ทักษิณหาทางออกไม่ได้ โบ้ยนักข่าวสะเลย !!

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.00 น.

วานนี้ (7 ก.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานพิธีมอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (สปก.4-01) ให้แก่เกษตรกรประมาณ 700 ราย จาก 10 จังหวัด ทั้งนี้ นายกฯกล่าวกับเกษตรกรที่มาร่วมพิธีว่า ไม่มีใครที่จะรักและห่วงใยพี่น้องเกษตรกรเท่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ดังนั้น ในโอกาสที่ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี รัฐบาลจึงเร่งรัดแจกเอกสารสิทธิที่ดินทำกินทุกรูปแบบ วันนี้ได้ออกแผนที่มาตราส่วน 1:4,000 ในทุกระบบมาปรับใช้ใหม่ ต่อไปจะเป็นเอกสารสิทธิที่ถูกต้องแม่นยำที่สุดทั้งด้านกฎหมายและเทคนิค แต่เกษตรกรจะต้องขวนขวายหาความรู้และกล้าเปลี่ยน ต้องค้นหาตัวเองก่อนว่าชอบอะไร ทำแล้วถนัด ไปรอด มีความสุข โดยมีสำนักบริหารการแปลงสินทรัพย์เป็นทุน (สปท.) จัดหาเงินทุนให้ แต่ถ้าคิดว่าจะนำเงินทุนมาหมุนกินไปวันๆ ในที่สุดจะจมด้วยหนี้สิน ที่ดินที่ได้ไปก็จะหมด ต้องขอเตือนว่า ต้องคิดให้ได้ว่าจะทำอะไร ต้นทุนเท่าไหร่ รายได้เป็นอย่างไร คำว่าเศรษฐกิจพอเพียงของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวหมายความรวมถึงปัญญา คุณธรรม จริยธรรม ดังนั้นต้องประพฤติตนให้เหมาะสม ไม่ใช่ทำงานได้เงินมาเท่าไหร่ ก็เอาไปกินเหล้าเล่นการพนันหมด เมื่อได้หลักทรัพย์แล้วต้องเลิกอบายมุขทุกอย่าง

ภายหลังเสร็จพิธีดังกล่าว พ.ต.ท.ทักษิณได้เดินจากสนามหญ้าหน้าตึกสันติไมตรี กลับไปที่ตึกไทยคู่ฟ้า โดยก่อนเดินขึ้นตึก พ.ต.ท.ทักษิณได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวถึงการเดินทางไปพักผ่อนในช่วงวันหยุดยาว 4 วันว่า จะไปพักผ่อนกับครอบครัว ไปไม่ไกล แถวๆพัทยา อยากให้ผู้สื่อข่าวได้พักผ่อนไปในตัว ไม่ต้องตามไปทำข่าว ไม่ต้องมีปาปารัซซี่ ใครโผล่มาก็จะไม่ให้ข่าว โดยจะเดินทางไปพักผ่อนในวันเสาร์ที่ 8 ก.ค. หลังพูดรายการวิทยุ นายกฯทักษิณคุยกับประชาชน จบแล้ว จะมีข่าวในรายการวิทยุเท่านั้น ผู้สื่อข่าวถามว่า จะถือโอกาสใช้ รายการวิทยุชี้แจงเรื่องผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญหรือไม่ แต่ พ.ต.ท.ทักษิณรีบเบือนหน้าหนี พร้อมกับก้าวเดิน แล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนหันกลับมาตอบผู้สื่อข่าวว่า เฮ้อ...พวกเรา (ผู้สื่อข่าว) นี่แหละผู้มีบารมีตัวจริง จากนั้นก็เดินเข้าตึกไทยคู่ฟ้า ขึ้นไปยังห้องทำงานชั้น 2 ทันที

