ทักษิณกลับแน่ลั่นถึงเวลาสู้สุรยุทธ์ไฟเขียวเป็นสิทธิ

ชี้แจงทรัพย์สินหลังถูก คตส.อายัดทรัพย์ เมินขออนุญาต คมช. "สุรยุทธ์" ไฟเขียว ระบุเป็นสิทธิที่จะมาชี้แจง ด้าน "สนธิ" ปัดใบสั่งอายัดทรัพย์ ธปท.เชื่อเงินขายหุ้นชิน 2 หมื่นล้านยังอยู่ในไทย คตส.ขีดเส้นทุกแบงก์รายงานบัญชี "แม้ว-อ้อ" ภายใน 3 วัน

ภายหลังคณะกรรมการตรวจสอบ

การกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) มีคำสั่งอายัดทรัพย์สิน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และครอบครัว ทุกบัญชีทุกสถาบันการเงิน ทำให้เกิดปฏิกิริยาจากอดีตผู้นำประเทศขึ้น โดย พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวผ่านทนายความตระกูลชินวัตรว่า จะเดินทางกลับประเทศไทยในเร็วๆ นี้ และคงไม่ต้องขออนุญาตจาก คมช.

ในตอนแรก พ.ต.ท.ทักษิณคิดว่ามีการอายัดทรัพย์ของตัวเองและภรรยาเท่านั้น จึงบอกว่าจะขอเงินลูกใช้ แต่พอทราบภายหลังว่าบัญชีของลูกก็ถูกอายัดด้วยแล้ว จึงรู้สึกว่าไม่เป็นธรรม

ดังนั้นจึงเป็นไปได้ที่เรื่องนี้จะส่งผล

ให้ พ.ต.ท.ทักษิณเดินทางกลับมาประเทศไทยเร็วขึ้น คาดว่าภายใน 2-3 วันนี้จะมีความชัดเจน และคงไม่จำเป็นต้องขออนุญาตจากคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) เนื่องจาก พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษก คมช.บอกเองว่า อดีตนายกฯ มีสิทธิเดินทางกลับได้โดยไม่ต้องขออนุญาต ทั้งนี้ ยืนยันว่าจะไม่ทำให้เกิดความปั่นป่วนขึ้นอย่างแน่นอน

นายนพดล กล่าวว่า

ได้พูดคุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ใน 5 ประเด็น คือ

1.แม้พรรคไทยรักไทย

จะถูกตุลาการรัฐธรรมนูญตัดสินให้ยุบพรรค แต่สมาชิกพรรคก็ยังคงเป็นปึกแผ่น เข้าใจว่าคนบางกลุ่มอยากทำลายพรรคไทยรักไทย และเข้าใจไปเองว่ามีการส่งท่อนำเลี้ยงจาก พ.ต.ท.ทักษิณให้คนที่ท้องสนามหลวง จึงพยายามจะตัดท่อน้ำเลี้ยง ถือเป็นการกระทำที่ขัดต่อกฎหมาย ละเมิดหลักนิติธรรมและไร้คุณธรรม

2.หลังจากที่มีการยึดอำนาจ

เมื่อวันที่ 19 กันยายน พ.ต.ท.ทักษิณได้ประกาศมาตลอดว่าจะวางมือทางการเมือง พูดชัดเจนว่าจะไปสอนหนังสือ และทำงานด้านสาธารณกุศล แต่หลังจากนั้นมีการถอนพาสปอร์ตทูตก่อนที่จะมีการอายัดทรัพย์สิน

"พ.ต.ท.ทักษิณจึงฝากถามว่าอยากให้ท่านกลับสู่การเมืองใช่หรือไม่ เพราะขณะนี้ไม่ได้รับความเป็นธรรมต่อครอบครัว เมื่อเข้าตาจนทุกคนก็ต้องหาทางต่อสู้" นายนพดล กล่าวอ้างคำพูดของ พ.ต.ท.ทักษิณ

