ทักษิณแถลงการณ์โต้ โดนยัดข้อหา ประกาศสู้ถึงที่สุด

วันนี้ (15 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 3/2552 ลงวันที่ 15 พ.ค.2552

เพื่อชี้แจงกรณีที่กองบัญชาการตำรวจสันติบาล (บชน.)สั่งฟ้องข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ในการให้สัมภาษณ์เว็บไซต์ต่างประเทศ เมื่อวันที่ 12-13 เม.ย. โดยพ.ต.ท.ทักษิณ ส่งแถลงการณ์ดังกล่าวให้นายนพดล ปัทมะ อดีตที่ปรึกษากฎหมายส่วนตัวพ.ต.ท.ทักษิณ เพื่อนำมาเผยแพร่ต่อสื่อมวลชน มีใจความว่า

“ตามที่มีข่าวใน สื่อมวลชนว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ข้อสรุป จากการที่ผมได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนต่างประเทศในระหว่างวันที่ 12-13 เม.ย. 2552 ที่ผ่านมาว่า ผมได้กระทำความผิดฐานหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ และจะดำเนินคดีกับตัวผมตามกฎหมายต่อไปนั้น ผมทราบเรื่องนี้ด้วยความสะเทือนใจยิ่ง เนื่องจากข้อกล่าวหานี้เป็นข้อกล่าวหาที่รุนแรง และขัดกับความเป็นจริงที่เกิดขึ้น แม้ผมจะต้องพำนักอยู่ในต่างประเทศก็ตาม ผมเป็นคนไทยคนหนึ่งที่สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถอยู่ตลอดเวลา เช่นเดียวกับคนไทยทุกคน การสัมภาษณ์สื่อต่างประเทศที่อ้างถึงนั้น ไม่มีข้อความใดเลยที่ข้าพเจ้ามีเจตนาที่จะหมิ่นหรือจาบจ้วงพระมหากษัตริย์ ผู้เป็นที่เทิดทูน และศูนย์รวมจิตใจของคนไทยทุกคน ทั้งที่อยู่ในประเทศไทยและแห่งใดในโลก

ผมขอกราบเรียนว่า ในอดีตมีการพยายามใส่ร้ายป้ายสี และดำเนินคดีกับผมในทำนองนี้หลายคดี แต่อัยการสั่งไม่ฟ้องทุกคดีที่ตำรวจเสนอสำนวนขึ้นไป

ผมขอย้ำอีกครั้งว่า ผมประสงค์ที่จะเห็นความปรองดองของคนในชาติ ซึ่งความปรองดองจะไม่เกิดขึ้น ถ้าปราศจากความเป็นธรรมในสังคม ดังนั้นผมจึงไม่ปรารถนาที่จะเห็นการทำลายล้างกันทางการเมืองในสังคมไทย โดยการยัดเยียดข้อกล่าวหาที่ปราศจากข้อเท็จจริงและเจตนาของผู้ที่ตกเป็นฝ่าย ถูกกระทำ และน่าเสียดายว่าแนวโน้มนี้จะดำรงอยู่ต่อไปอย่างไม่รู้จักจบสิ้น

ผมจะต่อสู้เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของผมจนถึงที่สุด แต่สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่านั้นก็คือ ผมจะไม่ยอมให้ผู้ใด ไม่ว่าจะดำเนินการเอง หรือมีใครบงการให้กระทำ

มากล่าวหาผมอย่างเป็นเท็จว่า ผมมีเจตนาหมิ่นพระมหากษัตริย์ ทั้งๆที่ผมมีความจงรักภักดีและเทิดทูนเหนือหัว และความจงรักภักดีที่ผมมีต่อพระองค์จะยังคงอยู่ในหัวใจของผมจนกว่าชีวิตจะ หาไม่ แม้ตัวผมจะพำนักอยู่หนใดในโลกก็ตาม”แถลงการณ์อดีตนายกรัฐมนตรี ระบุ

เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์