ทรท.ซัด ประเวศ พูดแต่อุดมคติ


นายพีรพันธุ์ พาลุสุข คณะทำงานด้านกฎหมายและการเมืองพรรคไทยรักไทย กล่าวถึงกรณีที่หลายฝ่ายเรียกร้องให้ พ.ต.ท.ทักษิณเปิดเผยรายชื่อผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญว่า ขอเรียกร้องทุกฝ่ายให้ความเป็นธรรมกับ พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะหัวใจสำคัญในการกล่าวถึงบุคคลมีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ คือต้องการสื่อกับข้าราชการให้ตั้งใจทำงาน อย่าห่วงเรื่องการเมือง จึงมีการยกตัวอย่างขึ้นมาถึงกระบวนการนอกรัฐธรรมนูญ และไม่ได้ระบุชื่อตัวบุคคล แต่ผู้ที่ต้องการเล่นงาน พ.ต.ท.ทักษิณและสื่อมวลชนกลับหยิบยกเพียงบางประเด็นมานำเสนอ ไม่ได้พิจารณาบรรยากาศโดยรวม ส่วนกรณีที่ น.พ.ประเวศ วะสี นักวิชาการชื่อดัง เรียกร้องให้ พ.ต.ท.ทักษิณลาออกนั้น ส่วนตัวเห็นว่า แม้ พ.ต.ท.ทักษิณลาออก ก็ใช่ว่าปัญหาทุกอย่างจะยุติลงได้ การแสดงความเห็นของ น.พ.ประเวศ เป็นการเสนอในสิ่งที่เป็นอุดมคติมาโดยตลอด แต่ไม่เคยบอกว่าประเทศไทยมีกลไกเป็นอย่างไร และต้องแก้ไขปัญหาอย่างไร

วอนพันธมิตรฯอย่าเล่นนอกระบบ


คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ รมว.เกษตรและสหกรณ์ รองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย กล่าวถึงกระแสข่าวกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เตรียมชุมนุมประท้วงขับไล่นายกรัฐมนตรีอีกครั้งว่า อยากขอร้องว่าจะทำอะไรขอให้เห็นแก่บ้านเมือง ยึดพระราชดำรัสเมื่อวันที่ 9 มิ.ย. ที่ให้คิดดีทำดีต่อกัน เพื่อความสงบสุขของบ้านเมือง เพราะเวลานี้ทุกฝ่ายที่ไม่ชอบกันก็มีการฟ้องร้องต่อศาลไว้หมดแล้ว ดังนั้น ควรปล่อยให้ กระบวนการของศาลตัดสินไปตามระบบ

ยงยุทธ ตอกกลับ สนธิ บ้า


นายยงยุทธ ติยะไพรัช รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงกรณีนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ระบุว่ามีการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เพื่อนำมาชนกับม็อบของกลุ่มพันธมิตรฯ ว่าปล่อยให้นายสนธิพูดไป เถียงไปก็ไม่มีประโยชน์ ตนจะฟ้องกลับ ขอให้ไปพิสูจน์ข้อเท็จจริงในชั้นศาล ผู้สื่อข่าวถามว่านายสนธิระบุว่าเจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติฯ ได้ฝึกอาวุธเตรียมไว้รับมือม็อบกลุ่มพันธมิตรฯ นายยงยุทธตอบว่า บ้า ยืนยันว่าไม่เคยสั่งการหรือมีนโยบายให้เจ้าหน้าที่ฝึกอาวุธเพื่อเตรียมรับมือม็อบกลุ่มพันธมิตรฯ แต่การฝึกอาวุธของเจ้าหน้าที่ทำเป็นประจำทุกปี เป็นการฝึกอย่างเปิดเผย ไม่เป็นความลับ เพื่อเตรียมพร้อมในการดูแลป้องกันพื้นที่ป่าไม้จากผู้ลักลอบตัดไม้ทำลายป่า ขอให้นายสนธิหยุดปรุงแต่งให้เกิดความวุ่นวายแก่ ประเทศชาติได้แล้ว

ป๋าเปรม เลี่ยงไม่ให้สัมภาษณ์


วันเดียวกัน เมื่อเวลา 10.00 น. พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ เดินทางไปที่กองการบิน กรมการขนส่งทหารบก (ขส.ทบ.) เพื่อเดินทางไปวางศิลาฤกษ์แท่นประดิษฐานพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ ที่ค่ายศรีพัชรินทรา มณฑลทหารบกที่ 23 จ.ขอนแก่น โดยมี พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ. และนายทหารระดับสูงของกองทัพบกร่วมคณะไปด้วย ทั้งนี้ พล.อ.เปรมสวมเครื่องแบบทหารบกแขนยาว และหมวกบาเรต์สีดำ โดยทันทีที่พบกลุ่มผู้สื่อข่าวที่ไปดักรอสัมภาษณ์ พล.อ.เปรมก็รีบพูดทันทีว่า วันนี้นักข่าวมาเยอะ พร้อมเดินตรงไปที่ห้องรับรองของสนามบิน ขส.ทบ.ทันที