ยังได้คุยในประเด็นที่ 3 คือ

คำสั่งอายัดทรัพย์ไร้คุณธรรม ไม่เป็นธรรม และขัดต่อหลักกฎหมาย กรณีของซีทีเอ็กซ์ หวยบนดิน และทุจริตกล้ายาง ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบของ คตส. มีเพียงคดีที่ดินรัชดาฯ เท่านั้นที่มีข้อสรุปแล้ว เรื่องส่วนใหญ่ยังไม่มีข้อสรุปเลย ถือเป็นการสันนิษฐานให้ผิดไว้ก่อนแล้วค่อยมาพิสูจน์กันใช่หรือไม่ เพราะหลักฐานถือว่าไม่เพียงพอ เป็นการเหวี่ยงแห หาเรื่อง พ.ต.ท.ทักษิณอย่างถึงที่สุด

4.ข้อหาร่ำรวยผิดปกตินั้น ยืนยันว่า

ท่านร่ำรวยเป็นปกติ ทรัพย์สินเพิ่มขึ้นเป็นปกติ หากดูจากปี 2536 ดัชนีอยู่ที่ 1400 หุ้นกลุ่มชินมีราคาพาร์ 143 บาท ต่อมาปี 2541 หลังวิกฤติเศรษฐกิจ ราคาพาร์เหลือ 1 บาท และในปี 2549 ราคาพาร์อยู่ที่ 49 บาท ดังนั้น จะเห็นว่าการเปลี่ยนแปลงเป็นไปตามราคาตลาด ไม่มีอะไรที่จะไปทำให้ราคาหุ้นขึ้นจนร่ำรวยผิดปกติได้ มี 3-4 โครงการที่ คตส.ไม่ได้ตรวจสอบ แต่กลับเอามาอ้าง เป็นการกล่าวหา บิดเบือนข้อมูล พยายามเด็ดปีก พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ให้มีความสะดวกสบาย

5.นายนาม ยิ้มแย้ม ประธานคตส. จะกลั่นแกล้งเอาผิด พ.ต.ท.ทักษิณไปอีกนานแค่ไหน

นายนพดล กล่าวว่ายืนยันว่าเงินยังอยู่ในธนาคารไทยพาณิชย์เป็นส่วนใหญ่ และหลังยึดอำนาจ เงินเหล่านั้นก็ยังคงอยู่ในบัญชี ไม่มีการยักย้ายถ่ายเทแต่อย่างใด

ครอบครัวนี้เป็นคนไทยธรรมดา

" ที่ทำธุรกิจสุจริต ไม่ได้โกงใครมา เขาจะกินจะใช้อะไร ต้องไปแบบมือขอเงินจากคุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา อย่างนั้นหรือ ทั้งๆ ที่เงินเขาเป็นคนหามาได้เอง ทุกบัญชีเอาของเขาหมด ถ้าอยากจะเติมน้ำมันรถก็ต้องไปบอกนายกล้านรงค์ จันทิก ใช่หรือไม่ อย่าว่าเป็นการเหวี่ยงแหเลย

คิดว่าเป็นการใช้อวนลากมากกว่า

สังคมเข้าใจดีว่าใครที่ถูกกระทำ วันนี้หลักนิติธรรมถือว่าถูกทำลายอย่างร้ายแรงที่สุด เราไม่มีปืน จะสู้ตามกรอบกติกาไม่จำเป็นต้องไปปล้นอำนาจมา หรือไปคุกคามข่มขู่อย่างที่คนอื่นทำ ช่วงนี้ประเทศไทยอยู่ในช่วงที่กระบวนการยุติธรรมถูกท้าทายมากที่สุด" นายนพดล ระบุ

เมื่อถามว่า

การเดินทางกลับมาของ พ.ต.ท.ทักษิณจะเป็นไปในรูปแบบใด นายนพดล ตอบว่า กลับมาได้หลายวิธี แม้จะเล่นการเมืองไม่ได้ แต่ก็ยังสนับสนุนได้ ให้กำลังใจ ให้คำปรึกษา สนับสนุนทางการเงิน หรือช่วยปราศรัยได้ ถ้าหากมีการบังคับและกลั่นแกล้งกันมาก พ.ต.ท.ทักษิณก็จะไม่กลับมาในฐานะผู้นั่งชม แต่จะเป็นผู้เล่น วันนี้จึงขอถามว่าอยากเลิกหรือให้กลับ

พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จะเดินทางกลับประเทศไทยว่า เป็นเรื่องที่ พ.ต.ท.ทักษิณ สามารถทำได้อยู่แล้ว เพราะเมื่อ คตส.ได้ประกาศไปแล้วว่า สามารถที่จะมาชี้แจงเรื่องทรัพย์สินของตัวเองได้ภายในเวลา 60 วัน ก็ถือเป็นสิทธิของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่จะมาชี้แจงว่าทรัพย์สินที่ได้มาเป็นไปอย่างไร หากอยู่ภายในระยะเวลา 60 วัน ก็ถือว่าให้ทำตามที่ คตส.ได้แจ้งไป

ต่อข้อถามว่า

รัฐบาลจะให้ความมั่นใจเรื่องความปลอดภัยหาก พ.ต.ท.ทักษิณกลับมาอย่างไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจ รัฐบาลคงไม่ต้องไปรับรองเรื่องความปลอดภัย เพราะกฎหมายในบ้านเราเป็นกฎหมายที่ให้สิทธิเท่าเทียมกันกับประชาชนทุกคน ไม่ได้มีข้อยกเว้นเป็นพิเศษสำหรับผู้หนึ่งผู้ใด

ผู้สื่อข่าวถามว่า

มีการพูดคุยกับ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ประธาน คมช.ถึงเรื่องการกลับมาของ พ.ต.ท.ทักษิณหรือไม่ เพราะอาจส่งผลเชื่อมโยงกับการชุมนุม นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยังไม่มีการพูดคุยกัน แต่หาก พ.ต.ท.ทักษิณจะเดินทางกลับมาชี้แจงเรื่องทรัพย์สินก็สามารถอธิบายในเหตุผลได้ ไม่จำเป็นต้องขออนุญาต คมช.หรือรัฐบาล เพียงแต่หากจะเดินทางเข้ามา ก็ควรจะชี้แจงให้ คตส.ทราบว่า จะเข้ามาเมื่อไร อย่างไร จะได้ประสานงานกัน

เมื่อถามว่า

ยืนยันได้หรือไม่ว่ารัฐบาลจะให้ความเป็นธรรมกับ พ.ต.ท.ทักษิณ โดยไม่ตั้งธงไว้ก่อนว่าจะเอาผิด นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลไม่เคยคิดเลยที่จะเอาผิด เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม รัฐบาลไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องที่จะชี้ว่าใครผิดหรือไม่ผิด และรัฐบาลก็มีหน้าที่ดูแลให้บ้านเมืองเกิดความสงบ นำไปสู่ขั้นตอนต่างๆ และการเลือกตั้งในปลายปีนี้

พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะประธาน คมช.ให้สัมภาษณ์กรณีที่มีการวิจารณ์ว่าคำสั่งอายัดทรัพย์ของ คตส.ครั้งนี้เป็นใบสั่งที่มีผลพวงมาจากการหารือกันระหว่างประธาน คมช. นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ระหว่างการออกรอบตีกอล์ฟเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่า "โอ๊ย ไปแตะท่านได้ที่ไหน คตส. ก็รู้อยู่"

เมื่อถามว่า

การหารือเกิดขึ้นระหว่างไปร่วมออกรอบตีกอล์ฟเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาจริงหรือไม่ พล.อ.สนธิ กล่าวว่า ผมไม่ได้ไปเล่นกอล์ฟ ผมไม่ได้ไป อย่างไรก็ตาม เห็นว่า เหตุผลในการสั่งอายัดทรัพย์ของ คตส.นั้นเหมาะสมแล้ว

ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า

ทำไมเพิ่งจะมีการอายัดทรัพย์ตอนนี้ ทำไมไม่ทำตั้งแต่ต้นเพื่อที่จะตัดท่อน้ำเลี้ยงไม่ให้เกิดปัญหาอยู่ทุกวันนี้ พล.อ.สนธิ กล่าวว่า มันก็ต้องมีเหตุมันถึงมีผล ก็บอกแล้วว่า ประกาศ คปค.ที่ทำไว้ ก็ไม่ได้คิดที่จะยึด หรืออายัดทรัพย์ เพราะเราเห็นว่าข้อกฎหมายในข้อเท็จจริงก็จะดำเนินการไปตามขั้นตอนของมัน

