ถึงการณ์ แต่ก็ไม่ใช่เหตุผลที่จะนำมาเป็นข้ออ้างปฏิเสธความรับผิดชอบจากการกระทำของตัวเอง ดิฉันขอรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว และขอน้อมรับคำวิจารณื้ทั้งหมด เพื่อนำไปปรับปรุงตัวเอง

พร้อมกันนี้ดิฉันกราบขอโทษไปยังประชาชนทั้งประเทศ ที่ทำให้เกิดเหตุการณ์ไม่เหมาะสมขึ้นในทำเนียบรัฐบาล

ดิฉันขอแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ด้วยการลาออกจากตำแหน่ง ข้าราชการการเมืองประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 17 ธ.ค. 2552 บทเรียนครั้งนี้เป็นสิ่งมีค่ามาก และจะเป็นเครื่องเตือนสติดิฉันว่า ทุกๆ การกระทำต้องมีความระมัดระวังและรอบคอบและหวังว่า สังคมการเมืองจะยังเปิดโอกาสให้ดิฉันพิสูจน์ตัวเองในภายภาคหน้า” ลงชื่อน.ส.จิตภัสร์ ภิรมย์ภักดี”

ด้านนายศิริโชค กล่าวว่า นายกรัฐมนตรียังไม่เห็นข่าวนี้ แต่ได้แสดงความเป็นห่วงกับเรื่องนี้ และมีภารกิจต้องเดินทางไปต่างประเทศ

ยืนยันว่า ไม่ได้มีการบีบบังคับหรือกดดันให้ออกจากตำแหน่ง แต่น.ส.จิตภัสร์ ตัดสินใจลาออกเอง ตนเพียงทำหน้าที่บุรุษไปรษณีย์ ในระหว่างที่นายกฯไม่อยู่ เมื่อถามว่ามองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกระทบต่อภาพลักษณ์ของรัฐบาลหรือไม่ นายศิริโชค กล่าวว่า เราต้องยอมรับว่า แม้ว่าไม่ใช่เป็นการกระทำของรัฐบาล แต่มันเกิดขึ้นในทำเนียบรัฐบาล รัฐบาลก็ต้องมีความรับผิดชอบในเรื่องนี้อยู่แล้ว เราจะปฏิเสธความารับผิดชอบไม่ได้ และในเบื้องต้นน.ส.จิตภัสร์ ได้แสดงความรับผิดชอบต่อสังคมแล้ว ในส่วนของรัฐบาลเองก็ต้องทบทวนและต้องมีความระวังรอบคอบ หากจะให้ใครมาทำงานก็ต้องดูให้ดีกว่านี้ในแง่ของการเป็นพี่เลี้ยงที่ดี ยืนยันไม่มีกระบวนการบีบ


ก่อนหน้านี้ เมื่อเวลา 11.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

รับหนังสือร้องเรียนจาก นางอรุณี ศรีโต ผู้ประสานงานศูนย์ช่วยเหลือผู้หญิงและเด็ก 10 จังหวัด ที่ยื่นถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และนายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมทำสำเนาส่งถึงรัฐมนตรีและข้าราชการเมืองที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ นายธีระ สลักเพชร รมว.วัฒนธรรม เพื่อขอให้รับผิดชอบและแสดงจุดยืน จากกรณีที่น.ส.จิตตภัสร์ ภิรมย์ภักดี ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นทายาทบริษัทสิงห์ฯ ที่นำปฏิทินเบียร์ลีโอมาแจกในทำเนียบรัฐบาลจนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง

นางอรุณี กล่าวว่า เครือข่ายขอเรียกร้องว่า ขอให้รัฐบาลเร่งออกกฎกระทรวง มาตรา 32 แห่งพ.ร.บ.คุ้มครองเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551

เพื่อยุติปัญหาและสร้างความชัดเจนในการปฏิบัติของทุกฝ่าย ขอให้รัฐบาลเร่งรัดให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบังคับใช้กฎหมายฉบับนี้อย่างจริงจัง เพราะเวลาผ่านไปเกือบ 2 ปี เพียงพอสำหรับการปรับตัวของธุรกิจ ขอเรียกร้องให้กระทรวงวัฒนธรรม เข้ามาดูแลปัญหาความถูกต้องเหมาะสมของการผลิตปฏิทินดังกล่าว รวมถึงสื่ออื่นๆที่ขัดกับศีลธรรมอันดีงามของสังคม มิใช่ลอยตัวเหมือนไม่เป็นปัญหาทางวัฒนธรรม และขอให้บริษัทสิงห์ฯหยุดเลี่ยงบาลี หยุดละเมิดกฎหมายและหยุดอาศัยเรือนร่างของผู้หญิง เพศแม่ หาประโยชน์ทางธุรกิจ และขอให้ น.ส.จิตตภัสร์ แสดงความรับผิดชอบต่อการกระทำครั้งนี้ โดยขอให้พิจารณาตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น เพื่อดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งมิให้เป็นเยี่ยงอย่าง ไม่ให้มีการทำผิดกฎหมายในทำเนียบอีก

ด้านนายสาทิตย์ กล่าวว่า ว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 16 ธ.ค.ที่ผ่านมา ตนได้โทรศัพท์ไปพูดคุยและสอบถามข้อเท็จจริงจากน.ส.จิตตภัสร์

ซึ่ง น.ส.จิตตภัสร์ ได้ชี้แจงว่าการนำปฏิทินมาแจกครั้งนี้ไม่ได้มีการคิดอะไร แต่เพราะมีคนขอเอาไว้จึงได้นำมาให้ และตนได้แนะนำไปว่าในเมื่อขณะนี้เรื่องนี้ปรากฎเป็นข่าวเกิดขึ้นมาแล้ว ให้ชี้แจงข้อเท็จจริงไป ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีที่สุด ทั้งนี้ น.ส.จิตตภัสร์ ได้ยอมรับกับตนว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือว่าเป็นบทเรียนสำหรับตัวเอง เพราะไม่ได้คิดอะไรกับเรื่องนี้ เมื่อมีคนขอเขาก็เอามาให้ และตนได้สอบถามไปว่าหลังจากมีข่าวเกิดขึ้นแล้ว มีใครนำปฏิทินมาคืนบ้างหรือไม่ อย่างไรก็ตามตนคิดว่านายกรัฐมนตรีคงจะทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว เพราะนายกรัฐมนตรีเป็นคนที่ติดตามข่าวสารอยู่แล้ว


เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์