ทหารม้าตบเท้าให้กำลังใจ


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ พล.อ.เปรมลงเครื่องบินที่ จ.ขอนแก่นแล้ว ได้แวะไปที่บ้านพักรับรองของค่ายเปรมติณสูลานนท์ ภายในกองพันทหารม้าที่ 14 รักษาพระองค์ โดยมีนายทหารระดับผู้บังคับหน่วยและนายทหารสัญญาบัตรจำนวนกว่าร้อยนาย จากกองพันทหารม้าที่ 14 และกรมทหารม้าที่ 6 รักษาพระองค์ ตบเท้ามารอต้อนรับและให้กำลังใจ

มีชัย อัดกลับลูกกะโล่นายกฯ


ส่วนกรณีที่นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ประธานเครือข่ายพลังประชาชนเพื่อประเทศไทย ยื่นเรื่องร้องต่อกองปราบปราม ขอให้สอบสวนกรณีนายมีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธานวุฒิสภา เขียนบทความในเว็บไซต์มีชัยไทยแลนด์ ดอทคอม เรียกร้องให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยชื่อผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ ซึ่งเนื้อหาในบทความดังกล่าว อาจเข้าข่ายความผิดดูหมิ่นพระมหากษัตริย์นั้น วันเดียวกัน นายมีชัยได้ตอบกระทู้ในเว็บไซต์เกี่ยวกับกรณีดังกล่าวว่า การแจ้งความถือเป็นสิทธิของผู้แจ้ง ส่วนจะเป็นการกล่าวโทษหรือไม่ยังไม่ทราบ ตำรวจต้องดูว่ามีมูลความผิดหรือไม่ ก่อนที่จะดำเนินการต่อไป เชื่อว่าตำรวจคงพิจารณาถึงผลตามสมควร เพราะบทความนั้นไม่ได้กล่าวหาอะไรนายกรัฐมนตรี แต่เป็นการเปิดช่องทาง ให้นายกฯ ให้ออกมาปฏิเสธเพื่อปกป้องไม่ให้สาธารณชนเข้าใจผิด ถ้าอ่านบทความให้ดีอย่างละเอียดก็จะเข้าใจได้ แต่คนที่ไปแจ้งความแล้วนึกว่าเป็นการเอาใจหรือช่วยเหลือ นาย ก็อาจกลายเป็นการนำผลร้ายมาสู่ นาย โดยไม่ รู้ตัวก็ได้ สำหรับการแก้ไขปัญหาการเมืองไทยให้กลับเข้าสู่ความสงบโดยเร็วนั้น ขณะนี้ยังมองไม่เห็นแสงเลย

อภิสิทธิ์ บี้ ทักษิณ รับผิดชอบคำพูด


เมื่อเวลา 08.10 น. วันเดียวกัน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการข่าวยามเช้า ออกอากาศทางวิทยุเอฟเอ็ม 101 เมกะเฮิรตซ์ ถึงกรณีพรรคไทยรักไทยระบุว่า พรรคประชาธิปัตย์เป็นผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญว่า ปัญหานี้จะไม่มีวันจบ หากยังมีรัฐบาลและผู้นำที่คิดถึงแต่อำนาจตัวเอง เนื่องจากเหตุการณ์วุ่นวายเกิดจากคำพูดของ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียว ที่เป็นผู้จุดประเด็นขึ้นมา ไม่ใช่พูดด้วยความพลั้งเผลอ เพราะมีการเตรียมการไว้ แต่กลับไม่มีความพยายามรับผิดชอบ ความอึมครึมจึงมีอยู่ต่อไป เมื่อผู้นำประเทศพูดเองจะบอกว่าไม่มีหลักฐานไม่ได้ กล้าพูดต้องกล้ารับผิดชอบ ดังนั้นต้องออกมาบอกว่าหมายถึงใคร จะให้ลูกพรรคไปวิเคราะห์แปลงสารจากผู้มีบารมีกลายเป็นผู้มีอิทธิพลไม่ได้ ถือเป็นเรื่องไร้สาระ เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณบอกว่าคนที่พูดถึงมีบารมีมาก สามารถสั่งการข้าราชการได้ ขอถามว่าตนสามารถสั่งการอะไรใครได้ ทุกวันนี้ยังถูกฟ้อง ร้องเลย