ส่วนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ

เตรียมที่จะฟ้องกลับ ตรงนี้สามารถทำได้หรือไม่ พล.อ.สนธิ กล่าวว่า ระบอบประชาธิปไตยก็ฟ้องกันไปฟ้องกันมา ก็แล้วแต่ สุดท้ายคือ ศาลเป็นผู้ตัดสิน

พล.อ.สนธิ ให้สัมภาษณ์อีกครั้งกรณีนายกรัฐมนตรีไฟเขียวให้ พ.ต.ท.ทักษิณกลับเข้าประเทศเพื่อชี้แจงอายัดทรัพย์ว่า ก็ต้องว่าไปตามนายกรัฐมนตรี ส่วนการเข้าประเทศของ พ.ต.ท.ทักษิณนั้น เห็นว่าไม่มีอะไรที่น่าเป็นห่วง

เมื่อถามว่า

การที่ คตส.ประกาศอายัดทรัพย์เหมือนเป็นการเพิ่มความแค้นให้ พ.ต.ท.ทักษิณหรือไม่ พล.อ.สนธิ กล่าวว่า อายัดทรัพย์ แต่ไม่ได้ยึดทรัพย์ ดังนั้นจะต้องมาพิสูจน์ว่าทรัพย์สินนั้นมีความเป็นมาอย่างไร ซึ่ง คตส.ให้เวลาถึง 2 เดือน หรือ 60 วัน จึงคิดว่าไม่น่าจะเป็นห่วงอะไร ส่วนจะมีการกักบริเวณหรือจำกัดบริเวณ พ.ต.ท.ทักษิณหรือไม่ พล.อ.สนธิ กล่าวว่า "ไปกักเรื่องอะไร ทำอะไรผิดล่ะ"

เมื่อถามว่า

หาก พ.ต.ท.ทักษิณกลับเข้าประเทศจริง จะมีการเชิญตัวมาพูดคุยก่อนหรือไม่ พล.อ.สนธิ กล่าวว่า คงไม่ต้องหรอก แต่ระดับนี้คงจะต้องให้ทางรัฐบาลไปดู คมช.น่าจะเป็นฝ่ายประสานรายละเอียดมากกว่า

นางธาริษา วัฒนเกส ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับหนังสือจาก คตส.เกี่ยวกับการตรวจสอบการเคลื่อนไหวของเงินจำนวน 2.1 หมื่นล้านบาท ที่หายไปจากบัญชีเงินฝากของ พ.ต.ท.ทักษิณ และบุคคลในครอบครัว ซึ่งได้รับจากการขายหุ้นบริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หลังจากที่ คตส.มีมติให้อายัดบัญชีเงินฝากทั้งหมด

ผู้ว่าการ ธปท.เชื่อว่า

เงินจำนวน 2.1 หมื่นล้านบาท ที่ยังตรวจสอบไม่พบ คาดว่ายังอยู่ในประเทศ เนื่องจากก่อนหน้านี้มีเพียงรายการเดียวที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ขอนำเงินออกนอกประเทศคือ รายการซื้อบ้านที่ประเทศอังกฤษจำนวน 400 ล้านบาท

นอกจากนี้ ธปท.ยังเชื่อว่า

พ.ต.ท.ทักษิณและครอบครัวจะใช้วิธีนำเงินออกโดยไม่โอนผ่านบัญชีธนาคาร เนื่องจากเป็นเงินจำนวนมาก และแลกเงินแล้วนำออกโดยตรง ธนบัตรอาจมีไม่เพียงพอให้แยก และถ้ามีการแลกเงินออกไปจริงก็น่าจะมีผลต่อค่าเงินมากกว่า โดยอาจทำให้ค่าเงินบาทอ่อนกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบันมาก

ด้านนายสุชาติ สักการโกศล

ผู้อำนวยการฝ่ายกำกับการแลกเปลี่ยนเงินและสินเชื่อ ธปท. เชื่อว่า การตรวจสอบเรื่องดังกล่าวใช้เวลาประมาณ 7-15 วัน และสามารถดูรายการบันทึกย้อนหลังได้ถึง 3 ปี

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย:

หนังสือพิมพ์คมชัดลึก