ทักษิณนึกว่า ใช้ เขา ทั้งๆ ที่ตัวเองถูกเขา ใช้

มีคนบอกผมว่าใครต่อใครต่างก็ "ใช้" ทักษิณ ชินวัตร เป็นเครื่องมือเพื่อบรรลุเป้าหมาย ทางการเมืองของตนทั้งนั้น ทั้งๆ ที่ตัวเองถูกคนกลุ่มต่างๆ "ใช้" เพื่อประโยชน์ของพวกเขาเอง

 พูดง่ายๆ คือ ไม่มีใครเอากับทักษิณ จริงๆ


 นักการเมืองบางกลุ่ม หลอกทักษิณเพื่อปอกลอกเงินของเขา มาใช้ในการหาเสียงเพื่อตัวเองจะได้รับการเลือกตั้ง


 นักการเมืองพวกนี้ หากว่ามีการเลือกตั้งครั้งใหม่ ก็จะยังใช้ชื่อและเงินของทักษิณหาเสียง แต่เมื่อได้รับเลือกตั้งแล้วก็จะไม่ยอมฟังคำสั่งของทักษิณ อีกต่อไป


 นักการเมืองอีกบางกลุ่ม กำลังวางแผนจะ "ยึดพรรค" จากทักษิณ... แต่จะอำพรางแผนการของตัวเองไว้อย่างแนบเนียน... พูดจาปราศรัยในที่สาธารณะ ก็จะยังพูดถึงทักษิณ ด้วยน้ำเสียงยกย่องและนับถือ แต่พอลับหลังแล้วก็บอกใครต่อใครว่า "ยังไงๆ ทักษิณก็ไม่ได้กลับมาประเทศไทยหรอก..."


 นักวิชาการบางกลุ่ม เกาะกับทักษิณ เพราะหวังจะได้ใช้บารมีทักษิณ เข้าถึงบางแหล่งเงินและแหล่งวิชาชีพ ออกมาปกป้องทักษิณ ด้วยการอ้างว่าคนที่วิจารณ์ทักษิณ ไม่เข้าใจถึงความสำเร็จของนโยบาย "ประชานิยม" ของทักษิณ


 นักวิชาการเหล่านี้ อ้างเสมอว่าพวกเขาเข้าใจ "รากหญ้า" มากกว่านักวิชาการคนอื่นๆ และที่ชื่นชมทักษิณนั้น ก็เพราะเห็นเขาเป็นนักการเมืองคนแรก ที่ทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้าน ในชนบทดีขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม


 แต่นักวิชาการเหล่านี้ จะไม่ยอมพูดถึงเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนของทักษิณ จะไม่สอนลูกศิษย์ถึงอันตราย ของคนที่ใช้เงินงบประมาณและภาษีประชาชน เพื่อสร้างฐานการเมือง สำหรับการเลือกตั้งครั้งต่อไปเป็นเป้าหมายสำคัญ


 นักวิชาการ ที่เรียกตัวเองว่า "ซ้าย" ก็ใช้ทักษิณ เพื่อเสริมฐานะของตัวเองในสังคม พวกเขาเหล่านี้พร้อมจะแสดงตนเป็น "แนวร่วม"  ของทักษิณ ในบางเรื่องเพื่อยืนยันว่า สิ่งที่พวกตนพูดและเขียนนั้นเป็นแนวทาง "มวลชน" ที่สอดคล้องกับนโยบายทักษิณ


 นักวิชาการ ที่เรียกตัวเองว่า "ซ้าย" บางคน ได้รับผลประโยชน์ในรูปแบบของเงินๆ ทองๆ กับตำแหน่งแห่งหน หรือไม่ก็ได้งบประมาณจากทักษิณ สมัยมีอำนาจในการทำกิจกรรมที่ตนต้องการทำ


อีกบางคน ก็เกาะทักษิณ เพราะทักษิณเอานโยบายบางเรื่อง บางด้าน ที่ตนเสนอมาใส่ในแผนการของพรรคและรัฐบาล สมัยเรืองอำนาจ