โวย ทรท.โยนบาปให้ ปชป.


นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า กรณีที่ทีมกฎหมายพรรคไทยรักไทยระบุว่าพรรคประชาธิปัตย์เป็นผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญนั้น เป็นการพาดพิงที่ไร้สาระ โยนบาปให้พรรคประชาธิปัตย์ ทั้งที่บาปนี้ก่อโดย พ.ต.ท.ทักษิณ และประชาชนยังสงสัยว่าอะไรเป็นแรงดลใจให้พูดออกมา การพูดดังกล่าวทำ ให้การเมืองแกว่ง ไม่เป็นผลดีกับใคร

นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกสำนักเลือกตั้งพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า การที่ พ.ต.ท.ทักษิณจะหยุดพักการเมือง 4 วัน ถือเป็นการจนตรอกด้วยเหตุผลที่เปิดเผยเรื่องผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ ซึ่งเรื่องนี้ทำให้อุณหภูมิการเมืองร้อนแรงขึ้น เกรงว่าจะนำไปสู่ความรุนแรง ทำให้ ระบอบประชาธิปไตยเสียหาย

ชท.อัดโฆษกรัฐบาลแบ่งชั้นวรรณะ


นายเกษม สรศักดิ์เกษม รองเลขาธิการพรรคชาติไทย กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณควรออกมาชี้แจงให้ชัดเจนว่าผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญเป็นใคร การให้ น.พ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ออกมาชี้แจงแทนนั้น เป็นการพูดง่ายๆและไม่มีใครเชื่อ ยิ่งบอกว่าหมายถึงสามัญชน จะยิ่งเป็นการแบ่งชั้นวรรณะ ทำให้คนคิดมากโดยใช่เหตุ ส่วนที่ฝ่ายกฎหมายพรรคไทยรักไทยระบุว่า ผู้มีบารมีคือพรรคประชาธิปัตย์และกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยนั้น ฟังแล้วงง เพราะคนที่จะวิเคราะห์ว่าเป็นใครนั้นน่าจะเป็นคนนอกพรรค แต่กลับ กลายเป็นว่าคนในพรรคไทยรักไทยมาวิเคราะห์สิ่งที่หัวหน้าพรรคพูด ถือเป็นเรื่องประหลาด เดี๋ยวบ้านเมืองจะไปกันใหญ่ ประเด็นนี้มาจาก พ.ต.ท.ทักษิณเอง ทำให้เกิดความยุ่งยาก

เย้ยลูกหาบ ทรท.แค่หางเครื่อง


นายจอน อึ๊งภากรณ์ รักษาการ ส.ว.กทม. กล่าวถึงกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี บอกให้ สื่อมวลชนเลิกถามเรื่องผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญว่า ไม่ถูกต้อง ถ้า พ.ต.ท.ทักษิณเป็นดาราหรือนักร้องก็มีสิทธิที่จะตอบหรือไม่ตอบคำถามได้ แต่การเป็นนายกฯทำหน้าที่บริหารประเทศต้องได้รับการตรวจสอบจากสื่อมวลชน โดยเฉพาะเรื่องที่มาจากคำพูดของนายกฯยิ่งจำเป็นต้องตอบ จึงไม่ใช่เรื่องที่จะไปแสดงอารมณ์กับสื่อมวลชน ขณะนี้มีกระบวนการเคลื่อนไหวหลายอย่างเพื่อกลบเกลื่อนคำพูดของ พ.ต.ท.ทักษิณ โดยเฉพาะอดีต ส.ส.พรรคไทยรักไทยที่บอกว่าผู้มีบารมีหมายถึงกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย การเคลื่อนไหวอย่างนี้คล้ายกับนักร้องลูกทุ่งที่ต้องมีหางเครื่องจำนวนมาก และเป็นกระบวนการปกป้องเจ้านาย ทั้งที่ความจริงควรจะช่วยกันเตือน พ.ต.ท.ทักษิณว่า กระทำการหลายอย่างไม่เหมาะสม