 "ซ้าย" วิชาการ กับ "ประชานิยม" "ทุนนิยม" เข้ากันได้อย่างไรเป็นเรื่องที่ประหลาด แต่เมื่อต่างคนต่างแอบคิคว่าสามารถ "ใช้" อีกฝ่ายหนึ่งเป็นบันไดพาดไปถึงสิ่งที่ตนต้องการจะไปถึง ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก หากอะไรๆ ที่เราเห็นอยู่นั้น เป็นเรื่องประหลาดจากทฤษฎีสังคมการเมืองที่เราเคยเห็นมาตลอด


 ดังนั้น คำว่า "รัฐไทยใหม่" ที่นักวิชาการ "สีแดง" ใช้เรียกขานแผนการ "เปลี่ยนประเทศไทย" นั้น จึงเป็นคำที่ทักษิณ ยังไม่เคยอธิบายชี้แจงว่าหมายถึงอะไร?


 ทักษิณ ใช้คำว่า "สงครามประชาชน" เพื่อเปลี่ยนประเทศไทย แต่ไม่ได้บอกว่ารูปแบบของ "สงคราม" ที่ว่านี้มีเป้าหมายให้ไทยเป็น "รัฐใหม่" แบบใด?


 เป็นรัฐทุนนิยมสุดขั้วผสมประชานิยมสุดกู่ เพื่อให้พรรคการเมืองของตนชนะการเลือกตั้งทุกครั้งอย่าล้นหลาม เพราะใช้เงินและนโยบายซื้อใจประชาชนได้ในทุกเรื่อง


 หรือเป็นรัฐไทยใหม่ ตามแนวคิด "ซ้าย" ที่บางคนเรียกว่า "ล้มปืน ล้มเจ้า" เพื่อสถาปนาระบบการปกครองแบบสังคมนิยม ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นเป้าหมายหลัก ของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยที่ทำไม่สำเร็จ?


 เพราะเมื่อนักปราศรัยบนเวทีเสื้อแดงพูดถึงคำว่า "สงครามชนชั้น" และ "สงครามไพร่โค่นอำมาตย์" จนกลายเป็นคำขวัญประจำไปแล้ว ก็ย่อมหลีกหนีไม่พ้นที่ผู้คนที่ฟังบ่อยๆ เข้า จะต้องตีความว่านี่คือการสะท้อนแนวคิดแบบมาร์กซิสต์ ที่แน่นอนว่าเป็นคนละสูตร กับระบอบประชาธิปไตยรัฐสภา ที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขอย่างในปัจจุบันแน่นอน


 นักปราศรัยของคนเสื้อแดงที่ใช้คำต่างๆ เหล่านี้ จะเข้าใจคำว่า "สงครามชนชั้น" มากน้อยแค่ไหน ไม่อาจจะรู้ได้ แต่เมื่อเปล่งออกมาจนกลายเป็นวาทะประจำของการรณรงค์ "โค่นอำมาตย์" แล้ว ก็ต้องรับผิดชอบต่อสิ่งที่พูดออกไป


 นั่นก็เหมือนกับว่า นักพูดบนเวทีเหล่านี้ จะ "ใช้" ทักษิณ เพื่อบรรลุเป้าหมายของตนเช่นกัน


 ขณะเดียวกัน ต้องไม่ลืมว่า ทักษิณ เอง ก็เชื่อว่าตนเองสามารถ "ใช้" นักการเมือง นักวิชาการ นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ทั้งขั้วทุนนิยม ขั้วนักเลือกตั้ง และนักวิชาการหัวขวาตกขอบ และซ้ายนักฉวยโอกาส เพื่อเป็นเครื่องมือให้ตนมีอำนาจทางการเมืองเบ็ดเสร็จเด็ดขาด เช่นกัน


 ใครใช้ใคร? ใครเป็นเครื่องมือใคร? ใครหลอกใคร? เป็นคำถามที่กำลังเห็นคำตอบ คลี่ออกมาทีละข้อสองข้อแล้ว


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์