กลุ่มพันธมิตรฯ นัดชุมนุม 14 ก.ค


เมื่อเวลา 11.00 น. วันเดียวกัน ที่บ้านพระอาทิตย์ แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ประกอบด้วยนายสนธิ ลิ้มทองกุล นายสมศักดิ์ โกศัยสุข นายพิภพ ธงไชย พล.ต.จำลอง ศรีเมือง พร้อมด้วยนายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มพันธมิตรฯ ได้ร่วมประชุมกันเพื่อกำหนดท่าทีของกลุ่ม จากนั้นนายสุริยะใสแถลงว่าที่ประชุมได้หารือกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พูดถึงเรื่องผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ ซึ่งมีกระแสสังคมออกมาทวงถามว่าบุคคลดังกล่าวหมายถึงใคร แต่กลับมีความพยายามบิดเบือนว่าเป็นกลุ่มพันธมิตรฯบ้าง ฝ่ายค้านบ้าง สื่อมวลชนบ้าง วิธีการนี้ไม่สามารถคลี่คลายหรือขจัดความสงสัยของประชาชน ที่สำคัญพฤติการณ์ของระบอบทักษิณที่อยู่ระหว่างรักษาการมีความชัดเจนว่าจาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นระยะและชัดเจนมากขึ้น ดังนั้นที่ประชุมมีมติร่วมกันว่า ถ้าประชาชนคนไทยเห็นความจำเป็นว่าถึงเวลาที่ต้องแสดงพลัง เพื่อปกป้องระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ขอให้ออกมาแสดงพลังกับกลุ่มพันธมิตรฯ ในวันที่ 14 ก.ค. ตั้งแต่เวลา 08.00 น. ที่สนามหลวง จากนั้นจะร่วมเดินไปที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อเรียกร้องให้ พ.ต.ท.ทักษิณตอบข้อสงสัยว่าผู้มีบารมีหมายถึงใคร และเรียกร้องให้ พ.ต.ท.ทักษิณลาออกจากตำแหน่ง อย่างไรก็ตามยังบอกไม่ได้ว่าการชุมนุมจะยืดเยื้อหรือไม่

เย้ย ทักษิณ ประเมินกระแสผิด


นายสนธิกล่าวเสริมว่า พ.ต.ท.ทักษิณไม่ยอมตอบคำถามว่าผู้ที่มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญคือใคร แต่ให้ลิ่วล้อออกมาอาละวาดรังแกกลุ่มคนต่างๆด้วยคำพูดที่พลิกผันไปจากประเด็นหลักที่ประชาชนสงสัย โยนความผิดให้กลุ่มพันธมิตรฯ และพรรคประชาธิปัตย์ ระบอบทักษิณที่แท้จริงคือระบอบที่ไม่ต้องการประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุข ไม่เช่นนั้น พ.ต.ท.ทักษิณคงไม่บังอาจจาบจ้วงได้เช่นนี้ เมื่อมีคนถามว่าเป็นใครก็ต้องกล้าที่จะตอบ แต่ที่ไม่กล้าเพราะปฏิกิริยาของสังคมสะท้อนกลับมาแรงกว่าที่คิด อีกทั้งการรักษาการของ พ.ต.ท.ทักษิณนั้น ยิ่งนานไปยิ่งจะทำให้เกิดความเสียหายให้กับชาติบ้านเมือง ไม่สนใจกติกาของรัฐธรรมนูญ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ ได้นำแผ่นซีดี สนธิถามทักษิณ ใครคือผู้มีบารมี? ป๋าเปรม? หรือเหนือกว่าป๋าเปรม? แจกให้สื่อมวลชนหลังเสร็จการแถลงข่าว

แหล่งที่มา: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์